อาถรรพ์ของแก้บน


อาถรรพ์ของแก้บน

เป็นเรื่องราววัยเด็กอายุประมาณ 9 ปี สมัยที่ผมยังเป็นลูกชาวบ้านชาวนาอาศัยอยู่ต่างจังหวัด


ในยุคที่คอมพิวเตอร์ และโทรศัพท์มือถือยังไม่เจริญเท่ายุคนี้ เรื่องที่ผมจะเล่าเป็นเรื่องที่ผมไม่มีวันลืมไปจนวันตายเลยครับ ว่าอะไรที่เขาไม่ได้ให้เรา เราก็อย่าไปยุ่ง ไม่อย่างนั้นมันจะเกิดเรื่องที่เจ้าของไม่พอใจ อย่างเรื่องของผมครับ

เรื่องมันเกิดขึ้นจากความตะกละของพวกผมที่เป็นเด็กในหมู่บ้าน

วันนั้นทางผู้ใหญ่ที่บ้านผมได้ซื้อของกินทั้งหมูเห็ดเป็ดไก่ ผลหมากรากไม้อย่างดีมาจัดเตรียมงาน ผมถามผู้ใหญ่ได้ความว่า พี่แมนคนในหมู่บ้านเขาไปบนกับพ่อปูต้นไทรไว้ว่าขอลูกชายแล้วแกก็ได้จริง ก็เลยต้องมาจัดงานแก้บน ผม ไอ้ป๋อง และไอ้จุก เราสามคนเป็นลูกพี่ลูกน้องกันก็คิดว่างานนี้จะได้กินของอร่อยๆ กันอีกแน่ๆ

แต่ก็ไม่เป็นอย่างนั้นเพราะผู้ใหญ่เขาเอาของดีๆ ไปถวายพ่อปูต้นไทรหมด

พวกเรา 3 คนเสียดายมากที่ไม่ได้กินของดีๆ แต่ที่จะเสียดายที่สุดก็เห็นจะเป็นไอ้ป๋องเพราะมันบ่นตลอดเวลา ว่าอดกินของดีเลย พวกเราก็พยักหน้าเป็นเชิงเห็นด้วย แล้วความคิดดีๆ ก็เกิดขึ้นในหัวของไอ้จุกเมื่อมันบอกพวกเราว่าจะไปยากอะไร ก็ไปแอบกินสิวะ ผมถามว่าจะไปแอบมายังไง มันบอก ก็รอให้ผู้ใหญ่เอาไปเซ่นเสร็จแล้วเราก็ไปแอบเอามากินกัน พวกเราพยักหน้าเป็นเชิงเห็นด้วยกับความคิดมันหารู้ไม่ว่าสิ่งที่น่ากลัวกำลังจะเกิดขึ้นกับตัว

บ่ายกว่าๆ ผู้ใหญ่ก็จัดเตรียมของแก้บนเสร็จ และก็ทยอยเดินทางไปตามคันนา

เพื่อไปที่ต้นไทรที่อยู่ห่างจากบ้านผมไปประมาณ 700-800 เมตร พวกเราสามคนก็เดินตามไปดูด้วย เพื่อที่ว่าเมื่อผู้ใหญ่แก้บนเสร็จพวกเราก็จะได้ลงมือกัน เมื่อทุกคนมาถึงก็จัดการวางของแก้บนต่างๆ ลงบนผ้าข้าวที่ปูอยู่ลานบริเวณต้นไทร ของเซ่นมีทั้งหัวหมูต้ม ไก่ต้ม ปลาทอด ขนมถ้วยฟู วุ้น ส้ม กล้วย สับปะรด เหล้าขาว และบุหรี่ พวกเราสามคนเห็นแล้วก็ได้แต่ยืนน้ำลายไหล ไอ้ป๋องที่ท่าทางตระกละมากที่สุดเดินไปถามแม่มันว่ากินได้ไหม แม่มันบอกว่ากินได้ไงของเอามาแก้บนพ่อปู่ เมื่อจัดของเสร็จแล้วลุงของผมก็จัดการจุดธูปเทียนแล้วก็ท่องมนต์คาถา ที่เด็กอย่างพวกเราก็ได้แต่ยืนมองกันตาแป๋วอย่างสนใจ พร้อมกับใจที่รอคอยว่าเมื่อไหร่พิธีจะเสร็จและผู้ใหญ่จะได้กลับกัน

และเวลาที่รอคอยก็มาถึงเมื่อลุงบอกว่าเสร็จพิธีแล้ว ทุกคนก็ลุกขึ้น และก็เดินกลับกันยกเว้นพวกเรา

แม่ไอ้ป๋องเห็นพวกเราไม่เดินตามกลับไปก็เลยตะโกนถามมาว่า พวกมึงไม่กลับกันหรือไงไอ้ป๋องตอบแม่มันกลับไป เดี๋ยวหนูอยู่เล่นแถวนี้ก่อน เสร็จแล้วจะตามไปแม่มันทำก็ไม่ได้ว่าอะไร แต่ตะโกนกลับมาว่าอย่าไปกินของแก้บนพ่อปูน่ะเดี๋ยวท่านโกรธเอาพูดเสร็จก็เดินตามกลุ่มผู้ใหญ่กลับบ้านไป เมื่อพวกผู้ใหญ่เดินลับตาไป ไอ้ป๋องกับไอ้จุกก็มองหน้ากันอย่างรู้ใจว่าเวลาทองได้มาถึงแล้ว แต่ผมเองเกิดรู้สึกกลัวกับคำพูดของแม่ไอ้จุกว่าอย่าไปกินของแก้บน ก็เลยหันไปถามว่ามันทั้งสองคนว่า มึงจะกินกันจริงๆ เหรอวะ

คำตอบที่ผมได้รับก็คือ ก็กินสิวะของดีๆ น่ากินทั้งนั้น

พวกมันทั้งสองจ้องมาที่หน้าผม งั้นพวกมึงก็กินไปแล้วกัน กูไม่อยากกินแล้ว แม่มึงก็บอกว่าห้ามกินไม่ใช่เหรอ ผมตอบไปอย่างนั้น ก็เรื่องของมึงแล้วกันกลัวห่าอะไรก็ไม่รู้ มันตอบผม และก็หันไปหาไอ้จุกพยักหน้าเป็นเชิงเข้าใจว่าเอาเลย และมันทั้งคู่ก็ลงมือกับของแก้บนอย่างเอร็ดอร่อย ขณะที่ผมนั่งมองดูมันกินอยู่ใกล้ๆ เมื่อพวกมันทั้งคู่อิ่มกันแล้วก็ชวนผมวิ่งเล่นแถวนั้น จนเริ่มเย็นก็ชวนกันกลับบ้านเมื่อมาถึงบ้านไอ้ป๋องกับไอ้จุกก็แยกไปบ้านมันซึ่งอยู่ไม่ห่างกัน และเหตุการณ์ที่น่ากลัวก็เกิดขึ้น

เมื่อขณะที่บ้านผมกำลังกินข้าวกันอยู่ก็ได้ยินเสียงโวยวาย และเสียงข้าวของแตกเสียงดังมากที่บ้านของไอ้ป๋อง

พวกเราตกใจมาก แม่ผมก็เลยลุกไปดูขณะนั้นเองแม่ไอ้ป๋องวิ่งมาจากบ้านมาที่บ้านผมท่าทางรุกลนมาก ลุงไปดูไอ้ป๋องกับไอ้จุกหน่อยมันแย่แล้ว มันเป็นอะไรวะ ลุงถามกลับไป มันชักใหญ่เลย ไม่รู้เป็นอะไร เมื่อลุงป้าและพ่อแม่ผมได้ยินอย่างนั้นก็ละจากวงข้าวและรีบไปดู เมื่อไปถึงบ้านไอ้ป๋องสิ่งที่เราได้เห็นก็คือไอ้ป๋องกับไอ้จุกนอนชักดิ้นไปดิ้นมาอย่างกับหายใจไม่ออกขาตวัดไปโดนกับข้าวกระเด็นกระดอน ดวงตาแดงกำ มือกุ้มที่ท้อง ที่ปากมีน้ำลายเป็นฟองๆ ไหลออกมาโดยพ่อของมันรั้งตัวไม่ให้ดิ้นไปไกล เมื่อลุงได้เห็นก็ถามแม่ของไอ้ป๋องว่าเอาอะไรให้ลูกกิน แม่มันบอกก็ว่ากับข้าวธรรมดา ลุงเดินไปที่ตัวไอ้จุกเปิดตามันดูแล้วบอกให้พวกเราได้ยินทั่วกันว่า ไม่มีตาดำ สงสัยโดนดีแล้ว

เล่นเอาทุกเราทุกคนตกใจ แม่ดึงผมมากอดไว้

ลุงถอดพระที่ห้อยคอออกแล้ว กำแล้วเอามาที่ปากขมุมขมิบเข้าใจว่าเสกคาถา ขณะที่ไอ้จุกและไอ้ป๋องยังดิ้นไม่หยุด ลุงเสกคาถาเสร็จก็เอาพระมาห้อยคอไอ้จุกไอ้จุกที่ดิ้นๆ อยู่ก็นิ่งไป แต่ดวงตาแดงก่ำยังจ้องเขม็งมาที่พวกเรา ลุงถอดพระและเป่าคาถา อีกครั้ง กำลังจะเอาไปแขวนคอไอ้ป๋อง ทันใดนั้นเองไอ้ป๋องก็ลุกขึ้น ถีบลุงอย่างแรงจนลุงกระเด็ดออกไป พร้อมกับพูดเสียงดังออกมาว่า มึงจะทำอะไรกู แต่เสียงนั้นไม่ใช่เสียงของไอ้ป๋องที่ผมคุ้นเคย แต่เป็นเสียงคนที่อายุมากเป็นเสียงแห้บพร่า น่ากลัว ลุงลุกขึ้นมาจ้องมองไปที่ไอ้ป๋องที่จ้องเขม็งด้วยตาแดงก่ำที่น่ากลัว ลุงถาม ท่านเป็นใคร กูก็พ่อปูพวกมึงไงคำตอบนั้นทำให้พวกเราทุกคนผวาแม่กอดผมแน่น แล้วลุงก็ถามกลับไปอีกว่า ทำไมต้องมาเข้าสิงหลานผมด้วย หลานผมไปล่วงเกินอะไรพ่อปูครับ

ก็พวกมันไปกินของกูนะสิ กูยังไม่ได้กินลูกพวกมึกก็มาแย่งกูกิน กูหิว จะมากินพวกมันแทน

แม่ไอ้ป๋องร้องไห้ใหญ่พร้อมกับพูดว่าขอร้องพ่อปูว่า อย่าเอาลูกหนูไปเลยนะพ่อปูเด็กมันไม่รู้เรื่อง กูไม่สนมันกินของกู กูก็จะกินมันแทน ทันใดนั้นไอ้จุกก็ดิ้นอย่างแรงพร้อมกับร้องโอดโอยมือกุมท้อง พ่อปูครับอย่าทำอะไรหลานผมเลยหลานผมยังเด็กนักมันไม่รู้เรื่อง เดี๋ยวพรุ่งนี้พวกผมจะเอาของไปถวายใหม่นะครับจะเอาไปเยอะกว่าเดิมอีก นะครับพ่อปูยกโทษให้หลานผมนะครับ พ่อปูในร่างของไอ้ป๋องนิ่งไป ได้ กูเองก็ไม่อยากทำบาปถ้าพรุ่งนี้มึงไม่เอาของมาให้กูกินกูจะมาเอาลูกมึง สิ้นคำพูดไอ้ป๋องก็ล้มล้งกับพื้น ไอ้จุกก็หยุดดิ้น ลุงและพ่อผมวิ่งไปพยุงร่างของไอ้ป๋องและไอ้จุก ทันใดนั้นมันทั้งคู่ก็อ้วกออกมาเป็นเลือด

วันรุ่งขึ้น พวกเราทุกคนก็เอาของเซ่นไปไหว้พ่อปูอีกครั้งในปริมาณที่มากกว่าเมื่อวาน

พร้อมกับพาไอ้จุก กับไอ้ป๋องไปขอขมาด้วย เสร็จพิธีผมถามว่ามันรู้ตัวไหมที่เมื่อวานพ่อปูเข้าสิงมันมันบอกไม่รู้เรื่องแต่ฝันเห็นผู้ชายแก่ใส่ชุดจุงกระเบนสีขาวหน้าดุๆ มาชวนมันไปอยู่ด้วย หลังจากเหตุการณ์ครั้งนั้นพวกผมสามคนก็ไม่กล้ากินของแก้บนอีกต่อไปชั่วชีวิต...


ขอขอบคุณประสบการณ์ผี ๆ จาก
เว็บไซด์พลังจิตดอทคอม


เครดิต :

ข่าวดารา ข่าวในกระแส บน Facebook อัพเดตไว เร็วทันใจ คลิกที่นี่!!
กระทู้เด็ดน่าแชร์