วิญญาณไม่ยอมตาย


วิญญาณไม่ยอมตาย

เรื่องที่เกิดขึ้นนี้มิได้เกิดขึ้นกับข้าพเจ้าแม้แต่อย่างใด แต่เกิดขึ้นกับรุ่นพี่ของข้าพเจ้าซึ่งเป็นรุ่นพี่ปีหนึ่ง

ซึ่งตอนนี้รุ่นพี่ข้างข้าพเจ้าได้เรียนต่อที่มหาวิทยาลัยปี 1 และได้เล่าเรื่องที่เหลือเชื่อให้แก่ข้าพเจ้าฟัง ในสมัยที่เรียนอยู่โรงเรียนมัธยมเดียวกันเมื่อ 2 ปีที่แล้วได้เกิดเหตุการณ์น่าสลดใจเกิดขึ้น

มีกลุ่มนักเรียนกลุ่มหนึ่ง ได้จัดทำบอร์ดโครงงานคณิตศาสตร์

เมื่ออาจารย์ได้มอบหมายงานไปแล้วรุ่นพี่จึงได้นัดกันมาทำโครงงานในวันเสาร์ มีจำนวน 4 คน รุ่นพี่ได้เล่าให้ผมฟังว่าเมื่อพากันทำโครงงานเสร็จจึงได้พากันไปเล่นที่ริมน้ำโขงเพื่อที่จะเล่นน้ำกันก่อน เพราะยังเหลืออเวลาอีกมาก ตามประสาที่เด็กออกมาจากนอกบ้านแล้วก็ไม่อยากให้เสียเที่ยวจึงได้พากันลงไปเล่นน้ำจนเพลินเมื่อเล่นน้ำได้สักพักใหญ่ ๆ รุ่นพี่ที่เป็นคนเล่าเรื่องให้ผมฟังได้ขอตัวกลับก่อนแต่ว่า
เพื่อนอีก 3 คน ยังเล่นไม่พอจึงยังไม่พากันกลับ เป็นผู้หญิง 2 คน และผู้ชายที่ไม่ค่อยเต็มร้อยซักเท่าไหร่หรือเป็นกะเทยนั้นเอง

เมื่อรุ่นพี่ผมกลับถึงบ้านก็ใกล้จะ 6 โมงเย็นแล้วด้วยความเหน็ดเหนื่อยของรุ่นพี่เขาก็รีบกินข้าวแล้วอาบน้ำนอนแต่หัวค่ำเลย
แล้วรุ่นพี่ของผมก็หลับฝันเห็นเพื่อนอีก 3 คนมาชวนไปเล่นน้ำแต่ด้วยความรู้สึกว่ายังเหนื่อยอยู่จึงปฏิเสธไปแต่เพื่อน ๆ อีก 3 คน ไม่ยอมจึงพากันดึงพี่เขาลงน้ำแล้วสักพักพวกเขาก็จับรุ่นพี่ผมกดน้ำลงไปในตอนนั้นเองเขารู้สึกอึดอัดแล้วหายใจไม่ออกจริง ๆ เหมือนไม่ใช่ฝันแล้วเขาก็ใช้แรงเท่าที่มีดันตัวพุ่งขึ้นมาแล้วรุ่นพี่ก็สดุ้งตื่นขึ้นเมื่อตื่นขึ้นมาแล้วเขาก็ได้ยินเสียงร้องชื่อเขา เขาจึงส่องดูที่หน้าต่างเห็นเพื่อนอีก 3 คน กำลังมองจ้องหน้าเขาอยู่จึงรีบวิ่งลงไปเปิดประตูด้วยความสงสัยว่าทำไมมืด ๆ ค่ำ ๆ แล้วยังมาหาอีก

พอเปิดประตูหน้าบ้านก็ไม่เห็นมีใครมีแต่พื้นที่เปียกน้ำเต็มไปหมดเขาก็แปลกใจเล็กน้อยแล้วก็ปิดประตู

สักพักหนึ่งก็มีคนมาเคาะประตูอีกเขาเดินไปเปิดประตูไม่ใช่เพื่อนของเขาแต่ว่าเป็นพ่อแม่ของเพื่อนพี่เขามาตามหาลูก พี่เขาจึงเล่าให้ฟังว่า เมื่อทำโครงงานเสร็จก็ได้พากันไปเล่นน้ำที่ริมน้ำโขงซึ่งไม่ค่อยมีคนเล่นกันแต่ผมกลับก่อนเลยไม่รู้ว่าไปไหนกันต่อ สักพักก็เห็นมาเรียกผมอยู่แต่พอมาเปิดประตูให้ก็ไม่รู้ไปไหนแล้ว พ่อและแม่ของเพื่อนพี่ผมจึงพากันไปตามที่อื่นรุ่นพี่ของผมจึงเข้าไปนอนต่อ เมื่อถึงรุ่งเช้าพี่เขาก็พักผ่อนดูการ์ตูนอยู่ก็มี พ่อแม่ของเพื่อนพี่เขามาบอกว่า 3 คนนั้นยังไม่พากันกลับมาเลยไม่รู้ว่าพากันไปนอนที่ไหนก็ไม่รู้แล้วไม่ได้มาหาที่นี้อีกหรอรุ่นพี่ผมก็บอกว่าไม่เห็นอีกเลยพอวันต่อมาคือวันจันทร์ เป็นวันที่เปิดเรียน

และแล้วก็เป็นเรื่องใหญ่ เมื่อพี่เขาเรียนอยู่คาบวิชา คณิตศาสตร์พ่อแม่ของ 3 คนนั้นก็พากันมาหาอาจารย์ที่มอบหมายให้ทำงานวิชานั้น

อาจารย์ก็ได้เล่าให้ฟังว่า เมื่อประมาณเกือบจะเที่ยงคืนได้เด็ก 3 คนนั้นมาเคาะประตูส่งงานอยู่เลย ยังสงสัยอยู่เลยทำไมต้องต้องมาส่งตอนค่ำ ๆ มืด ๆ ด้วยพอเขาไปหยิบสมุดลงคะแนนมาว่าจะให้บอกเลขที่แล้วก็ต่อว่าสักหน่อยเดินออกมาอีกทีก็ไม่รู้ไปไหนแล้ว เมื่อมาถึงวันที่ 3 พ่อแม่ของเด็กทั้ง 3 คนนั้นก็ใจไม่ดีจึงได้แจ้งตำรวจและได้ให้คนมางมหาที่ริมน้ำโขงตรงจุดที่พากันไปเล่นแต่ก็ไม่เจอ

พอมาถึงวันที่ 4 ก็เห็นภารโรงเล่าว่า

เห็นเด็ก3 คน แต่งชุดธรรมดาเดินเล่นอยู่พอจะเดินเข้าไปถามก็ไม่รู้ว่าไปไหนแล้ว และในคืนนั้นเองเพื่อนที่สนิทกับ 3 คนนั้นก็เห็นมาเรียกว่าจะชวนไปเล่นน้ำพอลงไปหาว่าจะถามว่าทำไมยังไม่กลับบ้านก็หายไปไหนแล้วแต่ที่สำคัญคนที่เจอเหตุการณ์แบบนี้ต่างแต่พบพื้นที่เปียกโชกเต็มไปด้วยน้ำด้วยกันทั้งนั้น พอเข้าถึงวันที่ 5 รุ่นพี่ผมเริ่มจะต้องหนักใจเมื่อเพื่อน ๆ 3 คนนั่นก็มาหารุ่นพี่โดยมาเคาะประตูแล้วรุ่นพี่ของผมก็ลงไปเปิดประตูแต่คราวนี้เห็นเพื่อนเขาจัง ๆ ช่วงเวลา ประมาณ 5 ทุ่ม กว่า ๆ ในความรู้สึกในตอนนั่น เขาบอกว่ากลัว ๆ กล้า ๆ ไม่แน่ใจว่าเพื่อนของตนยังมีชีวิตอยู่ไหมแล้วรุ่นพี่ของผมก็เอ๋ยถามไปว่า ทำไมพวกเธอไม่พากันกลับบ้าน เพื่อนของรุ่นพี่อยู่นิ่ง ๆ ไม่ตอบคำถามแต่กลับมีแววตาที่อาฆาตเคียดแค้นมองมาที่รุ่นพี่ของผม ในตอนนั้นรุ่นพี่ผมเริ่มจะกลัวขึ้นมาสักนิดแล้วแต่รุ่นพี่ของผมเขาก็ยังใจสู้แล้วเอ่ยถามไปอีกว่า ทำไมต้องจ้องหน้ากันแบบนี้ด้วยหน้าฉันมีอะไรติดอยู่หรอ แต่ก็เงียบรุ่นพี่จึงพูดขึ้นว่าเดียวเราไปโทรให้พ่อแม่ของพวกเธอมารับนะเดียวรอแปปนึ่ง พอรุ่นพี่หันหลังไปเพื่อน ๆ ก็ร้องดังขึ้นมาว่า ทำไมถึงหนีกลับมาก่อน!!

ทำให้รุ่นพี่รีบหันหลังไป แต่กลับไม่ผมแม้แต่สิ่งใดมีแต่เพียงรอยน้ำเปื้อนเต็มไปหมด

ทำให้รุ่นพี่ผมต้องรีบไปปิดประตูแล้วรีบเคาะประตูห้องพ่อกับแม่ขอท่านนอนด้วย พอรุ่งเช้าของวันที่ 6 พ่อของรุ่นพี่ได้ไปเล่าเรื่องนี้ให้พ่อแม่ของ 3 คนนั้นฟังจึงได้พากันไปหาหมอทรงที่มีชื่อเสียงแถวบ้านผม ในตอนนั้นเองรุ่นพี่ของผมก็ไปด้วย แล้วสักพักหมอทรงคนนั้นก็ได้นั่งสมาธิแล้วก็สวดอะไรไม่รู้พอสักพักหมอทรงก็ลืมตาขึ้นพร้อมเริ่มที่จะร้องไห้แล้วพูดเป็นเสียงคล้ายเพื่อนที่เป็นกะเทยของรุ่นพี่มากสายตาโศกเศร้าแล้วเขาก็ได้เล่าให้ฟังถึงเหตุการณ์ทั้งหมดที่เกิดขึ้นกับตัวเข้าว่า พวกเราพากันไปเล่นน้ำที่น้ำโขงแล้วก็เดินไปตกหลุมอะไรซักอย่างพวกเราไม่สามารถจะว่ายขึ้นมาได้เพราะเหมือนติดอะไรซักอย่าง

แม่ของเขาจึงถามไปว่าแล้วทำไมแม่ให้คนไปงมหาดูกับไม่เจออะไร

เขาก็บอกว่าศพของพวกเราจะลอยขึ้นมาเองในวันที่ 7 คือวันพรุ่งนี้ แล้วหมอทรงคนนั้นก็มองมาหาที่รุ่นพี่แล้วกล่าวด้วยเสียงที่โมโหเพราะแกทิ้งพวกเรากลับก่อนเลยทำให้พวกเราไม่มีคนที่จะช่วยเพราะพวกเราว่ายน้ำไม่ค่อยแข็ง พวกฉันจะเอาแกมาอยู่ด้วย รุ่นพี่ของผมถึงกับอึ้ง ! แต่พ่อแม่หลายฝ่ายก็ต่างพูดช่วยใม่ให้จองเวรจองกรรมต่อกันสักพักหนึ่งเรื่องก็เริ่มดีขึ้น หมอทรงนั่นจึงพูดต่อไปว่า ท่าจะให้พวกหนูหายอาฆาตมันต้องให้มันทำบุญกรวดน้ำแล้วบวชให้พวกหนูไม่งั้นพวกหนูจะเอามันมาอยู่ด้วยรุ่นพี่ของผมตบปากรับคำเป็นอย่างดี

เมื่อถึงวันที่ 7 ก็พากันไปดูที่บริเวณที่พวกเขาพากันเล่นน้ำ

สักพักเมื่อรอรอหลายชั่วโมงจนเกือบจะเที่ยงพวกเราทั้งหมดก็เริ่มเห็นสิ่งแปลก ๆ ลอบขึ้นมาเป็นศพของ 3 คนนั้นจริง ๆ เห็นเขาเล่ากันว่า เลือดนั่นไหลออกมาทาง 7 ทวารมันน่ากลัวมาก แล้วก็ได้นำศพทั้งหมดมาทำพิธีกรรมทางศาสนาแล้วรุ่นพี่ผมก็บวชและทำบุญอุทิศให้เพื่อน ๆ ของรุ่นพี่จริง ๆ เรื่องที่เกิดกับรุ่นพี่ก็เริ่มดีขึ้นแล้วก็ไม่มีใครได้เห็นกองน้ำประหลาดอีกเลย

แต่เรื่องนี้ยังเป็นปริศนาอยู่ ปกติศพน่าจะขึ้นอืดภายใน 3 วัน แล้ว ทำไมต้องรอถึงวันที่ 7 สิ่งที่น่าสงสัยคือสภาพศพของพวกเขาเหมือนตายภายใน 3 วัน ไม่ใช่ 7 วัน ยังคงต้องเป็นปัญหาที่เร้นลับต่อไปกับปริศนาใต้น้ำโขงที่แม้แต่วิทยาศาสตร์ก็ยังไม่สามารถพิสูจน์ได้


ขอขอบคุณประสบการณ์ผี ๆ จาก
เว็บไซด์พลังจิตดอทคอม


เครดิต :

ข่าวดารา ข่าวในกระแส บน Facebook อัพเดตไว เร็วทันใจ คลิกที่นี่!!
กระทู้เด็ดน่าแชร์