ปีศาจตึกร้าง
"ลุงแมว" เล่าเรื่องขนหัวลุกจากบ้านสวนธนบุรี
ตึกที่ไม่มีคนอยู่ใกล้ๆ บ้านย่านบางกอกน้อย เจ้าของเดิมชื่อลุงเปี๊ยก อดีตนักเลงเก่าย่านนั้นมาตั้งแต่หนุ่มๆ เป็นตึกแถวสามคูหา เคยเปิดโล่งกว้างขวาง ค้าขายทั้งอาหารตามสั่ง และของชำสารพัดอย่าง รวมทั้งน้ำชากาแฟและเหล้าเบียร์ที่มีคนในซอยมาอุดหนุนไม่ขาดระยะ
ยิ่งตอนเย็นๆ ค่ำๆ ด้วยแล้ว คอเหล้ารุ่นเล็กรุ่นใหญ่จะมาตั้งวงกันทั้งในร้านและหน้าร้านราว 2-3 โต๊ะ คุยโม้โอ้อวดกันตามประสาคอเหล้า รวมทั้งสัปดี้สีปดนสารพัด
จู่ๆ ลุงเปี๊ยกก็ตกบันไดลงมาคอหักตายตอนกลางดึก หลังจากเผาศพไปแล้วลูกเมียก็อพยพไปอยู่ที่อื่น เห็นว่าจะกลับไปบ้านเดิมที่มหาชัย ตึกแถวก็ปิดทิ้งไว้เฉยๆ ได้ข่าวว่าเขาประกาศขายเหมือนกัน แต่ยังหาคนซื้อที่จะตกลงจริงๆ จังๆ ไม่ได้ซักที
อาจารย์หยอยอาชีพ "ใบ้หวย" กับตาบ่ายบอกว่าผีลุงเปี๊ยกดุจะตายชัก ใครขืนมาอยู่ที่นั่นมีหวังโดนเล่นงานขวัญหนีดีฝ่อแน่นอน!
ตอนแรกๆ สองเกลอเคยเดินควงคู่กันออกมาจากก้นซอยตอนเย็นๆ แถมนุ่งโสร่งเก่าๆ ชนิดใกล้จะขาดแหล่ไม่ขาดแหล่ แล้วมานั่งจุ้มปุ๊ก ส่งเสียงขากกับกระแอมกระไอ ก่อนจะร้องสั่งเหล้าขาวหรือเชี่ยงชุน ส่วนกับแกล้มก็แล้วแต่เงินในกระเป๋าจะอำนวย
อาจารย์หยอยมักจะเริ่มอารัมภบทว่า...ไอ้เราเรอะให้หวยแม่นเป็นตาเห็น บอกว่าหมากัดกัน หน็อย! พวกมันเล่น 24 เพราะว่าหมา 2 ตัวมี 4 ขา แต่ไอ้บ้างก็เล่น 28 เพราะหมา 2 ตัวมีขา 8 ขา...แล้วเป็นไง? หวยมันออกมาตรงๆ 10 เสือกไม่มีใครแทงถูกซักคนเดียว
"หวยออก 10 แล้วเอ็งจะว่ามันออกมาตรงๆ ได้ยังไง?" ตาบ่ายสงสัย
"อูบ๊ะ! ไอ้เซ่อ...นี่แหละที่เขาว่าโง่แล้วยังอยากนอนเตียง" อาจารย์หยอยตบโต๊ะผาง "หมา 2 ตัวน่ะมันย่อมมี 8 ขากับ 2 หางใช่ไหมเล่า?" เมื่อนับรวมกันแล้วก็ได้ 10 ตรงๆ เสือกคิดไม่ออกกันเอง พุทโธ่!"
ตาบ่ายพยักหน้าหงึกๆ เป็นเชิงเห็นพ้องด้วย สาเหตุเพราะอาจารย์หยอยเป็นเจ้ามือเกือบทุกครั้ง ไม่ว่าจะมีเงินหรือไม่ก็ไร้ปัญหา เพราะอาจารย์หยอยมีความสามารถในการพูดจาให้ลุงเปี๊ยกใจอ่อน ยอมให้แปะโป้งได้ทุกครั้ง
เมื่อร้านเหล้าขาประจำกลายเป็นตึกร้าง สองเกลอก็ต้องถ่อออกไปเกือบถึงปากซอย มีผ้าขาวม้าพาดไหล่เพิ่มเติม อาจารย์หยอยใช้ลูกไม้บอกเลขเด็ดให้ป้าแล่มเจ้าของร้านชนิดเป็นความลับสุดยอด...ได้ผลบ้างไม่ได้ผลบ้าง แต่สองเกลอก็ถูลู่ถูกังหาเหล้ายาคอหอยได้แทบทุกวันไป
จนกระทั่งโดนผีลุงเปี๊ยกหลอกเข้าอย่างจั๋งหนับ!
คืนนั้นบังเอิญป้าแล่มถูกหวยที่ได้จากอาจารย์หยอย แกก็เลยออกปากให้สองเกลอดื่มกินอย่างเต็มที่ ถือว่าเป็นการสมนาคุณอย่างถึงอกถึงใจ สองสหายเจอะเจอลาภปากเข้าก็นั่งติดลมจนปาเข้าไปสี่ทุ่มเศษเลยเวลาปิดร้าน ป้าแล่มเลยตัดรำคาญด้วยการเปิดเหล้าตราเสือขวดใหม่มาให้อาจารย์หยอยหิ้วกลับบ้าน
สองเกลอเดินซดเหล้าพลางร้องเพลงอย่างมีความสุข เข้าซอยที่ดูว่างเปล่าเยือกเย็นอยู่ในแสงไฟ...เสียงหมาหอนโจ๋วมาเข้าหูทำให้อาจารย์หยอยด่าพึมพลางเหลียวซ้ายแลขวา...จนกระทั่งผ่านตึกร้างของลุงเปี๊ยกพอดี
"ว่าไงวะ ไอ้หยอย? เมื่อไหร่จะใช้หนี้ค่าเหล้ากูซักที?"
เสียงแหบห้าวดังมาจากใต้ชายคาสว่างสลัว สองเกลอหันขวับไปป้องหน้ามอง
"ใครวะมาเรียกกูไอ้หยอย? ชะช้า! กูชื่ออาจารย์หยอยโว้ย... อ๋อ! นึกว่าใคร..." แกหัวเราะร่าเมื่อเห็นร่างดำๆ ของลุงเปี๊ยกยืนเท้าสะเอวจ้องมอง "พ่อเปี๊ยกนี่เอง...หายหน้าหายตาไปไหนซะตั้งนานล่ะ ออกจะคิดถึงแน่ะ"
ฝ่ายตาบ่ายหายเมาเป็นปลิดทิ้ง ยืนตัวแข็งทื่อเหมือนถูกสาป จ้องมองดูปีศาจลุงเปี๊ยกแทบจะกลั้นใจ เอื้อมมือสั่นๆ ไปสะกิดเอวเพื่อนเกลอ แต่อาจารย์หยอยกลับหัวเราะร่า ยื่นขวดเหล้าไปให้ผีลุงเปี๊ยก พลางคะยั้นคะยอให้ดื่มซะหน่อย
ปรากฏว่ามือที่ถือขวดทะลุร่างของฝ่ายนั้นไปดื้อๆ เล่นเอาอาจารย์หยอยชะงักกึกเสียงสั่นเครือของตาบ่ายก็ดังขึ้นว่า...ผีตาเปี๊ยกชัดๆ เผ่นเถอะโว้ย!
ลมหนาวกระโชกวูบ ยอดไม้ไหวซ่าพร้อมๆ กับร่างลุงเปี๊ยกหายวับไปกับตา...อาจารย์หยอยร้องจ้า โยนขวดทิ้งจนแตกกระจายโครมคราม ยิ่งทำให้ชายชราเผ่นอ้าวไม่คิดชีวิตมีร่างตาบ่ายกวดตามมาติดๆ แว่วเสียงหัวเราะแหบโหยของปีศาจลุงเปี๊ยกดังไล่หลังมาติดๆ
สองเกลอสิ้นสติอยู่แถวพงหญ้าข้างทางนั่นเอง กว่าจะฟื้นก็รุ่งอรุณเมื่อศิษย์ตถาคตออกบิณฑบาตโปรดสัตว์พอดี!
ขอบคุณเรื่องเล่าจากข่าวสด
ตึกที่ไม่มีคนอยู่ใกล้ๆ บ้านย่านบางกอกน้อย เจ้าของเดิมชื่อลุงเปี๊ยก อดีตนักเลงเก่าย่านนั้นมาตั้งแต่หนุ่มๆ เป็นตึกแถวสามคูหา เคยเปิดโล่งกว้างขวาง ค้าขายทั้งอาหารตามสั่ง และของชำสารพัดอย่าง รวมทั้งน้ำชากาแฟและเหล้าเบียร์ที่มีคนในซอยมาอุดหนุนไม่ขาดระยะ
ยิ่งตอนเย็นๆ ค่ำๆ ด้วยแล้ว คอเหล้ารุ่นเล็กรุ่นใหญ่จะมาตั้งวงกันทั้งในร้านและหน้าร้านราว 2-3 โต๊ะ คุยโม้โอ้อวดกันตามประสาคอเหล้า รวมทั้งสัปดี้สีปดนสารพัด
จู่ๆ ลุงเปี๊ยกก็ตกบันไดลงมาคอหักตายตอนกลางดึก หลังจากเผาศพไปแล้วลูกเมียก็อพยพไปอยู่ที่อื่น เห็นว่าจะกลับไปบ้านเดิมที่มหาชัย ตึกแถวก็ปิดทิ้งไว้เฉยๆ ได้ข่าวว่าเขาประกาศขายเหมือนกัน แต่ยังหาคนซื้อที่จะตกลงจริงๆ จังๆ ไม่ได้ซักที
อาจารย์หยอยอาชีพ "ใบ้หวย" กับตาบ่ายบอกว่าผีลุงเปี๊ยกดุจะตายชัก ใครขืนมาอยู่ที่นั่นมีหวังโดนเล่นงานขวัญหนีดีฝ่อแน่นอน!
ตอนแรกๆ สองเกลอเคยเดินควงคู่กันออกมาจากก้นซอยตอนเย็นๆ แถมนุ่งโสร่งเก่าๆ ชนิดใกล้จะขาดแหล่ไม่ขาดแหล่ แล้วมานั่งจุ้มปุ๊ก ส่งเสียงขากกับกระแอมกระไอ ก่อนจะร้องสั่งเหล้าขาวหรือเชี่ยงชุน ส่วนกับแกล้มก็แล้วแต่เงินในกระเป๋าจะอำนวย
อาจารย์หยอยมักจะเริ่มอารัมภบทว่า...ไอ้เราเรอะให้หวยแม่นเป็นตาเห็น บอกว่าหมากัดกัน หน็อย! พวกมันเล่น 24 เพราะว่าหมา 2 ตัวมี 4 ขา แต่ไอ้บ้างก็เล่น 28 เพราะหมา 2 ตัวมีขา 8 ขา...แล้วเป็นไง? หวยมันออกมาตรงๆ 10 เสือกไม่มีใครแทงถูกซักคนเดียว
"หวยออก 10 แล้วเอ็งจะว่ามันออกมาตรงๆ ได้ยังไง?" ตาบ่ายสงสัย
"อูบ๊ะ! ไอ้เซ่อ...นี่แหละที่เขาว่าโง่แล้วยังอยากนอนเตียง" อาจารย์หยอยตบโต๊ะผาง "หมา 2 ตัวน่ะมันย่อมมี 8 ขากับ 2 หางใช่ไหมเล่า?" เมื่อนับรวมกันแล้วก็ได้ 10 ตรงๆ เสือกคิดไม่ออกกันเอง พุทโธ่!"
ตาบ่ายพยักหน้าหงึกๆ เป็นเชิงเห็นพ้องด้วย สาเหตุเพราะอาจารย์หยอยเป็นเจ้ามือเกือบทุกครั้ง ไม่ว่าจะมีเงินหรือไม่ก็ไร้ปัญหา เพราะอาจารย์หยอยมีความสามารถในการพูดจาให้ลุงเปี๊ยกใจอ่อน ยอมให้แปะโป้งได้ทุกครั้ง
เมื่อร้านเหล้าขาประจำกลายเป็นตึกร้าง สองเกลอก็ต้องถ่อออกไปเกือบถึงปากซอย มีผ้าขาวม้าพาดไหล่เพิ่มเติม อาจารย์หยอยใช้ลูกไม้บอกเลขเด็ดให้ป้าแล่มเจ้าของร้านชนิดเป็นความลับสุดยอด...ได้ผลบ้างไม่ได้ผลบ้าง แต่สองเกลอก็ถูลู่ถูกังหาเหล้ายาคอหอยได้แทบทุกวันไป
จนกระทั่งโดนผีลุงเปี๊ยกหลอกเข้าอย่างจั๋งหนับ!
คืนนั้นบังเอิญป้าแล่มถูกหวยที่ได้จากอาจารย์หยอย แกก็เลยออกปากให้สองเกลอดื่มกินอย่างเต็มที่ ถือว่าเป็นการสมนาคุณอย่างถึงอกถึงใจ สองสหายเจอะเจอลาภปากเข้าก็นั่งติดลมจนปาเข้าไปสี่ทุ่มเศษเลยเวลาปิดร้าน ป้าแล่มเลยตัดรำคาญด้วยการเปิดเหล้าตราเสือขวดใหม่มาให้อาจารย์หยอยหิ้วกลับบ้าน
สองเกลอเดินซดเหล้าพลางร้องเพลงอย่างมีความสุข เข้าซอยที่ดูว่างเปล่าเยือกเย็นอยู่ในแสงไฟ...เสียงหมาหอนโจ๋วมาเข้าหูทำให้อาจารย์หยอยด่าพึมพลางเหลียวซ้ายแลขวา...จนกระทั่งผ่านตึกร้างของลุงเปี๊ยกพอดี
"ว่าไงวะ ไอ้หยอย? เมื่อไหร่จะใช้หนี้ค่าเหล้ากูซักที?"
เสียงแหบห้าวดังมาจากใต้ชายคาสว่างสลัว สองเกลอหันขวับไปป้องหน้ามอง
"ใครวะมาเรียกกูไอ้หยอย? ชะช้า! กูชื่ออาจารย์หยอยโว้ย... อ๋อ! นึกว่าใคร..." แกหัวเราะร่าเมื่อเห็นร่างดำๆ ของลุงเปี๊ยกยืนเท้าสะเอวจ้องมอง "พ่อเปี๊ยกนี่เอง...หายหน้าหายตาไปไหนซะตั้งนานล่ะ ออกจะคิดถึงแน่ะ"
ฝ่ายตาบ่ายหายเมาเป็นปลิดทิ้ง ยืนตัวแข็งทื่อเหมือนถูกสาป จ้องมองดูปีศาจลุงเปี๊ยกแทบจะกลั้นใจ เอื้อมมือสั่นๆ ไปสะกิดเอวเพื่อนเกลอ แต่อาจารย์หยอยกลับหัวเราะร่า ยื่นขวดเหล้าไปให้ผีลุงเปี๊ยก พลางคะยั้นคะยอให้ดื่มซะหน่อย
ปรากฏว่ามือที่ถือขวดทะลุร่างของฝ่ายนั้นไปดื้อๆ เล่นเอาอาจารย์หยอยชะงักกึกเสียงสั่นเครือของตาบ่ายก็ดังขึ้นว่า...ผีตาเปี๊ยกชัดๆ เผ่นเถอะโว้ย!
ลมหนาวกระโชกวูบ ยอดไม้ไหวซ่าพร้อมๆ กับร่างลุงเปี๊ยกหายวับไปกับตา...อาจารย์หยอยร้องจ้า โยนขวดทิ้งจนแตกกระจายโครมคราม ยิ่งทำให้ชายชราเผ่นอ้าวไม่คิดชีวิตมีร่างตาบ่ายกวดตามมาติดๆ แว่วเสียงหัวเราะแหบโหยของปีศาจลุงเปี๊ยกดังไล่หลังมาติดๆ
สองเกลอสิ้นสติอยู่แถวพงหญ้าข้างทางนั่นเอง กว่าจะฟื้นก็รุ่งอรุณเมื่อศิษย์ตถาคตออกบิณฑบาตโปรดสัตว์พอดี!
ขอบคุณเรื่องเล่าจากข่าวสด
เครดิต :
ข่าวดารา ข่าวในกระแส บน Facebook อัพเดตไว เร็วทันใจ คลิกที่นี่!!