ผีพิศวาส


ผีพิศวาส

"ธันว์"เล่าประสบการณ์ขนหัวลุกจากบางอ้อ

ผมเช่าบ้านอยู่ในซอยวัดพระครู ถนนจรัญสนิทวงศ์นี่เอง โดยอยู่กับเจ้าอี๊ด-เพื่อนที่ทำงานโรงพิมพ์เดียวกัน

ตอนแรกเจ้าอี๊ดอยู่กับเพื่อนมาหลายเดือน แต่เพื่อนย้ายไปทำงานที่ยานนาวา ส่วนผมอยู่บ้านพ่อแม่ย่านดินแดง...ได้โอกาสมาแบ่งห้องเช่าจากเจ้าอี๊ดซะเลย เช้าก็ไปทำงานที่บางกรวยด้วยกัน เย็นลงก็กลับบ้านพร้อมกันเกือบทุกวัน

บ้านเช่าชั้นเดียวใต้ถุนสูงของเราอยู่ติดกับถนนซอยเลยครับ ต้นไม้ร่มครึ้ม ดงกล้วยดกหนาอยู่ข้างหลัง ส่วนหน้าบ้านมีทั้งบานเช้า, บานเย็น และซุ้มราตรีที่ส่งกลิ่นหอมชวนให้เคลิบเคลิ้มในยามค่ำคืนสมชื่อ

คนโบราณที่มีลูกสาวหลานสาวจะไม่ยอมปลูกต้นราตรีหรอกครับ เพราะเชื่อว่ามีอาถรรพณ์ ทำให้อารมณ์ฟุ้งซ่าน เลือดลมฉีดแรงจนหมดความยั้งคิดที่จะรักนวลสงวนตัวต่อไป

เวลาผ่านไปเกือบเดือนก็เป็นปกติสุขดี สังเกตว่ากลิ่นราตรีชักจะหอมรุนแรงมากขึ้นทุกค่ำคืน...จนกระทั่งผมได้พบกับสาวสวยบาดใจคนนั้น!

ตอนเย็นๆ จะมีผู้คนเดินผ่านหน้าบ้านค่อนข้างหนาตา ส่วนมากเป็นหนุ่มๆ สาวๆ ที่เดินคลอเคลีย หยอกล้อและหัวเราะต่อกระซิกกันอย่างมีความสุข พวกเด็กๆ ก็วิ่งเล่นเกรียวกราว ทั้งน่าสนุกและน่ารำคาญอย่างบอกไม่ถูก...มอเตอร์ไซค์รับจ้างห้อตะบึงน่าเสียวไส้ชะมัด

ผมเห็นผู้หญิงผมยาว รูปร่างสูงโปร่ง ใบหน้ารูปไข่ ตาโต จมูกโด่ง...ปากเต็มอิ่มค่อนข้างกว้างสวยมาก โดยเฉพาะเวลาที่เธอยิ้มกับเพื่อนๆ แล้วเบือนหน้ามามองผมพอดิบพอดี

วันเสาร์อาทิตย์จะมีผู้คนเข้าออกคึกคักตั้งแต่ตอนบ่ายๆ สาวสวยผู้นั้นเดินมากับเพื่อนผู้หญิงกลุ่มใหญ่บ้าง เดินทอดน่องมาคนเดียวบ้าง แกว่งดอกไม้ในมือเล่นอย่างสบายอารมณ์...ทรวงอกอวบพุ่งในเสื้อยืดกระเพื่อมเบาๆ ตามท่าเดินทำให้ผมกลืนน้ำลายอย่างลืมตัว

ครั้งหนึ่ง ผมนั่งเล่นที่ระเบียง เธอหันมามองจนผมลุกยืนเกาะลูกกรงมองลงไป...ตาสบตานิ่งๆ แม้จะชั่วพริบตาเดียวแต่ผมก็มองเห็นแววหวานฉ่ำ โดยเฉพาะกลีบปากแดงระเรื่อที่ยิ้มกว้างจนเห็นลักยิ้มน่ารักที่แก้มซ้าย...ชะลอฝีเท้าจนเห็นได้ชัด

เธอยิ้มให้ผม...ผมยิ้มตอบพลางโบกมือให้ เธอยิ้มกว้างยิ่งกว่าเดิมก่อนจะออกเดินต่อไป...อยากจะวิ่งลงบันไดไปหาเธอแต่ก็ไม่กล้าหรอกครับ

จนกระทั่งถึงคืนหนึ่ง...คืนที่ผมต้องจดจำไปจนชั่วชีวิตสลาย...

คืนนั้น ผมนอนลืมตาโพลงอยู่ในความเงียบและมืดสลัว นานๆ จะมีเสียงรถแล่นผ่านไปมา นอกนั้นก็คือเสียงลมพัดคร่ำครวญไปตามสุมทุมพุ่มไม้ ฟังเหมือนเสียงกระซิบกระซาบของหนุ่มสาวคราวแรกรัก...คนสวยของผมหายไปไหนหนอ?

ผมนั่งคอยมองตั่งแต่บ่ายจัดจนถึงเย็นค่ำแต่ก็ไม่เห็นแม้เงา ว่าจะถามเพื่อนว่ารู้จักเธอไหม? เจ้าอี๊ดก็มีเพื่อนมารับไปสังสรรค์แถวปิ่นเกล้าโน่น...

หนังตาหนักอึ้งเหมือนถูกถ่วงด้วยก้อนหิน!

ความรู้สึกเคลิบเคลิ้มเข้าสู่ภวังค์ล้ำลึก ผมพยายามลืมตาขึ้นมาแต่แล้วก็หลับลงไปอีก...กลิ่นราตรีหอมกรุ่นล่องลอยเข้ามาในห้องนอน เกือบจะพร้อมๆ กับเธอคนนั้น...

สวรรค์โปรด! คนสวยของผมจริงๆ ที่ก้าวเข้ามาสู่ความฝันอันเร่าร้อนของคนหนุ่ม กางเกงขาสั้นสีนวล เสื้อยืดคอกว้างสีชมพู...ในมือคือช่อราตรีที่ยกขึ้นดมดอม...ก่อนจะก้าวมาหาที่เตียงช้าๆ ยื่นดอกไม้ให้ผมที่รับมาวางอย่างไม่แยแส แต่จับข้อมือของเธอจนร่างทรุดฮวบลงมา ใบหน้าผมคลุกเคล้ากับก้อนเนื้อพุ่งโชนและหอมกรุ่นของเธอในพริบตานั้นเอง!

ความรู้สึกนึกคิดสารพัดปลิดปลิวไปจากสมอง นอกจากความรักใคร่ร้อนฉ่าเหมือนน้ำมันโดนเคี่ยวจนเดือดพล่าน...เสื้อผ้าปลิวไปนรกสวรรค์ขุมไหนไม่มีใครแยแส นอกจากจะกอดกระหวัดกันแนบแน่น ลมหายใจหอบหืดเหมือนกำลังเหน็ดเหนื่อยสุดขีด

ผมล่องลอยไปสู่แดนสวรรค์อำไพไม่รู้กี่ครั้งกี่ครา จนมารู้สึกตัวเมื่อตอนใกล้เที่ยงเพราะเสียงตบประตูปึงปัง...เจ้าอี๊ดนั่นเองที่บอกว่าเห็นผมนอนเงียบจนนึกว่าหัวใจวายตายไปแล้ว ผมเหลียวซ้ายแลขวา...ถามว่าคนสวยหายไปไหนแล้วล่ะ?

เจ้าอี๊ดควักบุหรี่ออกมาจุดสูบ เอนหลังพิงหน้าต่างมองดูผม...เล่าว่าผู้หญิงที่มีรูปร่างหน้าตาแบบนั้นตกจากมอเตอร์ไซค์รับจ้างมาคอหักตายที่หน้าบ้านเรานี่เอง มีคนเห็นเธอเดินวนเวียนไปมาบ่อยๆ ยามค่ำคืน

"เอ็งโดนผีหลอกเข้าแล้วมั้ง?" เจ้าอี๊ดหัวเราะ แต่ผมส่ายหน้างุนงง

"ผีเรอะ? เอ็งดูนั่นซี" ผมชี้ไปที่ช่อราตรีบนหมอน "ถ้าเธอเป็นผีมาหาจริงๆ ไม่ใช่คนอย่างเราๆ ดอกราตรีจะอยู่บนหมอนข้าได้ยังไง?"

คราวนี้เจ้าอี๊ดหน้าซีดเผือด...ทรุดนั่งบนเก้าอี้ ปากสั่นระริก...ผมก็พลอยขนหัวลุกไปด้วยเพราะแน่ใจแล้วว่า สาวสวยที่มาหาเมื่อคืนนั้นที่แท้ก็...ผีน่ะซี! บรื๋อออ...


ขอบคุณเรื่องเล่าจากข่าวสด


เครดิต :

ข่าวดารา ข่าวในกระแส บน Facebook อัพเดตไว เร็วทันใจ คลิกที่นี่!!
กระทู้เด็ดน่าแชร์