บ้านนี้ผีอยู่


บ้านนี้ผีอยู่

"วิน" เล่าประสบการณ์ขนหัวลุกจากบ้านผีสิง

ใครไม่เคยเจอะเจอเรื่องสยองขวัญกับตัวเอง ย่อมไม่มีวันซาบซึ้งหรอกครับว่ามันทารุณแค่ไหน? แสนจะสยดสยองพองขนสุดขีดปานใด? ขาดสติแตก หรือไม่ก็หัวใจหวิดจะหยุดเต้นได้ง่ายๆ ก็มี

ผมเคยมีประสบการณ์กับตัวเองมาแล้วครับ!

เปล่านะครับ ผมไม่ได้ไปเที่ยวป่าเที่ยวทะเลจนโดนผีหลอกกระ เจิดกระเจิง หรือไปนอนค้างตามโรงแรมผีดุทั้งหลายแหล่ จนโดนภูตวิญญาณเล่นเอาซะปางตาย

อ้อ! ไม่ใช่ขับรถขับราตอนดึกๆ ดื่นๆ ผ่านถนนมรณะ แล้วโดนผีตายโหงมาเผ่นตัดหน้ารถอย่างที่เขาเจอะเจอกัน สาเหตุสำคัญ ก็คือผมไม่มีรถขับรถไม่เป็น อาศัยรถเมล์มั่ง แท็กซี่หรือตุ๊กตุ๊กมั่ง หลายครั้งรีบด่วนเป็นโดนไฟลน ต้องอาศัยซ้อนท้ายแมงกะไซค์รับ จ้างก็มี

ผมเจอเรื่องสุดหลอนในถนนซอยบ้านผมนี่เอง!

เอ่ยถึงดินแดงห้วยขวางจะเรียกว่าใจกลางเมืองก็ยังได้ ถนนซอยมากมายเหมือนใยแมงมุม บ้านช่องแน่นหนา รถรากับผู้คนก็คึกคักไม่เบา แต่ตอนกลางคืนค่อนข้างเงียบหน่อย ถือว่าธรรมดามาก ตรอกซอยไหนๆ ในเมืองหลวงก็เป็นแบบนี้แทบทั้งนั้น

เรื่องคนตายในซอยน่ะมีแน่ ทั้งรถชนตาย ไล่ฆ่ากันตาย เผลอๆ ผู้ร้ายโดนตำรวจวิสามัญฯจนถึงคนแก่เดินมาดีๆ แล้วเป็นลมตายก็มี

ล่าสุด มีการตายแบบยกครัวก่อนถึงบ้านผมราวร้อยเมตรเห็นจะได้

ผัวขี้หึง หาว่าเมียดอดไปมีกิ๊กทั้งๆ ที่ลูกเต้าก็เกือบสิบขวบทั้งสองคน เป็นปากเสียงกันให้ชาวบ้านรำคาญบ่อยครั้ง ล่าสุดทะเลาะกันล้งเล้งไม่นานก็ผลุนผลันคว้าปืนยิงเมียตายแล้วจ่อยิงลูกด่าวดิ้นทั้งคู่ ก่อนจะลงเอยด้วยการยิงตัวตาย...ก่ายเกยกันสี่ศพในห้องรับแขก!

บ้านนั้นเลยร้างมาเดือนกว่าแล้ว ได้ข่าวว่าญาติๆ บอกขายแต่ยังหาคนซื้อไม่ได้...แหม! เรื่องสยองนี้เป็นข่าวดังหยกๆ หาคนใจถึงมาอยู่ลำบากครับ คงต้องรอไปจนกว่าเรื่องจะซา หรือไม่ก็มีคนไม่รู้เรื่องมาซื้อบ้านนี้

ข่าวลือเรื่องผีดุก็แพร่หลายกันปากต่อปากตั้งแต่เกิดเรื่องสยองได้ไม่ถึงอาทิตย์...เพิ่งจะเผาศพพ่อแม่ลูกไปหยกๆ ว่างั้นเถอะ

ทั้งๆ ที่คนในซอยขนลุกขนพองกันจนไม่ค่อยมีใครอยากเดินผ่านตอนกลางคืน แต่คนที่จำเป็นต้องเดินผ่านตอนเช้าๆ เย็นๆ ก็อดเหลียวหน้าเหลียวหลังไม่ได้ แม่บ้านหรือสาวใช้ก็ไปจ่ายตลาดตอนบ่ายๆ ขากลับมักนั่งตุ๊กตุ๊กกันทั้งนั้น

เด็กๆ กลับจากโรงเรียน เดินเข้าซอยมาเป็นกลุ่มๆ ได้ยินเสียงทักที่หน้าประตูรั้วบ้านร้างว่าเพิ่งกลับเหรอ? ก็หันไปพยักหน้าให้เพื่อนร่วมซอย เด็กชายคู่นั้นยืนจับมือกันมองเศร้าๆ อยู่ใต้ร่มแสงจันทร์...

เอ๊ะ! เพื่อนเรามันโดนพ่อยิงตายไปทั้งสองคนแล้วนี่นา! นึกได้ก็วิ่งกระเจิงเป็นหมูแตกเล้า ร้องไห้จ้าไปตลอดทาง เดือดร้อนต้องมีคนไปรับหรือนั่งตุ๊กตุ๊กกลับบ้านพร้อมกัน

ตอนเย็นๆ หนุ่มสาวที่เดินตีไหล่ พูดคุยเจ๊าะแจ๊ะ หัวเราะต่อกระ ซิกกัน พอผ่านบ้านนี้เกิดได้ยินเสียงผัวเมียทะเลาะกันดังออกมา หัน ขวับไปมองก็นึกได้...จ้ำอ้าวแยกย้ายไปบ้านใครบ้านมันทันใด!

ขนาดมอเตอร์ไซค์รับจ้างเห็นแม่บ้านโบกมือยังเผลอเข้าไปจอดรับ...ไม่ใช่ว่าจะหายไปไหนนะครับ แต่ทำท่าว่าจะขึ้นรถมาจริงๆ ด้วย

"ผีนี่หว่า!!" เพิ่งจะนึกขึ้นได้ ออกรถพุ่งพรวดแบบคนสติแตกได้ไม่ถึง 30 เมตรก็ล้มคว่ำ ถลอกปอกเปิกไปทั้งตัว...ถ้าไม่สวมหมวกนิรภัยไว้มีหวังได้ไปเกิดใหม่แน่นอน

วันดีคืนร้ายผมก็เจอเข้ากับตัวเอง!

คืนนั้นราวสองทุ่มเศษ ฝนเพิ่งจะซาเม็ดเลยไม่ค่อยมีรถรากับผู้ คน ผมเดินทอดน่องมาเรื่อยๆ บนฟุตปาธ...ถนนซอยค่อนข้างกว้าง มีต้นไม้ปลูกเรียงรายร่มครึ้มดูเยือกเย็นอยู่ในแสงไฟฟ้าริมทาง...จู่ๆ ก็ได้ยินเสียงเด็กหัวเราะคิกคักมาจากบ้านซ้ายมือ...หันไปมองถึงนึกได้ว่าเป็นบ้านมรณะหลังนั้นเอง

ตอนแรกนึกว่าอาจจะเมาไปหน่อยเลยหูฟั่นเฟือน แต่คงไม่ถึงกับตาฝาดจนเห็นเด็กชายสองคนกำลังยืนเด่นอยู่ในแสงไฟห้องรับแขก จ้องมองมาตาแป๋วพร้อมกับหัวเราะคิกคักไปด้วย...เล่นเอาขนหัวลุกตั้งในบัดดล!

"ผีหลอก!!" ผมได้ยินเสียงตัวเองดังก้องอยู่ในกะโหลก รู้สึกเหมือนเท้าหลุดพื้นแต่ฟ้าถล่มโครมลงมา หัวใจคงจะหยุดเต้นไปชั่วขณะ ก่อนที่ผมจะกระโจนพรึ่บเหมือนนักวิ่งโอลิมปิก 100 เมตรพุ่งออกจากจุดสตาร์ต ...ไม่ช็อกตายคาที่ถือว่าเป็นบุญแล้วครับ! บรื๋ออออ....


ขอบคุณเรื่องเล่าจากข่าวสด


เครดิต :

ข่าวดารา ข่าวในกระแส บน Facebook อัพเดตไว เร็วทันใจ คลิกที่นี่!!
กระทู้เด็ดน่าแชร์