เสียงเคาะปริศนา!?


เสียงเคาะปริศนา!?

เรื่องนี้เจอมากับตัวเองเมื่อต้นปี 2548



ตอนนั้นไปทำงานรับเหมาค่ะ ก็ต้องไปทำงานในโรงงานผลิตชื่อดังแห่งหนึ่งย่านปทุมธานี

ซึ่งฝั่งหนึ่งของโรงงานนี้ติดกับหมู่บ้านแห่งหนึ่ง ก็จะมีบ้านเรียงรายติดกับรั้วโรงงาน ซึ่งออฟฟิศชั่วคราวของดิฉันก็จะเป็นเหมือนตู้คอนเทนเนอร์(น่าจะเคยเห็นนะคะ)



แล้วก็ิติดแอร์ มีหน้าต่างเล็กๆ



ส่วนห้องน้ำก็อยู่ด้านนอกข้างๆออฟฟิศ ออฟฟิศนี้ก็อยู่ห่างจากกำแพงหมู่บ้านนั้นเพียง 2-3 เมตร ส่วนไซท์งานห่างออกไปอีกฝั่งหนึ่ง

ตรงกลางมีสนามฟุตบอลคั่นค่ะ ที่ต้องตั้งออฟฟิศห่างๆเพราะไซท์งานมีวัตถุไวไฟซึ่งอันตรายจึงไม่อยากให้มีคนและรถพลุกพล่าน


ตรงนั้นจึงให้มีแต่คนงานเท่านั้น



ส่วนใหญ่เราก็จะทำงานกันกลางคืนค่ะเพราะคนในโรงงานจะน้อย ทำงานสะดวกกว่า เย็นวันหนึ่งดิฉันก็อยู่ในออฟฟิศซึ่งก็ตรงกับบ้านหลังหนึ่งพอดี

ก็มองผ่านหน้าต่างออกไปสังเกตว่ามีต้นไม้ใบหญ้าเยอะ มีไม้เลื้อยไปตามตัวบ้านและหน้าต่าง คิดว่าเป็นบ้านร้างค่ะ


แต่ตัวบ้านก็ยังไม่เก่าเท่าไร



ส่วนบ้่านหลังอื่นๆก็มีคนอยู่อาศัยปกติค่ะ ตอนนั้นไม่รู้อะไรดลใจให้ยืนมองบ้านหลังนี้อยู่นานประมาณ 10 นาทีค่ะ ผ่านไปจนเวลาค่ำ

ดิฉันก็กลับเข้ามานั่งรอในออฟฟิศอีกครั้ง ไม่มีอะไรทำเลยนั่งเล่นเกมในมือถืิอฆ่าเวลาโดยหันหลังพิงผนัง ส่วนหน้าต่างก็จะอยู่ตรงหัวของดิฉันพอดี


สักพักก็มีเสียงเคาะหน้าต่าง ก๊อกๆๆ ดิฉันก็หันไป



แต่ด้วยความมืดก็มองไม่เห็นด้านนอกค่ะ มันก็จะเหมือนกระจกสะท้อนกลับจึงเห็นตัวเองและภายในออฟฟิศซึ่งเปิดไฟสว่างอยู่

ดิฉันก็ไม่ได้คิดอะไรก็หันกลับมานั่งเล่นเกมต่อ อีกแป๊บนึงก็มีเสียงเคาะที่หน้าต่างอีก ก๊อกๆๆ เหมือนเดิม


ตอนนี้หันไปนิดนึงค่ะแต่ไม่ได้หันไปมองเต็มๆ



เหมือนครั้งแรกเพราะนึกขึ้นได้ว่าทีมงานคงมาแกล้ง เพราะการจะมาเคาะหน้าต่างได้ต้องเดินออ้มมาด้านหลังค่ะ

ฝั่งตรงข้ามหน้าต่างจะเป็นประตูซึ่งเข้าสะดวกอยู่แล้ว ดิฉันก็เลยไปเปิดประตูมองหาว่าใครมาแกล้ง


ก็ออกมาเจอคนงานยืนหน้าห้องน้ำอยู่ 1 คน



และอีกคนกำลังเข้าห้องน้ำค่ะ แต่คนงานพวกนี้ไม่กล้าเล่นหัวกับดิฉันแน่นอนแล้วอีกอย่างเขาไม่มีทางวิ่งจากหน้าต่างไปยังห้องน้ำได้ทัน

ก่อนที่ดิฉันจะเปิดประตู ดิฉันก็เลยมองหาคนอื่นๆรอบๆก็ไม่พบใคร ก็สำรวจว่าจะมีกิ่งไม้หรืออะไรบางอย่างที่อาจกระทบหน้าต่างให้เกิดเสียงได้ไหม


มองดูก็ไม่มีอะไรเลยค่ะ



แล้วตอนนี้ก็นึกถึงบ้านหลังนั้นขึ้นมาทำให้เริ่มใจไม่ดีแล้วค่ะ แต่ก็ยังปลอบตัวเองว่าคงบังเอิญแล้วก็กลับเข้าไปนั่งในออฟฟิศเหมือนเดิม

แป๊บเดียวค่ะก็มีเสียงเคาะหน้าต่างอีก ก๊อกๆๆ เป็นครั้งที่ 3 ดิฉันก็อยู่ไม่ได้เลยค่ะเลยหนีเข้าไปในไซท์งานเพราะทุกคนอยู่ที่นั่นหมดค่ะ


ตอนนั้นขนลุกซู่เลยค่ะ แต่ก็ไม่ได้บอกใครที่นั่น



พอรุ่งขึ้นดิฉันก็รีบไปสำรวจหน้าต่างออฟฟิศแต่เช้าเลยค่ะ มาดูตอนกลางวันจะได้เห็นชัดๆว่าเสียงเกิดจากอะไรเพราะปลอบใจตัวเอง

ว่าออกมามองตอนกลางคืนเราอาจมองไม่เห็นที่มาของเสียงก็ได้ แล้วปรากฎว่าก็ไม่มีอะไรที่จะมาทำให้เกิดเสียงได้เหมือนเดิมค่ะ


ตอนนั้นเสียวสันหลังวาบเลยค่ะ



แต่ก็คิดถึงบ้านหลังนั้นว่าอาจจะมีใครจากบ้านหลังนั้นมาทักทายเราก็ได้ดิฉันก็เลยระลึกในใจค่ะว่าดิฉันรับทราบแล้วค่ะ

แล้วหลังจากนั้นก็ไม่เคยมีอะไรแปลกๆอีกเลยค่ะ




แหล่งที่มา:


เครดิต :

ข่าวดารา ข่าวในกระแส บน Facebook อัพเดตไว เร็วทันใจ คลิกที่นี่!!
กระทู้เด็ดน่าแชร์