หาดผีสิง


หาดผีสิง

"สายัณห์"เล่าประสบการณ์ขนหัวลุกจากหาดจอมมณี

เมื่อเดือนที่แล้วนี่เอง ผมเพิ่งเคยไปเที่ยวจังหวัดหนองคายเป็นครั้งแรกในชีวิต...รถไฟคือพาหนะที่ดีที่สุด ออกจากหัวลำโพงตอนค่ำไปถึงหนองคายตอนเช้า เจ้าเจตน์เพื่อนรักสมัยเรียนมหาวิทยาลัยด้วยกันเป็นคนชวนครับ

เพื่อนคนนี้เรียนจบก็รับราชการทันที ตอนแรกเลือกไปอยู่แถวอีสานบ้านเกิด...ล่าสุดเจ้าเจตน์มาปักหลักอยู่หนองคายนี่เอง!

มีเจ้าภาพที่เป็นเพื่อนสนิทนี่สบายไปแปดร้อยอย่าง จ่ายแค่ค่ารถไปกลับเท่านั้นก็พอแล้ว นอกนั้นไม่ว่าจะเป็นการกินอยู่ เที่ยวเตร่เฮฮา เจ้าภาพจงเจริญรับหน้าที่หมดทุกอย่าง

จากสถานีมันก็รับผมไปเปิดโรงแรมใจกลางเมืองทันที อย่างว่าละ...ถึงแม้หนองคายจะเป็นจังหวัดเล็ก แต่ก็มีแหล่งท่องเที่ยวทางธรรมชาติ หรือแหล่งสำราญของพวกผู้ชาย บาร์ สปา คาราโอเกะ โรงนวดมีพรักพร้อมครบเครื่อง

ตอนกลางคืนมีถนนสายใหญ่ใจกลางเมือง ขายอาหารเพียบขนาดน้องๆ เยาวราชแน่ะคุณ สองฟากฝั่งมีของกินละลานตา แสงไฟสว่างไสว ร้านข้าวต้มโอ่อ่า คนแน่นเหมือนกินฟรี ได้ลองแล้วติดใจครับ เพราะอาหารน่ากิน อร่อย บริการฉับไวได้การเชียวละ

ต้องยอมรับว่าวันแรกค่อนข้างเพลีย เพราะไม่คุ้นกับการนอนบนรถไฟ เล่นเอาหลับๆ ตื่นๆ มาตลอด เลยได้แต่ขอตัวนอนพักก่อนจะออกไปลุยราตรี

เจ้าเจตน์ขับรถมารับแต่เช้า ผมสดชื่นกระปรี้กระเปร่าเต็มที่...อย่างน้อยผู้ชายวัยสี่สิบต้นๆ ก็ยังไม่ถึงกับบ้อลัดสารพัดโรคเหมือนคนแก่เฒ่าหรอกครับ เจ้าเจตน์พาไปเที่ยววัดก่อนเพื่อความเป็นสิริมงคล ก่อนจะไปชมตลาดท่าเสด็จริมแม่น้ำ...ผ่านซอกซอยออกไปสู่ลานกว้างริมฝั่งโขง เวิ้งว้างกว้างใหญ่ น่าตื่นตาตื่นใจไม่เบา

จากนั้นก็ไปวัดโพธิ์ชัย เพื่อกราบไหว้หลวงพ่อพระใส-พระพุทธรูปศักดิ์สิทธิ์คู่บ้านคู่เมืองของจังหวัดหนองคาย

ที่ฝาผนังอุโบสถด้านในใกล้ๆ กับประตูเข้าออก มีรูปประเพณีงานสงกรานต์เมื่อปีกลายในหน้าหนึ่งของหนังสือพิมพ์ "ข่าวสด" ติดหรา มองเห็นผู้คนหลั่งไหลกันมาทำบุญและเที่ยวงานกันมืดฟ้ามัวดินเชียวละคุณ

เห็นแล้วปลื้มใจแทนหนังสือพิมพ์ข่าวสดซะไม่มี!

"ไหนๆ มาถึงหนองคายทั้งทีก็ต้องไปขึ้นสะพานมิตรภาพไทย-ลาว" เจ้าเจตน์บอกกล่าว ก่อนจะขับรถบึ่งออกนอกเมืองไปถึงสะพานข้ามโขงที่โดดเด่นอยู่ทางขวามือ...น่าแปลกอย่างตรงที่ฝั่งเรามีธงชาติติดไสวไปถึงกลางสะพานอันถือว่าเป็นเส้นแบ่งอาณาเขต แต่ทางฝั่งลาวไม่ยักมีธงชาติหรอกแฮะ

บ่ายแก่ๆ พยาธิชักกวน เจ้าเจตน์ก็ไปจอดรถที่ใต้สะพานแล้วนำหน้าดุ่มเดินผ่านศาลาทางหลวงลงไปที่หาดจอมมณี...แหม! ข้างทางเห็นดงหญ้าคาดกหนาสะพรั่งตา เพื่อนผมอดหัวเราะไม่ได้...บ้า! นั่นตะไคร้ต่างหากล่ะ ไอ้โง่!

ร้านสุราอาหารเรียงรายเต็มหาด ผู้คนคึ่กๆ ผมเล็งร้านเจนนี่แอนด์จูเนียร์เอาไว้ แต่เห็นวิวลำน้ำโขงสวยงามใกล้ชิดเป็นครั้งแรกเลยขอเดินไปชมให้ชื่นใจก่อน แว่วเสียงเพลง "ขุ่นลำโขง" ของหม่อมถนัดศรีขึ้นมาทันใด

"...สองข้างตลิ่งห่างเสียจริงเจียวหนอ คิดไปใจพี่ท้อ พี่นี้รอเดียวแด โอ้หนอแม่คุณเอย..."

ใครจะคิดตื้นคิดลึกยังไงก็แล้วแต่จะตีความหมายเอาเองละกันครับ!

เจ้าเจตน์ยกกล้องขึ้นมาถ่ายรูปผมตามประสาเพื่อนที่ดี เดี๋ยวมุมนั้นเดี๋ยวมุมนี้...จนผมได้ยินเสียงดังขึ้นข้างหลังว่า...มุมนี่ซีคุณ ผมว่าสวยที่สุด!

หันไปมองแทบไม่เชื่อตาตัวเอง ฝรั่งหนุ่มใหญ่รุ่นเดียวกับเรานั่งกอดเข่าอยู่บนพื้นทรายหันมามองยิ้มๆ ผมสีทองค่อนข้างยาวปลิวไสวตามแรงลม...พูดไทยชัดแจ๋วยังกับเป็นคนไทยแท้ๆ ผมเลยอดถามไม่ได้มาอยู่เมืองไทยกี่ปีแล้วถึงได้พูดไทยชัดเหลือเกิน? แกก็บอกว่าเกือบ 20 ปีแล้ว ตั้งแต่สงครามอินโดจีนสงบ มีภรรยาเป็นคนลาวอยู่ท่าเดื่อ สัญญาว่าจะข้ามฟากมาหา แต่แกรอมาตั้งแต่ก่อนสร้างสะพานมิตรภาพจนสร้างสะพานเสร็จก็ยังไม่เห็นข้ามมาซักที

ผมถามว่าทำไมยูไม่ข้ามไปหาล่ะ เดี๋ยวนี้ก็ไปมาหาสู่กันสะดวกสบายแล้วนี่นา...พอดีเจ้าเจตน์เดินมาหาพลางร้องว่า ไปหาอะไรกินกันได้แล้วว่ะ! อ้าว? แล้วนั่นมึงพูดจาพยักพเยิดกับใคร? ผมหันขวับไปมองที่ชายน้ำใต้สะพานก็เห็นแต่ความว่างเปล่า เล่นเขาขนลุกซ่า ใจหายวูบทันใด

เจ้าเจตน์เล่าว่า ฝรั่งนายนั้นอกหักจากสาวลาวมานั่งดวดเหล้าที่หาดจอมมณี วันหนึ่งเกิดสติแตก ลุยน้ำจมหายไปใน "ขุ่นลำโขง" อีกสองวันศพถึงลอยขึ้นมา...วันดีคืนดีก็มานั่งเล่าความหลังให้ใครๆ ฟังอย่างนี้แหละ เจอะเจอกันมาหลายรายแล้ว...ขนหัวตั้งชันซีครับ งานนี้น่ะ!


ขอบคุณเรื่องเล่าจากข่าวสด


เครดิต :

ข่าวดารา ข่าวในกระแส บน Facebook อัพเดตไว เร็วทันใจ คลิกที่นี่!!
กระทู้เด็ดน่าแชร์