ผู้พิทักษ์


ผู้พิทักษ์

"งามตา" เล่าประสบการณ์ขนหัวลุกจากซอยบ้านสวน

ดิฉันเป็นคนทุ่งครุ ธนบุรีนี่เอง สมัยก่อนมีถนนเล็กแยกเข้าไปในบ้านสวนที่เริ่มปลูกใกล้กันมากขึ้น ผู้คนก็หนาตาขึ้นตามความเจริญ แต่พื้นที่ส่วนใหญ่ยังเป็นเรือกสวนและคูน้ำ แต่ไม่ค่อยปลูกผลไม้เป็นล่ำเป็นสันเหมือนตอนแรก นอกจากมีไม้ยืนต้นประจำสวนอย่างมะม่วง ส้มและมะพร้าวเท่านั้น

ถนนเล็กๆ ที่ว่าคดเคี้ยวไปมาไม่รู้ว่ากี่เลี้ยว พาหนะของชาวบ้านทั่วๆ ไปก็คือรถสองแถว พอรถจอดแล้วก็ใช่ว่าจะถึงบ้านเลยนะคะ แต่ต้องเดินไปตามซอยอีกแล้วแต่ว่าจะอยู่ไกลใกล้แค่ไหน

ซอยที่ดิฉันอยู่มีบ้านเรือนปลูกใหม่ขึ้นเรื่อยๆ กระจายกันไปตามสองข้างทาง จนสีเขียวของต้นไม้ชักจะลดน้อยลงทุกที

ตอนเช้าๆ เย็นๆ จะมีคนเดินเข้าออกหนาตา คือไปรอขึ้นรถสองแถวกับลงจากรถเดินเข้าซอยมา ร้านชำกลางซอยมักจะมีแม่บ้านไปซื้อกับข้าวตอนบ่ายๆ พอตกเย็นก็มีพวกคอทองแดงทั้งหน้าเก่าหน้าใหม่มาตั้งวงกันไปจนค่ำมืดเป็นประจำ

ปัญหาก็คือ พวกขี้เมาชอบจ้องมองเด็กนักเรียนวัยรุ่นกับผู้หญิงสาวๆ ที่ต้องเดินผ่าน บางคนก็มองอย่างเดียวด้วยนัยน์ตาอนาจาร แต่บางคนปากเปราะก็ทักทายแบบแทะโลมห่ามๆ จนต้องรีบเดินไปตามๆ กัน

คนที่คอยห้ามปรามขี้เมานิสัยถ่อมก็คือน้าสังเวียนค่ะ!

หนุ่มใหญ่อายุเกือบสี่สิบ หน้าตายังคมสันไม่แพ้หนุ่มๆ ร่างกายสูงคล้ำล่ำสันแบบชาวสวนทั่วไป น้าสังเวียนเป็นคนเก่าแก่ที่ดิฉันเห็นมาตั้งแต่เด็ก แกตัดสวนขายเอาเงินมาปลูกบ้านหลังใหญ่ให้ลูกเมียอยู่อย่างสบาย ตัวเองก็ทำสวนเล็กๆ น้อยๆ แก้รำคาญ ตกเย็นก็ออกมาตั้งวงกับเพื่อนฝูงเก่าๆ ที่ร้านชำ

วันหนึ่งเกิดเรื่องร้าย เมื่อขี้เมาที่เพิ่งมาอยู่ใหม่เห็นสาวๆ เดินผ่านมาก็พูดจาแทะโลม ค่อนข้างหยาบคายจนหน้าสังเวียนทนไม่ไหวต้องร้องด่าไปเจ็บๆ ไอ้หมอนั่นคว้ามีดชายธงพุ่งเข้าหา เสียบคมมีดเข้าตรงลิ้นปี่พอดีจนน้าสังเวียนทรุดฮวบลงไปดิ้นรนด้วยความเจ็บปวดแสนสาหัส ไอ้ขี้เมาคนนั้นถูกเพื่อนๆ น้าสังเวียนรุมซ้อมจนปางตาย

น้าสังเวียนไปเสียชีวิตที่โรงพยาบาล ส่วนฆาตกรก็โดนลากเข้าคุกไป

ซอยนั้นดูเหมือนจะเปล่าเปลี่ยวเยือกเย็นยิ่งกว่าเดิม พวกคอเหล้าก็บางตาลง...ไม่มีคนปากเปราะกับสาวๆ ที่เดินผ่าน นอกจากจะจ้องมองอย่างหื่นกระหายโจ่งแจ้ง

น่าแปลกที่ตอนเย็นๆ เสียงหมาจะเห่าหอนอยู่ในซอย มีเสียงเล่าลือกันว่าวิญญาณน้าสังเวียนยังสิงสู่อยู่ที่นั่น ไม่ยอมไปผุดไปเกิดเสียที

ที่น่ากลัวมากก็คือมีคนเห็นน้าสังเวียนเดินปะปนมากับกลุ่มผู้หญิงที่ลงจากรถสองแถวแล้วเดินกลับบ้าน...แม้แต่พวกนักเรียนสาววัยรุ่น 2-3 คนก็มีร่างน้าสังเวียนเดินตามมาด้วยคล้ายจะเป็นผู้พิทักษ์กระนั้น!

ถึงแม้จะรู้ว่าเป็นความปรารถนาดี แต่เมื่อนึกว่ามีผีตามมาส่งก็ชวนให้ขนลุกขนพองเหมือนกันค่ะ...จนกระทั่งดิฉันประสบเข้ากับตัวเอง

เย็นนั้น กลับจากทำงานที่วงเวียนใหญ่ ต่อรถสองแถวมาถึงปากซอยบ้าน แดดผีตากผ้าอ้อมเหลืองอร่ามอยู่ตามสุมทุมพุ่มไม้ สายลมพัดซ่าเหมือนเสียงใครทอดถอนใจยาวด้วยความเหน็ดเหนื่อยเต็มประดา ทำให้รู้สึกพร่ามึนอย่างไม่เคยเป็นมาก่อน...

คนที่ลงรถมาพร้อมกัน 3-4 คนทั้งหญิงและชายก็เดินรวมกลุ่มกันเหมือนทุกๆ เย็นที่แล้วมา...บางคนคุ้นหน้าก็พูดคุยกัน ที่เพิ่งเห็นหน้ากันไม่กี่ครั้งก็มองกันยิ้มๆ จนกระทั่งมีคนเลี้ยวเข้าบ้าน เขาร่ำลากันก็มี โบกไม้โบกมือให้กันก็มี...จนกระทั่งเดินผ่านร้านชำที่มีพวกคอเหล้าจ้องมองมา ยิ้มคล้ายแสยะ ก่อนจะเมินไปทางอื่น...

ช่างเถอะ! ใกล้จะถึงบ้านแล้ว...

หญิงชายคู่หนึ่งเดินขนาบดิฉัน...พี่บังอรบ้านอยู่ใกล้ๆ กัน ส่วนชายร่างสูงผิวคล้ำนั้นคุ้นหน้าแต่ยังนึกไม่ออกจนกระทั่งพี่บังอรหันมายิ้มให้ก่อนเลี้ยวเข้าบ้าน...คล้ายๆ มีแสงสว่างแลบเข้ามาในสมองบัดดล...น้าสังเวียน!

ดิฉันชาวาบไปทั้งตัวเหมือนโดนจี้ด้วยไฟฟ้า อยากจะร้องเรียกพี่บังอรแต่ปากลิ้นมันแข็งชาไปหมด...ช่วยด้วย! ดิฉันได้แต่นึก...อย่าเพิ่งไป! แต่เท้าหนักอึ้งก็ยังก้าวต่อไปช้าๆ

"น้า...น้าสังเวียน..." ดิฉันร่ำร้องอยู่ในใจ ไม่กล้าหันไปมองร่างนั้นอีกจนถึงบ้าน...วิ่งพรวดพราดเข้าไปเห็นหน้าแม่ก็ร้องไห้โฮ ชี้ไม้ชี้มือไปข้างหลัง เสียงแม่บอกว่าไม่เห็นมีอะไร...ดิฉันหันขวับไปก็เห็นร่างรางๆ ของน้าสังเวียนกำลังเดินกลับไปตามเดิม

โถ...ขอบคุณที่อุตส่าห์เป็นห่วง แต่ทีหลังไม่ต้องมาส่งก็ได้ค่ะ น้าขา...หนูจะช็อกตายคาที่น่ะซีคะ! โธ่...



ขอบคุณเรื่องเล่าจากข่าวสด


เครดิต :

ข่าวดารา ข่าวในกระแส บน Facebook อัพเดตไว เร็วทันใจ คลิกที่นี่!!
กระทู้เด็ดน่าแชร์