กลับบ้านเรา


กลับบ้านเรา

"ทิดยม" เล่าประสบการณ์ขนหัวลุกจากวงเหล้าชายทุ่งที่สุโขทัย



เขาว่าคนถูกผีหลอกมักจะเป็นพวกประสาทฟั่นเฟือน เกิดอาการตาฝาดหรือไม่ก็จิตอ่อน ตกใจง่าย

ชอบสร้างภาพหลอนให้ตัวเองต่างๆ นานา คิดว่าตัวเองเห็นอะไรก็เลยพานเห็นไอ้นั่นจริงๆ คิดว่าโดนผีหลอกก็เลยเห็นผีโผล่เข้ามาหาจนได้!



อีกพวกหนึ่งคือคนขี้เมา หูตาลายพอๆ กับพวกเมากัญชา



นึกว่าเห็นงูก็วิ่งหนีงูไม่คิดชีวิต นึกว่าเห็นผีก็เอะอะโวยวาย วิ่งหนีกันเตลิดเปิดเปิงชนิดป่าราบไปเหมือนกัน

เรื่องนี้จะจริงเท็จยังไงไม่รู้ละครับ แต่ว่าผมเคยเจอะเจอกับตัวเองสมัยหนุ่มๆ ..โอ้โฮ! ผมเจอโคตรผีดุเข้าเต็มรักเต็มใคร่ หวิดจับไข้หัวโกร๋นละกันครับ



จะเมาเหล้าหรือเปล่า? ผมขอให้คุณผู้อ่านช่วยตัดสินก็แล้วกัน!



พูดถึงเหล้ายาปลาปิ้งนี่ผมคุ้นเคยมาตั้งแต่สมัยหนุ่มๆ ที่คีรีมาศ สุโขทัย แต่ไม่ได้สร้างความเดือดร้อนให้ใคร รถราก็ไม่ได้ขับนี่นา..พวกลูกทุ่งไม่มีใครแตะต้อง

"เหล้าแดง" กันหรอกคุณ ไหนจะแพงดับจิต ไหนจะดีกรีอ่อนไม่สะใจ ต้อง "เหล้าขาว" ขนาด 40 ดีกรีชนิดจุกไฟลุกพึ่บพั่บนั่นแหละถึงจะได้การ



พวกคออ่อนๆ นึกว่าหมู ซดอั๊กๆ เข้าไป..ลงถึงไหนร้อนถึงนั่น



แต่ยังนึกไม่ถึงว่าพิษสงร้ายนัก แต่เจอเข้าไปไม่กี่แก้วก็ "ร่วง" กันเป็นแถว

สมัยก่อนแกลลอนละ 140 บาทเท่านั้นเองครับ พวกเรา 3-4 คนซื้อมาแกลลอนเดียวก็ถมถืดไปแล้ว ขนาด 5 ลิตรน่ะจะมากหรือน้อยก็คิดเอาเองละกัน

ส.ร.ถ.ที่อื่นๆ จะเป็นยังไงไม่ทราบ แต่แถวบ้านผมน่ะต้มขายกันให้เกร่อเชียว ตอนนั้น..



ผมไปดูเขาต้มกลั่นจนเหล้ามันไหลจากกระบอกไม้เชียวแหละ



หน้าตรุษหรือสงกรานต์ก็ขออนุญาตสรรพสามิตซะหน่อย นอกนั้นก็ต้องหลบๆ เอา เสร็จสรรพก็ต้องซ่อนหม้อต้มเหล้าไม่ให้มันประเจิดประเจ้อนัก

ถึงเวลาก็ไปตั้งวงกันที่ร่มไม้ชายทุ่งหลังบ้าน ครึกครื้นเฮฮาอย่าบอกใครเชียว..ว่าแต่พวกกับแกล้มล่ะ เอามาจากไหนกัน?



โอย..สบายมากครับ มะขามป้อม มะขามเปียก มะม่วง มะดัน มะขามสด



จิ้มเกลือโยนใส่ปากกร้วมๆ ดับพิษดับกลิ่นสุรา แค่นี้ก็ลื่นคอถมถืดไปแล้ว

บางวันไปตั้งวงข้างบ่อปลาบ้านเพื่อน ใครแบกแหออกมาเหวี่ยงหนสองหนเดี๋ยวก็ได้ปลาดุก ปลาช่อน ปลานิล มาเผามาต้มยำรสแซบ ซดโฮกอือ

บางวันก็เข้าเล้าไก่เชือดอ๊อก..พรรคพวกจัดการทำไก่อบฟาง ไก่แช่น้ำปลา ที่เด็ดมากคือไก่ต้มป่า ใส่พริกเผาไม่ยั้ง ซดโฮกเข้าไปงี้หูตาสว่างจ้า แทบจะหายเมาไปตามๆ กัน



ตกค่ำ ถ้าคืนเดือนมืดเราก็ก่อไฟมั่ง จุดตะเกียงรั้วมั่ง



ลมทุ่งพัดแรงจนไม่มียุงมารบกวน เสียงยอดไม้ซู่ซ่า บางทีก็ครางฮือๆ ฟังเหมือนเสียงใครกำลังสะอึกสะอื้นด้วยความทุกข์โศก

เล่นเอาเหลียวซ้ายแลขวาด้วยความหวาดระแวงเหมือนกันแฮะ

พวกสาวๆ เราไม่ค่อยสน แม้ว่าจะมีคนสวยๆ อย่าง ลำดวน, สร้อย กับชบา เป็นดาราของหมู่บ้านก็เถอะเอ้า!



ตามประสาคอเหล้าทั่วๆ ไปน่ะแหละครับ



พวกเราคุยกันแต่เรื่องเฮฮา ไร้สาระ เช่น เรื่องนักเลงบ้าๆ บอๆ เรื่องผู้หญิงยิงเรือ มักจะโลดโผนจนหนักไปทางโป๊ๆ จนถึงสัปดี้สีปดน แล้วก็ฮาตึง หรือ "ตกท้องคุ้ง"

ไม่รู้จะคุยอะไรก็มักจะลงเอยด้วยเรื่องผี!

ไอ้แป้นเล่าว่าเมื่อเด็กๆ มันอยู่กงไกรลาศ วันดีคืนดี พี่ชายมันนึกยังไงไม่รู้อุตริป่ายปีนขึ้นไปอยู่บนยอดตาล แล้วร้องตะโกนลงมาว่า..



กูไม่รู้จะลงยังไงโว้ย! พอมันเงยหน้าขึ้นมามอง



ก็เห็นร่างของพี่ชายลอยละลิ่วลงมา จะว่าโดนผลักก็ไม่ใช่ หรือจะโดดเองก็ไม่เชิง

..ร่างกระแทกพื้นแล้วกระเด้งขึ้นมา ก่อนจะนอนแน่นิ่ง เลือดทะลักจากปากและจมูกเป็นลิ่มๆ นัยน์ตาเบิกโพลง ฉายแววสยดสยองสุดขีดก่อนจะสิ้นใจ

ต่อจากนั้น รายการผีดุวิญญาณเฮี้ยนก็อุบัติ เมื่อมีคนได้ยินเสียงร้องช่วยด้วยๆ มาจากเหนือหัว



แต่เมื่อเงยหน้าขึ้นไปมองก็ไม่เห็นอะไร



แต่บางทีก็เห็นร่างตะคุ่มๆ ยืนเด่นอยู่ที่ยอดตาล..พอนึกได้ว่าโดนผีหลอกก็วิ่งกันชนิดแหกป่าแหกทุ่งไปตามๆ กัน

ไอ้เชื้อเล่าว่าตาแย้มคนบ้านใกล้ๆ กันถูกงูเห่ากันตายที่หนองบัวเมื่อปีก่อน..ตกค่ำเป็นเดินกระแอมฮะแอ้มๆ ผ่านมาหลังบ้านบ่อยๆ


พ่อมันบอกเสียงใครคุ้นๆ หู เลยลุกไปดู มันก็เดินตามไปด้วยจนเห็นภาพนั้น..



ตาแย้มเดินหิ้วตะข้องพาดไหล่ เงยหน้าขึ้นมายิ้มเห็นฟันหลอ เล่นเอาพ่อมันนั่งแผละ ตัวเองถึงกับน้ำตาไหลพราก..ความกลัวผีนี่มันสาหัสแบบนี้เอง

วันเกิดเหตุ เรานั่งล้อมวงกันที่ดงสะแกหลังบ้านไอ้เบี้ยว เพิ่งซดต้มป่าไก่จนหูตาสว่าง ลมทุ่งพัดฮือๆ มาจากดงสะเดา มีจอมปลวกใหญ่อยู่ที่นั่น


จู่ๆ ไอ้แป้นก็บอกว่าคนสวยที่ไหนวะมาเดินค่ำๆ มืดๆ แถวนี้?



พวกเราหันขวับ ผมเห็นหลังไวๆ ของใครคนหนึ่งหายลับเข้าไปหลังจอมปลวก ไอ้เชื้อก็เห็นเหมือนกัน มันบอกว่านังสร้อยลูกยายสายน่ะซี

แต่ไอ้เบี้ยวบอกว่านังนั่นมันไปจังหวัดตั้งแต่วันก่อน..พอดีผู้หญิงคนนั้นโผล่ออกมาอีก คราวนี้ผมเห็นหน้าจากแสงดาวเต็มฟ้าว่าเป็นนังสร้อยจริงๆ



"เอ็งกลับเมื่อไหร่วะสร้อย? หรือว่าเพิ่งจะกลับ?"



สร้อยหันมายิ้มแต่ไม่ตอบ เดินหายเข้าไปหลังจอมปลวกอีก..เรายังไม่ละสายตา อีสาวนั่นก็โผล่เข้ามายิ้ม..เอ๊ย! ยังไง?

เรามองหน้ากันแล้วลุกพรวดเข้าไปดูให้รู้แน่ แต่ไม่เห็นใครเลยแม้แต่คนเดียว



สายลมพัดฮือ ฟังเหมือนเสียงใครสะอื้นเบาๆ มาเข้าหู



ผมขนลุกซ่าไปทั้งตัว ชวนเพื่อนกลับไปกระแทกเหล้าหนักหน่วง มองหน้ากันตาปริบๆ

พอดีเหล้าหมดเลยแยกย้ายกันกลับบ้าน..จะว่าเมาจนตาฝาดได้ไงในเมื่อเห็นกันทุกคน จริงไหมครับ?

ที่แน่ๆ คือสร้อยโดนรถชนตายในจังหวัดตอนเย็นวันนั้นเอง..บรื๋อส์!




แหล่งที่มา:


เครดิต :

ข่าวดารา ข่าวในกระแส บน Facebook อัพเดตไว เร็วทันใจ คลิกที่นี่!!
กระทู้เด็ดน่าแชร์