"ฉันยังไม่ตาย..."
มันเป็นเรื่องจริงที่เกิดขึ้นกับแม่ของฉัน แม่ของฉันเป็นครูสอนอยู่ที่โรงเรียนแห่งหนึ่ง
แล้วที่ข้างโรงเรียนมีร้านขายข้าวมันไก่ทอดอยู่ ร้านนั้นเดิมเป็นร้านขายข้าวซอย ชื่อว่า ร้านแสงจันทร์ เจ้าของเป็นหญิง ชื่อ "แสงจันทร์" ใคร ๆ ที่รู้จักแกก็เรียกแกว่า ป้าแสงจันทร์ พอแกอายุมากขึ้น แกก็ให้คนอื่นมาเช่าร้านแทน คนเช่าก็เปิดเป็นร้านขายข้าวมันไก่ทอด อยู่มาวันหนึ่งแม่ของฉันไปทำธุระในเมือง นั่งรถโดยสารประจำทางกลับมา โดยที่รถนั้นคนแน่นมาก เวลานั้นก็ประมาณ 5 โมงกว่า ระหว่างทางคนก็ลงไปทีละคนสองคน จนแม่ฉันสังเกตเห็นผู้หญิงที่นั่งอยู่ถัดไป เป็นคนที่รู้จักกัน เพราะแกคือ ป้าแสงจันทร์นั่นเอง แกใส่ชุดกระโปรงสีฟ้า แต่งหน้าเข้ม ขณะนั้นในรถเหลือเพียง แม่ฉัน ป้าแสงจันทร์ กับสองสามีภรรยาและลูกหนึ่งคน เมื่อเห็นป้าแสงจันทร์แม่ฉัน ก็ทักขึ้นด้วยความแปลกใจว่า
"พี่แสงจันทร์ พี่ตายไปแล้วไม่ใช่เหรอ"
ที่ถามอย่างนั้นเพราะเมื่อวาน แม่ฉันเห็นที่ร้านขายข้าวมันไก่มีงานศพจัดขึ้น
"ใครว่าฉันตาย" แกย้อนถาม
"ก็เห็นที่ร้านจัดงานศพ"
"ฉันยังไม่ตาย คนที่ตายเป็นคนที่มาเช่าร้านฉันต่างหาก"
รถแล่นผ่านหน้าร้านของแกแม่ฉันก็สงสัยว่าทำไมแกไม่กดอออดให้รถหยุด แต่ตอนนั้นแม่ฉันคิดว่าแกคงจะเลยไปตลาด พอถึงที่หมายแม่ฉันก็ลงรถ กลับบ้าน
พอวันต่อมาแม่ก็เถียงกับฉัน เพราะฉันบอกว่า "ป้าแสงจันทร์" แกตายแล้ว
แม่ไม่ยอมเชื่อบอกว่าเพิ่งจะเจอแกเมื่อวาน ทั้ง ๆ ที่ฉันยืนยันว่าแกตายมาได้หลายวันแล้ว แต่แม่ฉันก็ไม่เชื่อ วันรุ่งขึ้นจึงไปถามภารโรงที่โรงเรียน พอรู้ว่า งานศพที่จัดขึ้นนั้น เป็นงานศพของ "ป้าแสงจันทร์" แม่ฉันถามภารโรงว่าแกตายเมื่อไหร่ ภารโรงตอบว่าได้สองสามวันแล้ว แต่แม่ฉันขอให้ภารโรงอีกคนไปสืบดู ปรากฏว่า ป้าแสงจันทร์ แก " ตาย " แล้วจริง ๆ ศพของแก ลูกสาวแกใส่เสื้อสีฟ้าให้ ซึ่งเป็นชุดที่แกชอบมากและแต่งหน้าให้ด้วย พอรู้ความจริงแม่ฉันก็ฉุกคิดขึ้นได้ว่า ตอนที่คุยกะป้าแสงจันทร์นั้น เสียงแกเบามาก แถมตาแกก็ดู แข็ง ๆ ที่สำคัญตอนแม่ฉันลงจากรถ สองสามีภรรยาที่นั่งมาด้วยกัน มองหน้าแม่ฉันแปลก ๆ อาจจะเป็นเพราะ พวกเขาคงจะไม่เห็นคนที่แม่ฉันพูดด้วยกระมัง นับจากวันนั้นแม่ฉันก็ไม่กล้าเดินทางกลับค่ำอีกเลย แถมยังไปวัดทำบุญอุทิศส่วนกุศลให้แกด้วย
เคยมีคนบอกว่าตอนดึก ๆ ช่วงที่ป้าแสงจันทร์ตายใหม่ ๆ เห็นป้าแสงจันทร์เดินวนไปเวียนมาแถวหน้าร้านของแก
เรื่องเล่าจาก FW
แล้วที่ข้างโรงเรียนมีร้านขายข้าวมันไก่ทอดอยู่ ร้านนั้นเดิมเป็นร้านขายข้าวซอย ชื่อว่า ร้านแสงจันทร์ เจ้าของเป็นหญิง ชื่อ "แสงจันทร์" ใคร ๆ ที่รู้จักแกก็เรียกแกว่า ป้าแสงจันทร์ พอแกอายุมากขึ้น แกก็ให้คนอื่นมาเช่าร้านแทน คนเช่าก็เปิดเป็นร้านขายข้าวมันไก่ทอด อยู่มาวันหนึ่งแม่ของฉันไปทำธุระในเมือง นั่งรถโดยสารประจำทางกลับมา โดยที่รถนั้นคนแน่นมาก เวลานั้นก็ประมาณ 5 โมงกว่า ระหว่างทางคนก็ลงไปทีละคนสองคน จนแม่ฉันสังเกตเห็นผู้หญิงที่นั่งอยู่ถัดไป เป็นคนที่รู้จักกัน เพราะแกคือ ป้าแสงจันทร์นั่นเอง แกใส่ชุดกระโปรงสีฟ้า แต่งหน้าเข้ม ขณะนั้นในรถเหลือเพียง แม่ฉัน ป้าแสงจันทร์ กับสองสามีภรรยาและลูกหนึ่งคน เมื่อเห็นป้าแสงจันทร์แม่ฉัน ก็ทักขึ้นด้วยความแปลกใจว่า
"พี่แสงจันทร์ พี่ตายไปแล้วไม่ใช่เหรอ"
ที่ถามอย่างนั้นเพราะเมื่อวาน แม่ฉันเห็นที่ร้านขายข้าวมันไก่มีงานศพจัดขึ้น
"ใครว่าฉันตาย" แกย้อนถาม
"ก็เห็นที่ร้านจัดงานศพ"
"ฉันยังไม่ตาย คนที่ตายเป็นคนที่มาเช่าร้านฉันต่างหาก"
รถแล่นผ่านหน้าร้านของแกแม่ฉันก็สงสัยว่าทำไมแกไม่กดอออดให้รถหยุด แต่ตอนนั้นแม่ฉันคิดว่าแกคงจะเลยไปตลาด พอถึงที่หมายแม่ฉันก็ลงรถ กลับบ้าน
พอวันต่อมาแม่ก็เถียงกับฉัน เพราะฉันบอกว่า "ป้าแสงจันทร์" แกตายแล้ว
แม่ไม่ยอมเชื่อบอกว่าเพิ่งจะเจอแกเมื่อวาน ทั้ง ๆ ที่ฉันยืนยันว่าแกตายมาได้หลายวันแล้ว แต่แม่ฉันก็ไม่เชื่อ วันรุ่งขึ้นจึงไปถามภารโรงที่โรงเรียน พอรู้ว่า งานศพที่จัดขึ้นนั้น เป็นงานศพของ "ป้าแสงจันทร์" แม่ฉันถามภารโรงว่าแกตายเมื่อไหร่ ภารโรงตอบว่าได้สองสามวันแล้ว แต่แม่ฉันขอให้ภารโรงอีกคนไปสืบดู ปรากฏว่า ป้าแสงจันทร์ แก " ตาย " แล้วจริง ๆ ศพของแก ลูกสาวแกใส่เสื้อสีฟ้าให้ ซึ่งเป็นชุดที่แกชอบมากและแต่งหน้าให้ด้วย พอรู้ความจริงแม่ฉันก็ฉุกคิดขึ้นได้ว่า ตอนที่คุยกะป้าแสงจันทร์นั้น เสียงแกเบามาก แถมตาแกก็ดู แข็ง ๆ ที่สำคัญตอนแม่ฉันลงจากรถ สองสามีภรรยาที่นั่งมาด้วยกัน มองหน้าแม่ฉันแปลก ๆ อาจจะเป็นเพราะ พวกเขาคงจะไม่เห็นคนที่แม่ฉันพูดด้วยกระมัง นับจากวันนั้นแม่ฉันก็ไม่กล้าเดินทางกลับค่ำอีกเลย แถมยังไปวัดทำบุญอุทิศส่วนกุศลให้แกด้วย
เคยมีคนบอกว่าตอนดึก ๆ ช่วงที่ป้าแสงจันทร์ตายใหม่ ๆ เห็นป้าแสงจันทร์เดินวนไปเวียนมาแถวหน้าร้านของแก
เรื่องเล่าจาก FW
เครดิต :
ข่าวดารา ข่าวในกระแส บน Facebook อัพเดตไว เร็วทันใจ คลิกที่นี่!!