นัยน์ตาปีศาจ
"หัทยา" เล่าประสบการณ์ขนหัวลุกจากคนมองเห็นวิญญาณ
สมัยเด็ก ดิฉันอยู่แถวถนนประชาสงเคราะห์ ย่านดินแดง บ้านเรือนอุ่นหนาฝาคั่งมาก
ร้านรวงและผู้คนก็คึกคัก ในซอยบ้านเราน่ะมักจะรู้จักมักคุ้นกันเป็นส่วนใหญ่ ไม่ใช่ค่อยๆ ห่างเหินกันไปเหมือนเดี๋ยวนี้
คนในซอยก็มีมากมายหลายอาชีพ
ตั้งแต่ข้าราชการ ครูอาจารย์ พนักงานและลูกจ้าง ลงมาถึงพ่อค้าแม่ขาย คนงาน หมอดูเร่ คนตกงาน พวกขี้เมาและนักเลงหัวไม้ก็มีค่ะ
ผู้หญิงบริการ แมงดา หัวขโมย และวัยรุ่นชอบซ่า พวกติดยา ไม่นับพวกรถเข็นขายอาหารผลไม้ แม่ค้าที่หาบคอนร้องเน้อๆ ไปตามหัวซอยท้ายซอยนะคะ
ข้างบ้านดิฉันมีหญิงชราคนหนึ่งชื่อยายสำลี
อายุราว 70 เศษ ร่างผอมมากผิวคล้ำ ผมสีเทาตัดสั้นเหมือนผู้ชาย แกชอบสวมเสื้อคอกระเช้าสีหมากสุก นุ่งผ้าลายสีน้ำตาลและชอบประแป้งหน้าขาวเป็นประจำ
ยายสำลีมีลูกสาวคนเดียว อายุคราวป้าดิฉัน ชื่อสำอาง เป็นแม่ม่ายสามีตายมีลูกรุ่นหนุ่มรุ่นสาว 2 คน ป้าสำอางทำงานเป็นครูอยู่โรงเรียน...ใกล้ๆ บ้านนั่นเองค่ะ เดินไปกลับได้สบาย ไม่ต้องเสียค่ารถและเสียเวลาอีกด้วย
ตอนกลางวัน ยายสำลีจะอยู่บ้านคนเดียว
มีคนได้ยินแกพูดคุยและหัวเราะคิกคักกับใครไม่รู้ เขาว่าแกคุยกับผีที่แกเลี้ยงไว้ค่ะ!
เมื่อ 3-4 ปีก่อน ยายสำลีเป็นหมอดูด้วย ตอนสายๆ ลูกหลานออกจากบ้านไปแล้ว มักจะมีผู้หญิงในซอยมาหาแกทีละ 2 - 3 คน หายเข้าไปในบ้านครั้งละนานๆ เพื่อดูหมอ บางคนก็บอกว่ายายสำลีเก่งทางทำเสน่ห์ยาแฝดอีกต่างหาก
แกไม่เรียกร้องเงินทองนะคะ บอกว่าครูห้ามไว้
คนที่เดือดร้อนมาหาก็มักจะเอาผลไม้หรือขนมมาฝาก ถ้าอย่างนี้แกบอกไม่เป็นไร
ต่อมา ยายสำลีก็เลิกดูหมออย่างเด็ดขาดใครมาอ้อนวอนเท่าไหร่ก็ไม่ยอม
เรื่องนี้ไม่ค่อยมีใครทราบเหตุผลจริงๆ หรอกค่ะ แต่ป้าสำอางเคยบอกแม่ดิฉันว่า...แกเลิกดูหมอเพราะ "เบื้องบน" สั่งให้เลิก
ขืนดูไปก็ไม่แม่นเหมือนเดิม
ป้าสำอางเองก็คิดว่าแม่ของเธอคงจะป้ำๆ เป๋อๆ เพราะความชรามากกว่าอย่างอื่น
ยายสำลีออกมานั่งที่ม้าเตี้ยๆ หน้าบ้าน ใต้ซุ้มกระดังงาดกหนา มีพวกเด็กสาวๆ มาประจบขอดอกไปเสียบผม ยายสำลีมักยิ้มละไม พยักหน้าให้เด็ดได้ตามสบาย ดิฉันเองก็เคยไปขอดอกไม้แกเหมือนกัน
บางวัน โรงเรียนเลิกแล้วดิฉันก็จะมักจะออกไปนั่งคุยกับยายสำลี
เขาว่าคนแก่ส่วนมากมักจู้จี้ขี้บ่นใช่ไหมคะ
แต่ยายสำลีกลับนิ่งยิ้มนิดๆ มากกว่าพูด นัยน์ตาสีน้ำข้าวมองไปทางปากซอย...เห็นใครเดินเข้ามาก็มักจะถอนใจยึดยาว
"กลับกันแล้ว! เฮ้อ...ไปถึงไหนต่อไหน ผลที่สุดก็ต้องกลับบ้านกันทุกคน"
ตอนแรกๆ ดิฉันไม่ค่อยเข้าใจความหมายของแกหรอกค่ะ
ต่อมาถึงได้ยินคนในซอยพูดกันว่า ยายสำลีเห็นผีในเวลากลางวันแสกๆ ขณะที่คนอื่นมองไม่เห็น แถมยังไม่กลัวผีอีกต่างหาก
บางคนเรียกแกว่า "คนตาทิพย์" บ้าง "ตาปีศาจ" บ้าง แต่ยายสำลีดูเหมือนจะหมดความสนใจไยดีกับผู้คนในซอยหมดแล้ว...นอกจาก "ผู้ไม่มีร่างกาย" เท่านั้ นเอง!
ดิฉันเคยนั่งอยู่กับยายสำลีเวลาที่แกเห็นผี
แต่ไม่นึกกลัวหรอกค่ะ อาจจะเพราะยังเด็ก คิดว่าพูดเล่นสนุกๆ เช่น ตอนที่แกมองไปทางปากซอยว่างๆ แล้วก็พูดเป็นตุเป็นตะว่า...ตาแร่มาแล้ว! ยายพวงกลับบ้านซะที! ไอ้เป็ดหายไปนานเชียวนะเอ็ง!
ไม่เห็นมีใครซักคน...ดิฉันก็พูดได้ค่ะ!
บางวันมีคนในซอยเดินเข้ามาเป็นกลุ่มๆ
พูดคุยกันมาก็มี เดินกันเงียบๆ ก็มี บางคนหันมาเห็นยายสำลีก็ยิ้มให้ มันจะส่งเสียงทักทายว่ารอหลานหรือยาย? แต่ยายสำลีไม่แยแสใคร นอกจากจะคอยจ้องมองผู้ไม่มีร่างกาย!
ลุงคล้ายเป็นหมอดูร่อนเร่ อายุรุ่นน้องยายสำลีราวสิบปีได้ ตอนสายๆ ก็เดินสะพายย่ามใส่กระดานชนวนเดินตั้บๆ ออกจากซอยไป แกเที่ยวเดินรับจ้างดูหมอไปทั่ว ดินแดง ห้วยขวาง...ตกเย็นก็เดินตั้บๆ เข้าซอย ท่าทางเหน็ดเหนื่อยแต่ไม่วายร้องทักยายสำลี
"รอหลานหรือไง? ไม่อยากดูหมอรึพี่สำลี?"
แล้วแกก็อมยิ้มเดินผ่านไป เพราะไม่เคยมีคำตอบจากยายสำลี!
เย็นนั้น ดิฉันเข้าไปนั่งบนม้าเตี้ยๆ ตามเคย พระอาทิตย์เพิ่งจะลับขอบฟ้าแต่แสงสว่างยังเหลืออยู่...ป้าสำอางกำลังวุ่นอยู่กับลูกๆ ในครัว ผู้คนเดินเข้าซอยหนาตา ยายสำลีจ้องมองโดยไม่สนใจกับคำทักทายใดๆ จนในที่สุดแกก็ยิ้มออกมาได้...
"อ้อ! กลับบ้านเรอะพี่แช่ม?
นังตุ่มหายไปไหนเสียตั้งนาน? อ้าว...ตาคล้ายรีบกลับบ้านเชียวนะแก!"
ดิฉันไม่เห็นพี่แช่มกับนังตุ่มของยายสำลี! แต่เห็นลุงคล้ายเดินสะพายย่ามหลังงอ ท่าทางเหน็ดเหนื่อยเหมือนเดิม...น่าแปลกที่หมอดูพเนจรไม่ได้ทักทาย "พี่สำลี" ของแกเหมือนวันก่อน...กับเป็นครั้งแรกที่ดิฉันเห็นยายสำลีทักลุงคล้าย
คุณพระช่วย! ลุงคล้ายตายแล้วหรือนี่?
ภาพที่เห็นคงจะเป็นวิญญาณน่ะเอง!
ลมหนาวพัดวูบมา ม่านตาดิฉันพร่าพรายเมื่อนึกได้ว่าตัวเองมองเห็นลุงคล้าย! กลายเป็นคนตาทิพย์มองเห็นผีไปแล้ว? แต่ของจริงไม่ใช่หรอกค่ะ ลุงคล้ายยังไม่ตาย ยังมีเลือดเนื้อตามเดิมทุกอย่าง น่าสงสัยว่าทำไมยายสำลีถึงได้ทักแกเป็นครั้งแรก
วันรุ่งขึ้นดิฉันก็หายสงสัย
เมื่อได้ข่าวว่าลุงคล้ายเพิ่งจะโดนรถเมล์เฉี่ยวชนตายแถวหน้าโรงเรียนผ่องพรรณน่ะเอง...เจตภูตแกออกจากร่างให้ยายสำลีมองเห็นล่วงหน้าตั้งแต่เมื่อเย็นค่ำวันวาน
อีกราว 5-6 เดือนต่อมา ยายสำลีก็เป็นลมตายในบ้าน ดิฉันไม่กล้าหันเข้าไปมองทางบ้านแกอีกเลย กลัวจะเจอนัยน์ตาปีศาจจ้องมองออกมาน่ะซีคะ...บรื๋อส์!!
แหล่งที่มา:
เครดิต :
ข่าวดารา ข่าวในกระแส บน Facebook อัพเดตไว เร็วทันใจ คลิกที่นี่!!