ไอ้เอียง


ไอ้เอียง

"พิชัย" เล่าประสบการณ์ขนหัวลุกจากซอยจันทราสุข

สมัยหนุ่มผมเป็นคอเหล้าตัวฉกาจ ชนิดที่ตกเย็นเป็นท้องไส้ปั่นป่วนไปหมด พวกรุ่นพี่เขาบอกว่า "พยาธิมันกวน" ต้องหาน้ำสีอำพันดื่มดวดเพื่อปลอบอกปลอบใจมันซะหน่อย รับรองว่ามันจะหยุดกวนเป็นปลิดทิ้ง!

พวกคอสุราก็มักจะหาเรื่องมาปลอบอกปลอบใจว่าตัวเองไม่ได้ติดเหล้ากันทั้งนั้นล่ะครับ ถ้าจะพูดเข้าข้างตัวเองเล็กน้อย ก็ต้องบอกว่าพวกเรายังดีที่ก๊งเหล้ากันสนุกอยู่ในหมู่เพื่อนฝูง ไม่เอะอะเอ็ดตะโร หรือยียวนกวนแข้งชาวบ้านอย่างที่หลายๆ คนนิยมเป็นกัน เข้าตำราที่ว่า "กินเหล้าหนแรกเมาแบบไหนก็จะเป็นแบบนั้นไปจนตาย"

บางคนเมาแล้วแบะท่านักเลง บางคนเมาแล้วชอบโม้ ยกตนข่มท่าน แต่บ้างก็ชอบขัดคอเพื่อนร่วมวงอยู่ร่ำไป ถ้าไม่รู้ใจกัน หรือไปก๊งผิดวงมีหวังโดนยำเละเอาง่ายๆ

บางคนซดเหล้าเข้าไปหน่อยชอบออกลายเจ้าชู้ มักไม่ดูตาม้าตาเรือซะด้วย เห็นสาวโต๊ะใกล้สะสวยหรือเซ็กซี่ก็ชอบแซวข้ามโต๊ะ ไม่โดนบาทายัดปากก็นับว่าบุญโข...แต่ส่วนมากน่ะเหมือนกันตรงที่ชอบพูด จนถึงชอบพล่าม แต่ไม่ชอบฟังคนอื่นอีกต่างหาก

เกิดเรื่องชกต่อยจนถึงตีรันฟันแทงก็เพราะพิษสุรานี่แหละครับ รอดตัวมาได้จากวัยหนุ่มมาถึงวัยงอมรวดเร็วเพราะโรคภัยอันเกิดจากพิษสุรามาเยือน...ตายก่อนวัยไปนับไม่ถ้วนมาแล้ว บอกไม่เชื่อ

วันนี้จะเล่าเรื่องขนหัวลุกเพราะพิษสุราให้ฟัง!

ตอนนั้นผมอยู่ซอยจันทราสุข ลาดพร้าว 87 บ้านเรือนยังไม่ค่อยแน่นหนาเท่าไหร่ บางแห่งยังเป็นที่ว่างๆ ตอนกลางคืนเปล่าเปลี่ยวน่าดู ร้านเหล้าขาประจำกลางซอยคือเฮียฮวดญาติเฮียไฮ้ช่างทำกระจก รูปร่างสูงใหญ่ทั้งสองคนพี่น้อง

ส่วนมากผมมักตั้งวงที่บ้านกับเพื่อนฝูงในย่านนั้น เราโทรศัพท์ไปสั่งเขาก็ให้เด็กขี่จักรยานส่ง ไม่ว่าเหล้า โซดา น้ำแข็ง เพื่อนๆ ก็หิ้วกับแกล้มมากินกันชนิดเหลือเฟือ

คืนเกิดเหตุ ผมก๊งเหล้ากับเพื่อนสองคนที่โต๊ะใหญ่ใต้ถุนบ้าน ราวทุ่มเศษก็มีเพื่อนจากก้นซอยแวะเอาปลาเผากับห่อหมกมาฝาก วงเหล้าเลยครึกครื้นกันยกใหญ่ ...พอใกล้สามทุ่มเหล้าขวดสุดท้ายก็ใกล้หมดแล้ว...แถมไม่มีเหล้าตุนอีกต่างหาก

โทร.ไปร้านเฮียฮวดก็ไม่มีใครรับสาย พวกเรามองสบตากันละห้อยเชียว...แหม! กำลังติดลม แล้วจะไปหาเหล้าที่ไหนมาซดกันต่อดีล่ะ?

เสียงมอเตอร์ไซค์แล่นเข้าซอยดังลั่นขึ้นในความเงียบทันใด!

"ไอ้เอียงนี่หว่า!" นายมิ่งที่เอาปลาเผามาฝากร้องขึ้น "วานมันไปซื้อเหล้าได้...ไอ้เอียง ไอ้เอียงโว้ย!" แกลุกปราดไปที่ประตูรั้ว ควักเงินส่งให้วัยรุ่นที่คอเอียงสมชื่อแล้วกำชับเสียงดัง "รีไปรีบมาเร็วๆ นะโว้ย"

ไอ้เอียงบึ่งรถออกไปอย่างว่าง่าย...พวกเราก็ละเลียดเหล้าแก้วสุดท้ายรอคอยอย่างมีความหวัง เพราะจากบ้านผมไปร้านเฮียฮวดน่ะไม่เกิน 300 เมตร หรือถ้าร้านปิดก็ไปซื้อที่ร้านปากซอยได้

แหม! พวกเราไม่มีรถราใช้กันสักคนน่ะซีครับ!

เวลาผ่านไป 15 นาทีก็แล้ว ครึ่งชั่วโมงก็แล้ว...คราวนี้ชักมองสบตากันด้วยสีหน้าไม่ค่อยดี ตัดสินใจโทร.ไปร้านเฮียฮวดอีกครั้งแต่ก็ไม่มีคนรับสายตามเคย พวกเราเลยตัดสินใจดุ่มเดินไปดูให้รู้แน่ว่าเกิดอะไรขึ้น?

ก่อนถึงร้านเฮียฮวดก็พบกับร่างโชกเลือดของไอ้เอียงนอนตะแคง นัยน์ตาลืมโพลง มือยังกำแบงก์ร้อยเอาไว้แน่น...โธ่! ไอ้เอียง!

พวกเรายกโขยงไปทุบประตูร้านเฮียฮวดจนแกเปิดออกรับ เราต่อว่าที่แกใจดำ ไม่ออกไปช่วยเหลือไอ้เอียงทันที ไม่งั้นมันอาจจะรอดตายก็ได้ แต่เฮียฮวดปากคอสั่นไปหมด ก่อนจะอธิบายเร็วปรื๋อราวกับลิ้นพันกัน

เฮียฮวดยอมรับว่าได้ยินเสียงโทรศัพท์ที่ผมเรียกไป แต่แกไม่ยอมรับเพราะลูกจ้างนอนหลับแล้ว จนกระทั่งได้ยินเสียงโครมครามกับเสียงแตรก็เลยไปชะโงกดูที่หน้าต่าง

ภาพที่เห็นในแสงไฟยามดึกก็คือ ไอ้เอียงคร่อมอานเงยหน้าขึ้นมอง เลือดแดงเถือกเปรอะไปทั้งใบหน้า ที่จำได้ก็คืออาการคอเอียงของมันนั่นเอง เล่นเอาแกเข่าอ่อน เผ่นหนีจากภาพสยองขึ้นไปนอนตัวสั่นอยู่บนเตียง จนกระทั่งได้ยินเสียงพวกเรา

ขนาดสิ้นลมหายใจแล้ววิญญาณยังโลดลิ่วไปซื้อสุราตามคำสั่ง! บรื๋อออ...



ขอบคุณเรื่องเล่าจากข่าวสด


เครดิต :

ข่าวดารา ข่าวในกระแส บน Facebook อัพเดตไว เร็วทันใจ คลิกที่นี่!!
กระทู้เด็ดน่าแชร์