คิดสักนิด...ก่อนคิดจะลอง


คิดสักนิด...ก่อนคิดจะลอง

เรื่องของเรื่องเริ่มต้นจากตัวผมเอง เพราะ?? เพราะอะไรไม่รู้

เหตุเกิดที่มหาวิทยาลัยแห่งหนึ่ง แต่ก่อนที่จะเข้ามาศึกษาในมหาวิทยาลัยและเป็นส่วนหนึ่งนั้น ทางมหาลัยจะต้องมาการเข้ามาไหว้ขอขมาแก่เจ้าที่ ในบริเวณศาลภายในหาวิทยาลัย แต่เนื่องด้วยผมติดธุระจึงไม่สามารถมาไหว้ขอขมาในครั้งนั้น จึงเข้ามาศึกษาและอยู่อาศัยภายในมหาวิทยาลัยเลย (เรื่องที่เกิดตอนอยู่ปี 1) เหตุเกิดขึ้นที่หอพักนักศึกษาในมหาลัย เนื่องจากตัวอาคารเป็นอาคาร 2 ชั้นและมีอายุสิบกว่าปีแล้วจึงทำหใอคารค่อนข้างเก่าและทรุดโทรม วันที่เกิดเรื่องนั้น เพราะอะไรไม่รู้ ทำให้ผมพูดท้าทายสิ่งศักสิทธิ์ไปว่าภายในหอพักนักศึกษา "กูไม่กลัวผีหรอก กูอยากเห็นว่ะ ถ้ามีจิงมาให้กูเห็นหน่อยสิ" มันก็เป็นคำพูดเดิมๆของคนที่ชอบท้าทาย ซึ่งฟังกันมาบ่อยๆ และหลังจากนั้นก็ไม่มีอะไรครับ จบ

ล้อเล่นน่ะครับ!!

หลังจากนั้นผมก็ได้เข้านอนซึ่งภายในตัวห้องที่ผมพักอยู่นั้นเป็นเตียงสองชั้น มีอยู่ 2 เตียง ผมนอนอยู่เตียงทางติดประตูบานเกล็ดฝั่งซ้ายทางด้านบนโดยที่ห้องอยู่ได้4คน

แต่เพื่อนๆย้ายไปอยู่หอนอกหมดแล้วทำให้ผมก็นอนค้างอยู่เพียงคนเดียว(ตอนนี้ยังพักอยู่ในชั้นที่1 ของพอพัก) ตอนนั้นดึกมากแล้ว และผมก็เริ่มง่วงในไม่ช้าผมก็หลับ และเหตุที่ผมไปพูดท้าทายไว้ก่อนนอนนั้น ตอนนั้นมันกำลังจะเกิดขึ้นแล้ว ซึ่งตอนนั้นไม่รู้ว่าเวลาเท่าไหร่แต่รู้ว่าดึกมาก เพราะเงียบเสียงจากนักศึกษาภายในหอพักหมดแล้ว และไม่นานผมก็เริ่มรู้สึกอึกอัด ทั้งหนักทั่งแน่นอย่างบอกไม่ถูก ผมจึงพยายามดิ้นแต่ไม่เป็นผล เพราะมันสายไปแล้ว ผมลืมตาขึ้นอย่างงัวเงีย และทั้นใดที่ลืมตาขึ้นมาก็เห็นว่ามีร่างดำๆมานั่งทับไว้ที่ตัวผมแล้ว โดยใช้ขาสองข้างของเค้าทับแขนผมไว้ และร่างดำๆนั้น ได้บีบคือผมไว้ตั้งแต่เมื่อไหร่ไม่รู้ ตอนนั้นผมไม่ง่วงแล้วครับ ผมก็พยายามสู่ดิ้นให้แรง แต่ก็ไร้ผลซึ่งผมก็พยายามดิ้นอยู่นาน แล้วก็เริ่มหายใจไม่ออก ผมจึงพูดในใจว่ากับเงาดำ "มึงจะยังไง"

แต่ก็ไม่มีการตอบรับ หนำซ้ำยังบีบคอผมจนหายใจไม่ออกแล้ว

ในตอนนี้ ผมเองก็ไม่อยากจะพูดคำขอขมาเพราะจำได้ดีว่าไปว่าลบหลู่เอาไว้ สุดท้ายเมื่อรู้ว่าไม่มีทางชนะและไม่มีอากาศให้หายใจต่อแล้ว เป็นทางเดียวที่คิดว่าทำแล้วจะรอดคือ ผมต้องพูดขอขมาตรงนั้น ทั้งที่ร่างดำๆยังทับอยู่บนยอดอก ผมพูดขึ้นว่า "ผมยอมแล้วครับ ผมไม่พูดแล้ว ปล่อยผมไปเถอะ อโหสิที่ผมพูดไม่ดีด้วยเถอะ." ซึ่งตอนนั้นผมพูดอะไรก็จำไม่ค่อยได้แล้วเพราะไม่มีอากาศหายใจ และหลังจากนั้นร่างดำๆที่ทับและบีบคอผมไว้ก็หายไปในความมืด ผมจึงลุกขึ้นมาจากเตียง หายใจยังติดๆขัดๆอยู่ หอบเลยทีเดียวเหงื่อแตกพรักเลย จึงลงจากเตียงมาล่างหน้าและนั่งรอเวลาให้ถึงตอนเช้า

รุ่งเช้าก็อาบน้ำไปเข้าชั่วโมงเรียนตามปรกติ ทั้งที่เรื่องเมื่อคืนผมจำได้ว่าร้องให้คนช่วยแต่กลับไม่มีใครได้ยิน แปลก???

และเรื่องนี้ก็ไม่มีใครทราบ จนผ่านมาสัก 2-3 วันได้ เพื่อนสนิทผมเองชื่อโอ๋ครับ จบมาจากโรงเรียนเดียวกันห้องเดียวกันด้วย วันมันก็มานั่งคุยเล่นไปเรื่อยกับผมในห้องตอนนั้นเราคุยกันและเปิดไฟไว้ตลอด และเรื่องที่เกิดกับผมนั้นผมยังไม่ได้บอกอะไรกับมัน เราคุยกันไปได้สักพักเพื่อนผมมันก็เงียบไปผมก้มลงไปมองเตียงชั้นล่างซึ่งผมนอนอยู่ชั้นบนปรกติอยู่แล้ว ก็เห็นเพื่อนมันหลับไปแล้ว ตอนนั้นประมานสามทุ่มกว่าเมื่อเพื่อนมันหลับผมก็ไม่มีใครคุยด้วยก็เลยหลับไปอีกคนครับ นอนทั้งที่ไม่ปิดไฟ ปรกติถ้ามีแสงไฟผมจะนอนไม่หลับครับ จนกระทั่งเวลาประมาณห้าทุ่มกว่า ไอ้โอ๋เพื่อนผมมันตื่นขึ้นมาอย่างเสียงดัง(ผมไม่รู้ว่ามันหลับรึเปล่าและตื่นมาตั้งแต่ตอนไหน) จนทำให้ผมตื่นขึ้นมาด้วย มันทำท่าทำทางลุกลี้ลุกลน สีหน้ามันไม่ค่อยจะดีเลยในตอนนั้นแล้วมันก็.........บอกผมว่า

โอ๋:เอ้ย! เมื่อกี้ผีบีบคอกูว่ะ มึงไม่เห็นเหรอ ทำไมมึงไม่ช่วยกูว่ะ

ผม :ไม่เห็นว่ะกูหลับ กูไม่เห็นมีรัยเลย

โอ๋:ไม่มีไงว่ะ เมื่อกี้ยังบีบคอกูอยู่เลย กูร้องให้ช่วยมึงไม่ได้ยินรึไงว่ะ

ผม:ไม่ว่ะ กูไม่ได้ยินอะไรเลย

โอ๋:เอ้ย! เป็นไปได้ไงว่ะ กูเรียกให้ช่วยตั้งหลายครั้ง

ผม:ถ้าได้ยินเพื่อนห้องข้างๆเค้าก็มาช่วยแล้วสิว่ะ

โอ๋:มันทำหน้างงๆ สีหน้าไม่ค่อยดีแล้ว กูไม่นอนเล่นแล้วห้องนี้

ผม:เออๆ ตามใจมึง ก่อนมันจะลุกเดิน ผมบอกว่าเมื่อ 2- 3 วันก่อนกูก็เจอเหมือนที่มึงเจอมา

โอ๋:ทำหน้างง มึงเจออะไรว่ะ

ผม:ผีบีบคอกูเหมือนมึงเลย แต่กูไม่ได้บอกมึง

โอ๋:มันทำหน้าเสียแล้วรีบออกจากห้องผมไปเลย

หลังจากนั้นผมก็สวดมนต์ไหว้พระแล้วก็นอนทำเหมือนไม่มีอะไรเกิดขึ้น แต่คิดในใจถ้าวันนี้ผีกลับมาบีบคอเราอีกจะทำไงว่ะ นอนคนเดียวด้วย เรื่องนี้ก็จบลง

ไม่นานหนักพอดีเพื่อนในหอเดียวกันมาบอกว่าห้องว่าโดยมีเพื่อนคนนี้นอนอยู่คนเดียว เพื่อนคนนี้ชื่อป๋อง ผมจึงไม่รอช้ารีบย้ายของออกจากห้องเก่าทันที เพื่อไปอยู่กับเพื่อนห้องขอเพื่อนมีลักษณะเช่าเดียวกับห้องผมเพราะเป็นหอพักนักศึกษา ห้องนี้อยู่กันได้ 4 คน แต่ผมอยู่กันแค่สองคนกับเพื่อน และห้องที่ผมย้ายไปเป็นห้องบ้วยหรือห้องสุดท้าย อยากจะบอกว่าห้องนี้มันแปลก เพราะเมื่อถึงหน้าหนาวอากาศมันหนาวสิครับ<---แปลกตรงไหนว่ะไอ้บร้า ก็มันหนาวยังกับห้องดับจิตเลยล่ะครับ แล้ว สี่ห้องสุดท้ายน่ะครับเวลาเดินผ่านจะรู้สึกว่ามันเย็นถึงขั่วหัวใจเลย นอนในห้องนี้สั่นๆทั้งคืนเลยครับ ถ้ามีเวลาว่างผมจะออกมานั้งตากแดดตรงระเบียงครับแต่มันไม่ช่วยอะไรสักเท่าไหร่เลย

และเหตุการณ์ก็เกิด ในช่วงหน้าหนาว คือนั้นก็ปรกติดีอากาศกำลังดีเลย ผมเละเพื่อนๆจำได้ซื้อของมาทานกันในห้อง

ซึ่งสองห้องของเรานั้นห้องจะตรงกันและมีทางเดินขั้นกลางเท่านั้น เมื่อเปิดประตูทั้งสองห้องก็จะเห็นภายในห้องทั้งสองได้เลย วันนั้นเราซื้อของมากินกันอย่างสนุก และเราก็เปิดประตูห้องไว้ เพราะว่ากลัวใครมาหาจะไม่เจอ จึงเปิดไว้ระหว่างสองห้อง ไม่นานเราก็กินอาหารจนหมด และผมก็เห็นคนสวมเสื้อดำเดินมามองหลบๆทางประตูนิดหน่อย เห็นเฉพาะช่วงบน แล้วเค้าคนนั้นก็หายไป เพราะผมลุกออกไปเปิดประตู่ตามไปดู ผมก็เอ๋ยปากว่า "เมื่อกี้ใครมาว่ะ หายไปไหนแล้ว มาหาพวกมึงเปล่าว่ะ" มีผมกับเพื่อนอีกคนหนึ่งที่เห็นคนเสื้อดำนั้น แต่อีกสามคนที่นั่งด้วยกันกลับไม่เห็น แถมบอกว่ามีใครมาเมื่อไหร่ ทำไมเห็นกันแค่สองคนว่ะ

เราก็ไม่ได้ติดความอะไร แต่ผมมานึกดูกับเพื่อนอีกคนที่เห็นก็รู้ว่าเมื่อครู่นี้คงไม่ใช่คนแล้วล่ะ

พอตกดึกก็แยกย้ายกันเข้าห้อง ไม่นานหนักก็มีเสียงนกแซกมาร้องไกล้ๆห้อง เพื่อนผม ไอ้ป๋องมันก็พูดขึ้นว่าสงสัยคงจะมีใครตายอีกแล้ว ผมก็เงียบสักพักแล้วบอกว่าไม่มั่ง ไม่มีอะไรหรอก จากนั้นเราก็นอน เวลาประมาณตี3 แม่ของไอ้ป๋องโทรมาบอกว่า พ่อของมันเสียแล้ว โอ้ว!....อะไรกันนี้ ที่นกมันร้องเพราะเหตุนี้เหรอ แล้วคนเสื้อดำที่เห็นนั้นคงไม่ใช่ใครนอกไปจาก.....................ที่เล่ามานี้เรื่องจริงครับ เกิดขึ้นตอนที่ผมอยู่ในหอพักนักศึกษา ช่วงปี 1

อยากบอกกับคนที่คิดอยากจะลองของครับ ว่าอย่าลองเลยน่ะ เพราะคุณอาจไม่โชคดีเหมือนผม และคุณไม่มีลมหายใจ จากคำบางคำที่คุณพลั้งปากพูดไป


เครดิต :

ข่าวดารา ข่าวในกระแส บน Facebook อัพเดตไว เร็วทันใจ คลิกที่นี่!!
กระทู้เด็ดน่าแชร์