คืนสยองขวัญ


คืนสยองขวัญ

"ภัณฑิรา" เล่าประสบการณ์ขนหัวลุกจากรีสอร์ตที่พัทยา



สมัยที่ยังเป็นนักศึกษาเมื่อราวสิบกว่าปีก่อน ดิฉันกับเพื่อนอีก 2 คนรวม 3 สาวเกิดนึกซนๆ

นัดกันไปเที่ยวพัทยา จำได้ว่าเป็นภาคปลายของปี 4 หมิวเป็นเพื่อนที่มีรถเก๋งขับ เธอเป็นสาวเปรี้ยวที่สุดในกลุ่มเรา



และความเปรี้ยวของเธอนี่แหละ ทำให้ดิฉันกับอ๋อยโดนผีหลอกเกือบตาย!



ดิฉันเกริ่นไว้แล้วว่าเรา 3 คนเป็นสาวซนจริงๆ แต่เราเรียนดีนะคะ ได้เกรด 3 กว่าๆ กันทุกคนเลย

ความซนของเราอาจจะเป็นเพราะหมิวก็ได้ เธอมีรถยี่ห้อดีขี่...เอ๊ย! ขับมามหาวิทยาลัยทุกวัน



เธอใจดีเสียด้วย ขับมาส่งดิฉันที่บ้านเป็นประจำ



ทำให้ประหยัดค่ารถเมล์ไปเยอะ แต่ต้องเอาไปช่วยเธอจ่ายค่าน้ำมันนะคะ วันไหนเกิดอาการเซ็ง

หมิวจะชวนเราขึ้นรถไปโฉบฉายที่ศูนย์การค้า หาของอร่อยๆ กิน ดูหนังสักเรื่อง แล้วกลับมาเรียนต่อตอนบ่ายๆ



เราไม่ได้โดดเรียนหรอกค่ะ ตารางสอนมันเปิดโอกาสให้เราได้เที่ยวเอง!



จู่ๆ สุดสัปดาห์ของเดือนธันวาคม ก่อนปีใหม่ หมิวเกิดนึกอยากไปทะเลเธอชวนเรา และเราก็วี้ดว้ายกระตู้วู้...

รีบขออนุญาตพ่อแม่แล้วก็ไปซื้อชุดว่ายน้ำสวยๆ กะเดินชายหาดกันให้มันส์หยด

อ้อ! เราคิดว่าจะค้างสักคืนเดียวก็กลับค่ะ




ความที่เป็นเด็ก ทำให้เราไม่ได้จองโรงแรมไปก่อน



ผลก็คือโรงแรมเต็มทุกที่ ไม่น่าเชื่อว่าจะมีคนเป็นหมื่นๆ คิดอยากจะเที่ยวทะเลหน้าหนาวเหมือนอย่างเรา

ในที่สุด เราพบรีสอร์ตแห่งหนึ่ง ไกลออกมาจากพัทยาเล็กน้อย มันไม่ได้อยู่ริมทะเล แต่อยู่ลึกเข้าไปในสวน



คิดว่าเนื้อที่ของรีสอร์ตคงจะประมาณ 5-6 ไร่ มันกว้างขวางมาก



และปลูกบ้านเป็นหลังๆ ให้เช่า แต่ละบ้านอยู่ติดๆ กัน มีที่จอดรถ มีครัวและห้องนอน 2 ห้อง ราคาก็ไม่แพงนัก

เราแชร์กันได้ค่ะ คืนเดียวเอง จะเป็นไรไป!

เราไปถึงที่นั่นตอนก่อนเที่ยง สถานที่ดูสงบเงียบมาก ร่มรื่นด้วยต้นไม้ใหญ่และดอกไม้ บ้านที่เราพักอยู่ห่างจากด้านหน้ารีสอร์ตเอาการ...



แต่เรามีรถนี่คะ จะต้องไปกลัวอะไรล่ะ?



พอเข้าที่พักเราก็เปลี่ยนชุดว่ายน้ำไว้ข้างใน เอาผ้าผืนใหญ่พันรอบเอวเป็นกระโปรง

หิ้วตะกร้าใบโต นั่งรถไปชายหาดด้วยกัน สนุกมากค่ะ ...เราเช่าเก้าอี้ริมหาดแล้วนั่งกินส้มตำ กินพลางก็ดูทะเลไปพลาง แหม! เพลินเชียวละ



ราว 4 โมงเย็น ขณะที่เดินเล่นกันอยู่



หมิวเกิดเจอะกับเพื่อนที่โรงเรียนเก่าของเธอ...โอ้โฮ! เม้าธ์กันกระจาย แต่เธอยังไม่หนำใจ...

หลังกินอาหารเย็นเราก็กลับที่พัก!

ตอนนั้นค่ำแล้วละค่ะ เกือบ 2 ทุ่ม รีสอร์ตดูสวยงามตอนกลางวันกลับวังเวงจนน่าขนหัวลุกในตอนกลางคืน



แต่กระนั้น เมื่อเพื่อนหมิวโทร.มาชวนเธอออกไปข้างนอก



เราก็เหนื่อยเกินกว่าจะตามไป เราไม่สนุกด้วยนี่คะ เลยปล่อยเพื่อนไปคนเดียว...เชิญตามสบายเลย

และแล้ว ตอน 4 ทุ่มหมิวโทร.มาบอกว่า ขอนอนคุยกับเพื่อนๆ ให้ฉ่ำใจสักคืนเถอะน่า แล้วพรุ่งนี้เช้าจะกลับมารับเรา



เป็นอันว่าดิฉันกับอ๋อยถูกปล่อยเกาะ!



เรามองไปรอบๆ ตัว...มันมืดและเงียบจริงๆ น่ากลัวจัง! ต้นไม้ที่ร่มรื่นตอนนี้น่าสยองเหลือเกิน

อากาศก็หนาว ข้างๆ บ้านก็ไม่มีคนมาพัก เหลือเรานั่งจ๋องกันสองคน...เสียงหริ่งหรีดเรไรร้องระงม



อ๋อยกลัวพอๆ กับดิฉัน เราปรับทุกข์ว่าถ้าเกิดอะไรขึ้นจะหนีกันยังไง?



รถก็ไม่มี มิต้องวิ่งมาราธอนหน้าตั้งวนอยู่ในนี้หรือ ทางออกไปทางไหนก็จำไม่ได้แล้ว...มันวกวนไปหมด นึกไม่ออก

ยังดีที่เรารู้สึกเหนื่อยและง่วง...เอางี้! นอนเลยดีกว่า หลับซะก็ไม่ต้องกลัวอะไรอีก...ว่าแล้วเราก็ล็อกบ้าน เดินเข้าห้องนอน



ก่อนนอนอ๋อยไปเข้าห้องน้ำ ดิฉันนึกยังไงไม่รู้ เปิดม่านไปดูบ้านข้างๆ



อะไรกันนั่น? ดิฉันเห็นบ้านนั้นเปิดไฟ มองเข้าไปเห็นผู้หญิงผู้ชายเต็มไปหมด มากกว่าสิบละค่ะ...

ดูท่าทางกำลังมีปาร์ตี้ อะไรกันนี่...เมื่อสิบนาทีก่อนยังไม่เห็นอะไรเลย บ้านข้างๆ หลังนี้ไม่มีคนอยู่สักหน่อย



กำลังนึกฉงนสนเท่ห์ อ๋อยก็เข้ามาในห้องนอน



แล้วบอกว่าทำไมข้างบ้านมีเสียงคนครึกครื้นเฮฮา มองไปมีแต่บ้านมืดๆ

เออ! ว่าแต่เสียงพวกนั้นมาจากไหน?

เสียงเหรอ! ขณะที่ดิฉันเห็นภาพ อ๋อยกลับเห็นบ้านว่างเปล่า มืดสนิท ตอนนั้นดิฉันใจหายวาบ น้ำตาไหลพราก อ๋อยถามใหญ่เลย...



พอดิฉันเล่าถึงสิ่งที่เห็นเธอก็อ้าปากค้าง ตาเหลือก ช็อกไปเลยค่ะ



เราเปิดไฟสว่างทั้งคืน และหลับไม่ลง อ๋อยได้ยินเสียงงานปาร์ตี้ตลอด ส่วนดิฉันไม่ได้ยินอะไรเลย...เราทั้งคู่กลัวจนร้องไห้ตัวสั่นงันงกไปหมด

รุ่งเช้า หมิวขับรถมาตอนสิบโมง เราโทรมมากๆ และเล่าเรื่องให้ฟัง...ไม่มีใครอธิบายได้จนบัดนี้ว่ามันเกิดอะไรขึ้น? แต่ที่แน่ๆ คือเราไม่เคยกลับไปที่นั่นอีกเลยค่ะ!




แหล่งที่มา:


เครดิต :

ข่าวดารา ข่าวในกระแส บน Facebook อัพเดตไว เร็วทันใจ คลิกที่นี่!!
กระทู้เด็ดน่าแชร์