ทารกในหอพัก


ทารกในหอพัก

ผมเป็นเด็ก ตจว. ที่เข้ามาเรียนมหาวิทยาลัยในกรุงเทพฯ

เช่าหอพักอยู่ใกล้ๆ แถวรังสิต ค่าเช่าไม่ใช่ถูกๆ แต่ก็แสนสบาย มีทุกสิ่งทุกอย่างเพียบพร้อม นักศึกษาที่มาเช่าส่วนมากเป็นลูกคนมีกะตังค์ทั้งนั้น หอพักนี้ไม่ใช่ของมหาวิทยาลัยนะครับ เป็นของเอกชน จึงหรูหราและสะดวกเกือบไม่ต่างจากรีสอร์ตระดับ 5 ดาว! ต้องพูดอย่างนั้นเลยล่ะ คนที่มาเช่าเป็นนักศึกษาก็จริงครับ แต่ทุกคนต้องรับผิดชอบตัวเอง ไม่มีระเบียบบังคับของหอพักว่าจะต้องกลับหอกี่โมงกี่ยาม เรามีอิสระเต็มที่ ขอแต่เพียงมียามและมาตรการรักษาความปลอดภัยเท่านั้นเอง

ดูๆ ไปเหมือนชีวิตในคอนโดฯ หรืออพาร์ตเม้นต์มากกว่าหอพักนักศึกษาทั่วๆ ไป

ความที่ชอบทำให้ผมไม่คิดย้ายไปไหน ยังปักฐานอยู่จนปีนี้เรียนปีสุดท้ายแล้วครับ เมื่ออยู่นานก็ย่อมมีความสนิทสนมกับเพื่อนข้างห้อง เขาเป็นรุ่นน้องผมหนึ่งปี อยู่คนละคณะ แต่เพราะความที่เป็นเพื่อนข้างห้องเราจึงรู้จักและชอบพออัธยาศัยกันมากว่าสองปีแล้ว บางทีก็มาดูซีดีกัน เล่นกีตาร์กัน จัดปาร์ตี้เล็กๆ กันก็เคย เขาชื่อธเนศครับ หล่อเหลาและไฮโซฯไม่ใช่เบา วันหนึ่ง ธเนศก็มาปรึกษาอย่างหน้าดำคร่ำเครียด ว่าไปทำผู้หญิงคนหนึ่งท้องป่องขึ้น!

ผมขอเล่าอย่างรวบรัดเลยดีกว่านะครับ ว่าถ้าพ่อแม่ทั้งฝ่ายรู้ต้องตายแน่ๆ

สรุปแล้ว ธเนศแอบพาแฟนมาที่ห้อง แล้วจ้างผู้หญิงวัยกลางคนร่างอ้วน ผิวดำ อ้างว่าเป็นพยาบาลมาจัดการรีดลูกให้ถึงในห้อง ส่วนผมช่วยดูต้นทาง ไม่ให้ใครมาระแคะระคายเป็นอันขาด เหตุการณ์ที่ว่ามันสุดบรรยายจริงๆ แฟนของธเนศท้อง 4 เดือน ทุลักทุเลและนองเลือดน่าดู ไม่รู้เขาทำยังไง ในที่สุดก็ดึงเอาเด็กและรกออกมาจนได้ แฟนธเนศตัวซีดจนผมกลัวว่าเธอจะตายแต่ก็รอด ไม่รู้ว่าบุญหรือกรรมแน่ ที่น่าสยองที่สุดคือวิธีกำจัดซากทารก! ผมว่าถ้าเป็นผม ก็แค่ห่อใส่กล่องหรือถุงขยะเอาไปทิ้งซะให้สิ้นเรื่องสิ้นราวแค่นั้นเอง เพราะแม่ทารกก็ไม่ได้อยู่ที่นั่นด้วย รับรองว่าต้องไม่มีใครมารู้เห็น หรือยืนยันได้ว่ามาจากห้องพวกเราแน่ๆ

แต่นี่สงสัยยัยพยาบาลเถื่อนคนนี้คงจะมาจากนรก!

หรือไม่ก็เป็นประเภทน้องๆ ฆาตกรโรคจิต เพราะแกเล่นเอามีดแล่เนื้อเล่มใหญ่ที่พกมาด้วย ตัด หั่น และสับทั้งรกทั้งเด็กเสียละเอียดคล้ายหมูบะฉ่อ ก่อนจะทิ้งชักโครกไปทีละน้อย กดน้ำหลายๆ ครั้งจนไม่เหลือร่องรอย ***มเหลือเกิน ไม่อยากจะเชื่อเลย! ไอ้ผมมันเด็กอยากรู้อยากเห็นก็เลยยืนดูไปสยองไป เล่นเอากินข้าวไม่ลงไปหลายวัน กลิ่นคาวเลือดและภาพที่น่าคลื่นไส้ ระคนกับน่าเวทนา มันติดหูติดตามจนพานเก็บเอาไปฝันร้ายแน่ะ

และก็นี่ล่ะครับ ที่ผมไม่แน่ใจว่าไอ้ที่เคยได้ยินเสียงทารกร้องแง้วๆ อยู่ข้างหูน่ะ หูฝาดหรือผีหลอกกันแน่!?

สงสัยต้องไปหาจิตแพทย์ แต่ไม่ใช่ผมคนเดียวหรอก ธเนศก็ต้องไปด้วย เพราะที่ห้องเขาเริ่มมีอะไรแปลกๆ เช่นเสียงเหมือนลุกแมวร้องแผ่วๆ โหยๆ แบบใกล้ตาย หรือมีเงาอะไรบางอย่างตัวเล็กๆ วูบๆ วาบๆ บ่อยครั้ง ในห้องนั้นก็มีแต่กลิ่นคาวเลือด บางคืนก็เหม็นเหมือนปลาเค็มเน่า แต่หาเท่าไหร่ก็หาที่มาของกลิ่นนั้นไม่พบ น่ากลัวกว่านั้น เมื่อเพื่อนร่วมหอบางคนชมว่าหลานสาวของธเนศน่ารัก...ตอนแรกเราเป็นงง ตอนหลังก็ขนลุก เพราะคนที่ชมเขาว่า เห็นเด็กผู้หญิง 3-4 ขวบ นุ่งกระโปรงสีแดง เดินตามธเนศเข้าลิฟต์ต้อยๆ อยู่เป็นประจำ!

หอพักที่เคยเป็นสวรรค์ กลับกลายเป็นนรกที่เราก่อกรรมทำเข็ญขึ้นมาเอง!

ถึงผมจะไม่ใช่ผู้กระทำ แต่ก็มีส่วนร่วมรู้เห็น ผมเลยชวนกึ่งบังคับให้ธเนศไปทำบุญด้วยกัน...อย่างน้อยก็ช่วยให้สบายใจขึ้น ธเนศขนพระมาตั้งไว้ แถมมียันต์สารพัดชนิดมาปิดไว้ทุกฝาผนัง...เกือบทุกซอกทุกมุมของห้อง แต่ถึงอย่างนั้นเขาก็ยังอยู่ไม่ได้ ต้องมานอนกับผม ส่วนห้องเขาใช้เป็นที่เก็บของไป...เวลาจะไปเอาของก็ต้องชวนกันไป สมน้ำหน้า! ทุกวันนี้เรายังได้ยินเสียงเหมือนแมวไม่สบายดังแผ่วๆ อยู่ตลอด บางคืนก็ถูกผีอำและฝันร้าย เห็นแต่ทารกผีมายืนหัวเราะ อ้าปากแดงๆ มีเลือดสดๆ ไหลย้อย นัยน์ตาดำโตลุกวาวจ้องมอง ไม่รู้ว่าคิดไปเองหรือของจริง? อีกไม่นานเราคงต้องย้ายออกจากหอพักเมื่อเรียนจบ แยกย้ายกันไปตามวิถีทางของใครของมันแล้ว

ผมเขียนมาเล่าเพื่อเป็นตัวอย่าง อย่าทำอย่างพวกผมเลยครับ ไม่รู้เหมือนกันว่าเวรกรรมจะตามจิกเจ้าธเนศต่อไปในรูปแบบไหน? ผมเองก็ยอมรับว่ายังเสียวสันหลังอยู่เหมือนกันครับ


เครดิต :

ข่าวดารา ข่าวในกระแส บน Facebook อัพเดตไว เร็วทันใจ คลิกที่นี่!!
กระทู้เด็ดน่าแชร์