ลางตาย


ลางตาย

"มาตา" เล่าประสบการณ์สยองขวัญเมื่อลูกชายไปเข้าค่ายรด.ที่เขาชนไก่

เมื่อขึ้นเดือนมกราคม ไม่ว่าใครๆ ก็คงนึกถึงความสุข สนุกสนานในงานฉลองปีใหม่ โดยหวังว่าชีวิตจะมีความสุข ความสมหวัง หมดทุกข์โศกโรคภัย กับนึกถึงวันเด็กและวันครูที่จะติดตามมาอย่างกระชั้นชิด

ตรงกันข้ามกับดิฉันค่ะ พอขึ้นเดือนแรกของปีใหม่ทีไร จิตใจของดิฉันมีแต่ความหดหู่ ปวดร้าว ระคนกับสยองขวัญสุดๆ ทุกครั้งไป!

เหตุการณ์ที่เหมือนฝันร้าย หลอกหลอนดิฉันมาตลอด 4 ปีเต็มๆ เกิดขึ้นเมื่อย่างเข้าสัปดาห์ที่สองของเดือนมกราคม ตาอั้น ลูกชายคนเดียวของดิฉันเตรียมตัวไปเข้าค่ายรด.ที่เขาชนไก่ จังหวัดกาญจนบุรีเป็นเวลา 4 คืน 5 วัน

หัวอกแม่นะคะ มีแต่ความรักความห่วงใยลูกตั้งแต่วันแรกที่แกลืมตาดูโลก..ไปจนกว่าจะถึงวันตายจากกัน!

สามีดิฉันทำเฉยๆ แถมปลอบอกปลอบใจว่า ไม่ต้องเป็นห่วงเป็นกังวลไปหรอก ไม่ใช่มีแต่ลูกเราคนเดียว แต่มีลูกคนอื่นๆ อีกเป็นพันเป็นหมื่น ไหนจะเพื่อนร่วมชั้นของตาอั้นเป็นสิบๆ คนอีกล่ะ..ลืมๆ เสียหย่อนก็ได้เห็นหน้าลูกชายแล้ว

แน่ละซีคะ! เขาไม่เคยต้องออกค่ายนี่นา เพราะไม่ได้เรียนรด.ใช้วิธีวัดดวงจับใบดำ-ใบแดงเอา โชคดีที่จับได้ใบดำ

ตายายของตาอั้นก็เป็นห่วงไปสารพัดอย่าง! จะมีสัตว์ร้ายในป่าหรือเปล่า? เสือสางอาจจะไม่มี แต่พวกงูเงี้ยวเขี้ยวขอล่ะ? ให้เตรียมหยูกยาไปให้ครบนะ โดยเฉพาะเรื่องอาหารการกินจะทำยังไง? ตาอั้นต้องเอาข้าวสารไปหุงในหม้อทหารกินเองหรือ?

ตายละ! เกิดมาไม่เคยหุงข้าวต้มแกง ทอดไข่ยังไม่เคย แล้วจะทำยังไง? ไหนจะซักผ้าผ่อนอีกล่ะ..กลับมามีหวังผอมตาย!

ตาให้พระเครื่องหลานชาย บอกว่าเป็นพระรอดที่ตาใช้มาตั้งแต่หนุ่มๆ แล้วถึงจะมีอันตรายหรือเกิดเรื่องคับขันมากน้อยแค่ไหน คุณพระคุณเจ้าก็จะช่วยคุ้มครองให้เอาตัวรอดปลอดภัยมาได้..ตัวตาอั้นเองดูเหมือนจะตื่นเต้นกว่าทุกคนค่ะ!

ไปซื้อของที่ห้างหลายครั้ง ทั้งรองเท้าผ้าใบกับถุงเท้า กางเกงขาสั้นและผ้าขาวม้า แถมซื้อโกเต็กซ์อีกด้วย เล่นเอาคนขายงง ต้องบอกว่าเอาไปใช้รองพื้นรองเท้าไอ้โอ๊ปเวลาฝึก จะได้ไม่เจ็บปวดมากนัก..อ้อ! ซื้อบรัซโซมาขัดหัวเข็มขัดให้ขึ้นเงาวับอีกด้วย

จนกระทั่งวันสำคัญมาถึง! จำได้ว่าเป็นคืนวันเสาร์-เช้ามืดวันอาทิตย์ ตาอั้นจัดกระเป๋าตั้งแต่หัวค่ำถึงห้าทุ่ม ทั้งอาหารแห้งและขนม มาม่ากับน้ำดื่มก็เอาไป..ต้องเรียกให้แกนอนแล้วปลุกตีสี่ ลุกมาดูแลเครื่องใช้ไม้สอยกันอีกรอบ ตาอั้นคุยกับเพื่อนๆ ทางมือถือ ท่าทางตื่นเต้นเห็นได้ชัด ดิฉันเองห่วงลูกบอกไม่ถูก สามีก็เงียบขรึมไป

จนกระทั่งใกล้ตีห้า สามีก็ขับรถไปยังกรมรักษาดินแดน เยื้องกับวัดพระแก้วเพื่อไปก่อนเวลานัด 05.30 น.

พวกหนุ่มน้อยในชุดรด.ทยอยกันมาเป็นสาย ส่วนมากมีพ่อแม่มาส่งทั้งนั้น พอถึงหน้าประตูก็มีทหารเรียกเข้าไปข้างในเร็วๆ ตาอั้นเปิดเป้หนักอึ้งออกตรวจของอีกครั้ง..สามีส่งเงินให้ลูกติดตัวไว้ 500 บาท แกมากอดดิฉัน ดิฉันก็กอดลูกแน่น ห่วงใยมากที่สุด

"โชคดี ปลอดภัยนะลูก" ดิฉันบอกเหมือนบอกทุกครั้งที่ลูกออกจากบ้าน..ตาอั้นยกเป้ขึ้นสะพายหลัง ส่งมือถือให้พ่อ ดิฉันมองดูพื้นว่าจะมีอะไรตกหล่นหรือเปล่า..พอเงยหน้าขึ้นอีกครั้งก็อดยิ้มไม่ได้..สองพ่อลูกกำลังกอดกันกลม!

เสียวใจวูบขึ้นดื้อๆ ตั้งแต่ตาอั้นโตเมื่อ 3-4 ปีก่อนแกไม่เคยกอดกับพ่อเลย..ขณะนั้น ลูกชายก็เดินปะปนไปกับนักศึกษารด.หายลับตาไปในประตู

สามีเงียบขรึมมาตลอดทาง กระทั่งกลับถึงบ้านเมื่อใกล้จะหกโมงเช้า ฟ้าเริ่มขาวขึ้น..ดิฉันก็ชาวาบไปทั้งตัวเมื่อสามีเล่าให้ฟังว่าเขาฝันร้ายมาสองคืนติดๆ กัน

..ในฝันนั้น พ่อเห็นลูกชายยืนอยู่ในป่าดำมืด น้ำตาไหลพราก โบกไม้โบกมือเรียกพ่อๆๆ ส่วนพ่อเองก็ยื่นมือไปหาลูกเพื่อจะไขว่คว้า แต่ไม่สำเร็จ..ราวกับมีมือลึกลับมาดึงลูกชายให้ห่างออกไปจนลับตา!

สามีบอกเสียงเศร้าๆ ว่าไม่อยากเล่าให้ดิฉันฟัง เกรงว่าจะไม่สบายใจ แต่เขาทนเก็บไว้คนเดียวไม่ไหว..อาจจะเป็นความฝันไร้สาระก็ได้

บอกตรงๆ ว่าฟังแล้วมือไม้อ่อนไปหมด แทบจะทำอะไรไม่ไหว สามีดื่มนมกล่องแล้วขอตัวเข้านอน เพราะเมื่อคืนฝันร้ายซ้ำๆ ซากๆ จนนอนแทบไม่หลับ..ดิฉันนั่งแปะหน้าทีวี หมดเรี่ยวแรงจนอยากหลับ..อยากร้องไห้! โชคดีที่วันอาทิตย์ไม่ต้องไปทำงาน

ดูข่าวไม่รู้เรื่องเลย ใจคอไปอยู่ที่ลูกหมด..ป่านนี้จะถึงไหนแล้ว? เก้าโมงเช้าคงถึงปลายทางแล้วนะ? ทำไมไม่เอามือถือไปด้วย แม่จะได้โทร.ไปหา? อ้อ! ครูฝึกเขาคงห้ามเด็ดขาด ระเบียบวินัยของทหารย่อมเข้มงวดเป็นธรรมดา

พ่อแม่ดิฉันตื่นขึ้นมาก็ถามถึงหลานชาย บ่นว่าจะมีอะไรกินไม่รู้? จะกินได้หรือเปล่าเพราะไม่ถูกปากเหมือนอาหารบ้านเรา ดิฉันก็ปลอบว่ามีเมียนายทหารไปขายของกินของใช้สารพัด ไม่ต้องห่วงหรอก

ว่าจะไม่เล่าถึงความฝันของสามีก็อดไม่ได้ค่ะ ตายายของตาอั้นหน้าเสียทั้งคู่แต่อุตส่าห์ปลอบว่า..ฝันร้ายจะกลายเป็นดี!

ต่อจากนั้นก็ไม่เป็นอันทำอะไรละ คอยฟังข่าว ดูข่าว..แต่ก็ไม่มีอะไร เสียแต่กาลเวลาผ่านไปช้าเหลือเกิน กว่าจะข่มตาข่มใจให้หลับได้แต่ละคืนแสนเข็ญ..จนกระทั่งถึงวันพฤหัสบดี ลูกชายจะกลับบ้านเสียที..โทร.มาบอกแม่นะลูก

ตกเย็นรีบบึ่งกลับบ้าน อยากเห็นหน้าลูกที่สุด..โทรศัพท์ดังขึ้นจริงๆ ใจหายวูบ มือสั่นเทาขณะเอื้อมไปรับ..ไม่ใช่ตาอั้น! แต่เป็นข่าวสามีขับรถหลบมอเตอร์ไซค์ตัดหน้า พุ่งไปชนเสาไฟฟ้าคอหักตายคาที่

ปีใหม่มาถึงอีกแล้ว..ถ้าเสียลูกไปอีกคนดิฉันคงพลอยสิ้นลมหายใจ



ขอบคุณเรื่องเล่าจากข่าวสด


เครดิต :

ข่าวดารา ข่าวในกระแส บน Facebook อัพเดตไว เร็วทันใจ คลิกที่นี่!!
กระทู้เด็ดน่าแชร์