คนตาทิพย์


คนตาทิพย์

"ปรีดา" เล่าประสบการณ์ขนหัวลุกของคนเห็นผี

เคยมีญาติมิตรหลายคนมาถามว่า เชื่อเรื่องผีหรือไม่? ถ้าเชื่อแล้วกลัวผีหรือเปล่า? ผมก็มักจะตอบกลางๆ ไปว่า ห้าสิบ-ห้าสิบ หรือเชื่อครึ่ง-ไม่เชื่อครึ่ง...จะถือคติว่า "ไม่เชื่ออย่าลบหลู่" ก็ได้ครับ

แต่ผมมีเรื่องแปลกประหลาด ที่เจอะเจอกับตัวเองมาเล่าสู่กันฟัง

สมัยเด็กผมอยู่ในซอยสุทธิสาร ช่วงใกล้ๆ กับถนนวิภาวดีรังสิต ที่เพิ่งเปลี่ยนจากชื่อเดิมคือซูเปอร์ไฮเวย์ได้ไม่นาน ในซอยมีชายชราคนหนึ่งชื่อตาพุ่ม ชอบนั่งเล่นอยู่ที่ม้ายาวหน้าบ้านตอนเย็นๆ มองดูคนเดินผ่านไปมาที่ล้วนแต่รู้จักและคุ้นหน้ากันทั้งนั้น เด็กๆ ก็วิ่งเล่นเกรียวกราวอยู่แถวนั้นเอง

ตาพุ่มเป็นคนผอมสูง ผิวขาว ผมขาว ปากติดยิ้มอย่างคนใจดี ในเขตบ้านหลังใหญ่ปลูกต้นไม้เอาไว้ร่มครึ้ม มีลูกๆ หลานๆ อาศัยอยู่หลายคน...ดูเหมือนแกจะเคยเป็นข้าราชการตำแหน่งค่อนข้างใหญ่ แต่นิสัยเรียบง่าย "ติดดิน" เกษียณมาราวสิบปีแล้ว

พวกเด็กๆ รักตาพุ่มทั้งนั้นเพราะแกใจดี มีขนมกับของเล่นแจกบ่อยๆ เวลากลับจากเดินออกกำลังที่ปากซอย แต่บางวันก็ให้เงินพวกเราไปซื้อขนมกินเองตามใจชอบ

ชาวบ้านลือกันว่าตาพุ่มเป็นคนตาทิพย์ มองเห็นภูตผีได้ชัดเจนแทบไม่น่าเชื่อ ผมเคยถามแกว่า...ตามองเห็นผีได้จริงๆ หรือ?

ตาพุ่มก็ยิ้มกว้างอย่างอารมณ์ดีจนเห็นรอยย่นเต็มใบหน้า

"ก็จริงๆ น่ะซีไอ้หนู มันเดินเข้าเดินออกกันขวักไขว่ไปหมด ที่ตายไปตั้งนานจนตาไม่รู้จักก็มี แต่ส่วนมากรู้จักกันทั้งนั้น...นั่น! ตาเชื้อกับตาโปร่ง ขี้เมาจนตับแข็งตายทั้งคู่ โน่น! ตาสอนกับยายพวง...พ่อชะลอกับแม่เฉลา...อ้าว? ไอ้เปีย เป็นไงมั่งล่ะเอ็ง"

ผมเหลียวซ้ายแลขวา แต่ไม่เห็นใครที่ตาพุ่มเอ่ยถึงซักคน นอกจากจะรู้แต่ว่าคนพวกนั้นตายไปแล้วทั้งนั้น

"ไอ้เปียที่โดนรถชนตายเดือนก่อนน่ะหรือครับ?" ผมคราง ชายชราก็พยักหน้า มองดูใครที่อยู่ข้างๆ ผม แถมเอื้อมมือไปลูบไล้ความว่างเปล่าเหมือนกำลังลูบหัวเด็กอยู่ไม่มีผิด เล่นเอาผมขนลุกซ่า ขณะที่ตาพุ่มส่ายหน้ายิ้มๆ

"ขนาดโดนรถชนตายแล้วยังวิ่งซนตามเคยนะเอ็ง!"

เย็นหนึ่ง ตาพุ่มแจกเงินเด็กๆ ไปซื้อขนมแล้วก็นั่งเล่นอยู่ที่หน้าบ้านตามเดิม ตอนนั้นค่ำเร็วเพราะเป็นฤดูหนาว อากาศเยือกเย็น ผู้คนที่กลับจากทำงานบางตาลง...ตาพุ่มหันไปทางปากซอยแล้วย่นคิ้ว ถอนใจยืดยาว

"วันนี้มากันเยอะแยะเชียว" แกเอ่ยชื่อที่ผมรู้จัก และชวนให้สยองเมื่อนึกว่าพวกนั้นตายไปหมดสิ้นแล้ว จนกระทั่งแกพยักหน้าหงึกๆ กับตัวเอง

"อือม์...เจ้าเหลิมก็มาด้วยรึนี่?"

"เหลิมไหนล่ะครับ? ลุงเหลิมที่ทำงานไปรษณีย์หรือเปล่า?"

"เออ! ก็เจ้าเหลิมนั่นแหละ ไอ้หนูเอ๊ย" แกถอนใจยาวอีกครั้ง...แต่คราวนี้ผมแน่ใจว่าตาพุ่มคงเดินไปก๊งเหล้าที่ร้านปากซอยมา เพราะลุงเหลิมยังไม่ตาย ผมเองก็ไม่เห็นลุงเหลิมเลย...จนกระทั่งคืนนั้นถึงได้รู้ข่าวว่าลุง เหลิมโดนรถชนตายตอนเย็นนี้เอง!

วันเกิดเหตุ ผมวิ่งเล่นกับเพื่อนๆ จนใกล้ค่ำ ครั้นผ่านไปที่หน้าบ้านตาพุ่มก็เห็นม้ายาวว่างเปล่า...แต่หันไปทางปากซอยก็เห็นร่างผอมสูงของชายชราเดินยิ้มระรื่นเข้ามาทักทาย...ได้กลิ่นเหล้าอวลกรุ่นจากปากแกเป็นครั้งแรก

"ตอนแรกก็เดินออกกำลังไปดีๆ เห็นพวกคอเหล้ากำลังสนุกกันแล้วชวนร่วมวงด้วย ตาเลยเอากับเขาเสียหน่อย... นานๆ เจอทีเล่นเอาชักมึนๆ เหมือนกันแฮะเรา"

ว่าแล้วก็เดินเซนิดๆ เข้าประตูรั้วไป...

ผมกำลังจะหันกลับอยู่แล้ว ก็พอดีได้ยินเสียงเอะอะโวยวาย กับเสียงฝีเท้าวิ่งตึ๊กๆ เข้ามา...ผลักประตูรั้วแล้วตะโกนบอกเข้าไปว่า ตาพุ่มหัวใจวายอยู่ในวงเหล้าที่ร้านปากซอยนั่นเอง!

ตกตะลึงตัวชาไปหมด อ้าปากค้าง แก้วหูลั่นเปรี๊ยะเหมือนใกล้จะระเบิดตูมตาม...นัยน์ตาเบิกกว้างจ้องมองดูภาพผู้คนช่วยกันหอบหิ้วร่างอ่อนปวกเปียกของตาพุ่มกลับบ้าน...ตาพุ่มที่ผมเพิ่งพูดคุยกับแกหยกๆ และหายเข้าบ้านไปไม่กี่อึดใจนี้แท้ๆ

เดี๋ยวนี้ผมเชื่อสนิทแล้วว่าตาพุ่มมองเห็นภูตผีแบบคนตาทิพย์จริงๆ ขนาดผมเคยเห็นแค่ครั้งเดียวยังขนหัวลุกมาถึงทุกวันนี้เลยครับ!




ขอบคุณบทความจากข่าวสด


เครดิต :

ข่าวดารา ข่าวในกระแส บน Facebook อัพเดตไว เร็วทันใจ คลิกที่นี่!!
กระทู้เด็ดน่าแชร์