ปีศาจผมทอง
"วิมาลา" เล่าประสบการณ์ขนหัวลุกจากห้องผีสิง
ถ้าไม่ติดตามสามีจากชุมพรมากรุงเทพฯ เพื่อธุรกิจของครอบ ครัว ดิฉันคงจะไม่ต้องพบกับเรื่องราวสุดสยอง น่าขนลุกขนพองที่สุดในชีวิตหรอกค่ะ
เราอายุเลยหลักสี่มาหลายปีแล้ว มีลูกชายคนเดียวก็ไปเรียนต่อต่างประเทศ ทำให้ค่อนข้างเหงาพอสมควร สามีมักจะชวนดิฉันไปด้วยเสมอ แต่นานๆ ถึงจะตกลงสักครั้งเพราะไม่ชอบนั่งรถไกลๆ คอยกังวลไปตลอดว่าจะเกิดอุบัติเหตุ แม้สามีจะขับรถดีมากก็ตาม...เราไม่ได้ชนเขาก็อาจจะถูกเขาชนเรา! จริงไหมคะ?
จนกระทั่งวันเกิดเหตุ
ดิฉันตกลงร่วมทางไปด้วย ทางบ้านมีญาติๆ ที่ไว้ใจได้คอยดูแล... ระหว่างทางพบอุบัติเหตุรถชนกัน 2-3 ราย คือก่อนจะถึงปราณบุรี กับเลยหัวหินก่อนจะถึงเขาย้อย...ดูเหมือนจะสาหัสทั้งนั้นเลยค่ะ
จะเป็นลางร้ายอะไรหรือเปล่านะ? ดิฉันอดคิดมากไม่ได้ตามประสาผู้หญิง แต่สามีก็ปลอบใจว่าเป็นเรื่องปกติ เขามักจะพบเห็นอุบัติเหตุแบบนี้เกิดขึ้นเสมอ บางครั้งก็เจอทั้งขาไปและขากลับ...ถ้ามองในแง่ดีก็คือทำให้เรามีสติ ใช้รถใช้ถนนด้วยความไม่ประมาทไงล่ะคะ
วันนั้นเราพักโรงแรมขาประจำแถวสีลม...หลังจากอาบน้ำแต่งตัวแล้ว สามีก็ชวนไปช็อปปิ้ง หาอาหารค่ำกินจนเรียบร้อย แล้วออกมาเดินดูของสวยๆ งามๆ รอบสอง ดิฉันเห็นอะไรสวยก็อดพูดไม่ได้ สามีจะยุยงให้รีบซื้อทันที
หอบของขึ้นรถแล้วสามียังขับกินลมชมวิว ดูความสวยงามมลังเมลืองของกรุงเทพฯ ยามราตรี...จิตใจแช่มชื่นปลอดโปร่งอย่างบอกไม่ถูก...
ลืมคำพังเพยเก่าๆ ที่เคยเตือนใจจนหมดสิ้น!
"ก่อนจะเกิดพายุร้าย ท้องทะเลมักเงียบสงบเสมอ"
ในที่สุด เราก็ไปนั่งที่บาร์เบียร์บนฟุตปาธข้างโรงแรม ดิฉันดื่มเป็นเพื่อนสามี...พูดคุยกันถึงเรื่องราวเก่าๆ ก่อนวกไปถึงลูกชายอันเป็นที่รักของพ่อแม่...มองรถราและผู้คนที่ส่วนใหญ่เป็นนักท่องเที่ยว เดินผ่านไปมาอย่างทอดอารมณ์...ขอให้พวกเขาเที่ยวกรุงเทพฯ ให้สนุกและปลอดภัย เมื่อกลับบ้านจะได้บอกญาติมิตรให้มาท่องเที่ยวเมืองไทยเยอะๆ ไงคะ
เดี๋ยวเราก็จะขึ้นห้องกันแล้ว สามีนัดพบลูกค้า 2-3 รายตั้งแต่ตอนสายและเที่ยงมีการดื่มกินกันตามมรรยาท...ราวบ่ายสองเราก็จะเช็กเอาต์กลับชุมพรแล้ว
ดิฉันเหลือบไปเห็นชายหนุ่มผมทอง หน้าตาคมสันนั่งดื่มเบียร์อยู่คนเดียว...เขากำลังมองยิ้มๆ มาที่ดิฉันพอดี! อดบอกสามีไม่ได้ว่าหนุ่มรูปหล่อแท้ๆ มาจ้องคนแก่อยู่ได้ สามีหันขวับ...ไหนๆ ไม่เห็นมีนี่!
คราวนี้ดิฉันชักงง นึกว่าตัวเองเมาเบียร์จนตาลาย ก่อนจะถอนใจอย่างโล่งอกเมื่อเห็นหนุ่มผมทองนั่นกำลังเดินไปที่บันไดขึ้นโรงแรม... สามีก็ยิ้มขำๆ บอกว่ายังไม่แก่ แถมสวยจัดอีกด้วย...ดิฉันบอกให้เขาคิดเงินดีกว่า จะได้เข้านอนเร็วๆ เพราะต้องตื่นเช้า...
ตอนไปขอกุญแจห้องที่เคาน์เตอร์ ยังเห็นหนุ่มรูปหล่อคนเดิมยืนอยู่หน้าแผนกแคชเชียร์...เขาหันมามองดิฉันพลางยิ้มกว้าง ผงกศีรษะเป็นเชิงทักทาย ดิฉันก็ฝืนยิ้มให้แล้วหันกลับทันที...ไม่อยากให้สามีเห็นและคิดมากค่ะ
กลางดึกคืนนั้นเอง ดิฉันกำลังหลับสนิทก็รู้สึกหนาวยะเยือกจนลืมตาขึ้น ได้ยินเสียงสามีหายใจลึกแรงอย่างสม่ำเสมอ...แต่ทำไมความหนาวเย็นยิ่งเพิ่มขึ้นจนขนลุกซ่า ลืมตาขึ้นโดยที่ยังไม่ได้ขยับตัว
คุณพระช่วย! ท่ามกลางแสงสลัวจากไฟหน้าห้องน้ำ หนุ่มผมทองยืนจังก้าอยู่ข้างเตียง นัยน์ตาจ้องมองเขม็งพลางฉีกยิ้มกว้าง...กว้างขึ้นเหมือนจะไม่มีวันสิ้นสุด
ดิฉันร้องกรี๊ดๆ ลั่นห้องจนแก้วหูตัวเองยังสะเทือน สามีลุกพรวดพราดขึ้นนั่ง "เอื้อมไปเปิดไฟหัวเตียงทันที...แต่ไม่มีร่างน่าสยดสยองนั่นอีกแล้ว...ดิฉันโผกอดสามีพลางปล่อยโฮ...ผี! ผีหลอก! ผีผู้ชายผมทองคนนั้น...
สามีปลอบโยนว่าดิฉันคงฝันร้ายเป็นตุเป็นตะ หรือไม่ก็ตาฝาดไปเอง ไม่มีผีสางที่ไหนหรอก ดิฉันยืนยันถึงผู้ชายผมทองที่บาร์เบียร์ หน้าเคาน์เตอร์ จนกระทั่งตามมาในห้องนอน
คิดอีกที ดิฉันอาจจะฝันร้ายหรือตาฝาดเพราะจิตใจคิดถึงภาพก่อนที่จะเข้านอนก็เป็นได้...แต่บางสิ่งบางอย่างที่เร้นลับเกินอธิบาย บอกว่าผู้ชายคนนั้นต้องเสียชีวิตในห้องนอนนี้อย่างแน่นอน
รุ่งขึ้นดิฉันต้องขอติดตามสามีไปด้วย...ภาพของปีศาจผมทองยังติดหูติดตาจริงๆ ไม่อยากขนหัวลุกอยู่ในห้องนั้นคนเดียวค่ะ!
ที่มาจาก ข่าวสด
ถ้าไม่ติดตามสามีจากชุมพรมากรุงเทพฯ เพื่อธุรกิจของครอบ ครัว ดิฉันคงจะไม่ต้องพบกับเรื่องราวสุดสยอง น่าขนลุกขนพองที่สุดในชีวิตหรอกค่ะ
เราอายุเลยหลักสี่มาหลายปีแล้ว มีลูกชายคนเดียวก็ไปเรียนต่อต่างประเทศ ทำให้ค่อนข้างเหงาพอสมควร สามีมักจะชวนดิฉันไปด้วยเสมอ แต่นานๆ ถึงจะตกลงสักครั้งเพราะไม่ชอบนั่งรถไกลๆ คอยกังวลไปตลอดว่าจะเกิดอุบัติเหตุ แม้สามีจะขับรถดีมากก็ตาม...เราไม่ได้ชนเขาก็อาจจะถูกเขาชนเรา! จริงไหมคะ?
จนกระทั่งวันเกิดเหตุ
ดิฉันตกลงร่วมทางไปด้วย ทางบ้านมีญาติๆ ที่ไว้ใจได้คอยดูแล... ระหว่างทางพบอุบัติเหตุรถชนกัน 2-3 ราย คือก่อนจะถึงปราณบุรี กับเลยหัวหินก่อนจะถึงเขาย้อย...ดูเหมือนจะสาหัสทั้งนั้นเลยค่ะ
จะเป็นลางร้ายอะไรหรือเปล่านะ? ดิฉันอดคิดมากไม่ได้ตามประสาผู้หญิง แต่สามีก็ปลอบใจว่าเป็นเรื่องปกติ เขามักจะพบเห็นอุบัติเหตุแบบนี้เกิดขึ้นเสมอ บางครั้งก็เจอทั้งขาไปและขากลับ...ถ้ามองในแง่ดีก็คือทำให้เรามีสติ ใช้รถใช้ถนนด้วยความไม่ประมาทไงล่ะคะ
วันนั้นเราพักโรงแรมขาประจำแถวสีลม...หลังจากอาบน้ำแต่งตัวแล้ว สามีก็ชวนไปช็อปปิ้ง หาอาหารค่ำกินจนเรียบร้อย แล้วออกมาเดินดูของสวยๆ งามๆ รอบสอง ดิฉันเห็นอะไรสวยก็อดพูดไม่ได้ สามีจะยุยงให้รีบซื้อทันที
หอบของขึ้นรถแล้วสามียังขับกินลมชมวิว ดูความสวยงามมลังเมลืองของกรุงเทพฯ ยามราตรี...จิตใจแช่มชื่นปลอดโปร่งอย่างบอกไม่ถูก...
ลืมคำพังเพยเก่าๆ ที่เคยเตือนใจจนหมดสิ้น!
"ก่อนจะเกิดพายุร้าย ท้องทะเลมักเงียบสงบเสมอ"
ในที่สุด เราก็ไปนั่งที่บาร์เบียร์บนฟุตปาธข้างโรงแรม ดิฉันดื่มเป็นเพื่อนสามี...พูดคุยกันถึงเรื่องราวเก่าๆ ก่อนวกไปถึงลูกชายอันเป็นที่รักของพ่อแม่...มองรถราและผู้คนที่ส่วนใหญ่เป็นนักท่องเที่ยว เดินผ่านไปมาอย่างทอดอารมณ์...ขอให้พวกเขาเที่ยวกรุงเทพฯ ให้สนุกและปลอดภัย เมื่อกลับบ้านจะได้บอกญาติมิตรให้มาท่องเที่ยวเมืองไทยเยอะๆ ไงคะ
เดี๋ยวเราก็จะขึ้นห้องกันแล้ว สามีนัดพบลูกค้า 2-3 รายตั้งแต่ตอนสายและเที่ยงมีการดื่มกินกันตามมรรยาท...ราวบ่ายสองเราก็จะเช็กเอาต์กลับชุมพรแล้ว
ดิฉันเหลือบไปเห็นชายหนุ่มผมทอง หน้าตาคมสันนั่งดื่มเบียร์อยู่คนเดียว...เขากำลังมองยิ้มๆ มาที่ดิฉันพอดี! อดบอกสามีไม่ได้ว่าหนุ่มรูปหล่อแท้ๆ มาจ้องคนแก่อยู่ได้ สามีหันขวับ...ไหนๆ ไม่เห็นมีนี่!
คราวนี้ดิฉันชักงง นึกว่าตัวเองเมาเบียร์จนตาลาย ก่อนจะถอนใจอย่างโล่งอกเมื่อเห็นหนุ่มผมทองนั่นกำลังเดินไปที่บันไดขึ้นโรงแรม... สามีก็ยิ้มขำๆ บอกว่ายังไม่แก่ แถมสวยจัดอีกด้วย...ดิฉันบอกให้เขาคิดเงินดีกว่า จะได้เข้านอนเร็วๆ เพราะต้องตื่นเช้า...
ตอนไปขอกุญแจห้องที่เคาน์เตอร์ ยังเห็นหนุ่มรูปหล่อคนเดิมยืนอยู่หน้าแผนกแคชเชียร์...เขาหันมามองดิฉันพลางยิ้มกว้าง ผงกศีรษะเป็นเชิงทักทาย ดิฉันก็ฝืนยิ้มให้แล้วหันกลับทันที...ไม่อยากให้สามีเห็นและคิดมากค่ะ
กลางดึกคืนนั้นเอง ดิฉันกำลังหลับสนิทก็รู้สึกหนาวยะเยือกจนลืมตาขึ้น ได้ยินเสียงสามีหายใจลึกแรงอย่างสม่ำเสมอ...แต่ทำไมความหนาวเย็นยิ่งเพิ่มขึ้นจนขนลุกซ่า ลืมตาขึ้นโดยที่ยังไม่ได้ขยับตัว
คุณพระช่วย! ท่ามกลางแสงสลัวจากไฟหน้าห้องน้ำ หนุ่มผมทองยืนจังก้าอยู่ข้างเตียง นัยน์ตาจ้องมองเขม็งพลางฉีกยิ้มกว้าง...กว้างขึ้นเหมือนจะไม่มีวันสิ้นสุด
ดิฉันร้องกรี๊ดๆ ลั่นห้องจนแก้วหูตัวเองยังสะเทือน สามีลุกพรวดพราดขึ้นนั่ง "เอื้อมไปเปิดไฟหัวเตียงทันที...แต่ไม่มีร่างน่าสยดสยองนั่นอีกแล้ว...ดิฉันโผกอดสามีพลางปล่อยโฮ...ผี! ผีหลอก! ผีผู้ชายผมทองคนนั้น...
สามีปลอบโยนว่าดิฉันคงฝันร้ายเป็นตุเป็นตะ หรือไม่ก็ตาฝาดไปเอง ไม่มีผีสางที่ไหนหรอก ดิฉันยืนยันถึงผู้ชายผมทองที่บาร์เบียร์ หน้าเคาน์เตอร์ จนกระทั่งตามมาในห้องนอน
คิดอีกที ดิฉันอาจจะฝันร้ายหรือตาฝาดเพราะจิตใจคิดถึงภาพก่อนที่จะเข้านอนก็เป็นได้...แต่บางสิ่งบางอย่างที่เร้นลับเกินอธิบาย บอกว่าผู้ชายคนนั้นต้องเสียชีวิตในห้องนอนนี้อย่างแน่นอน
รุ่งขึ้นดิฉันต้องขอติดตามสามีไปด้วย...ภาพของปีศาจผมทองยังติดหูติดตาจริงๆ ไม่อยากขนหัวลุกอยู่ในห้องนั้นคนเดียวค่ะ!
ที่มาจาก ข่าวสด
เครดิต :
ข่าวดารา ข่าวในกระแส บน Facebook อัพเดตไว เร็วทันใจ คลิกที่นี่!!