บ่วงพยาบาท


บ่วงพยาบาท

"อิสระ" เล่าเรื่องขนหัวลุกของเชือกไหมมรณะ

ประเทศอังกฤษขึ้นชื่อลือชานักหนาในเรื่องภูตผีปีศาจ นอกจากนิยายและเรื่องราวเก่าๆ ที่เล่าสู่กันฟังเพื่อความบันเทิงแล้ว ยังมีเรื่องจริงที่บันทึกไว้เป็นหลักฐานอีกมากมายนับร้อยๆ เรื่องทีเดียว

"บ่วงพยาบาท" คือเรื่องสยองขวัญอันโด่งดังของประเทศนี้ และเกิดขึ้นในกรุงลอนดอน เมื่อปี ค.ศ.1890

สิ่งที่น่าสะพรึงกลัวก็คือเป็นการเขียนสารภาพของฆาตกร ผู้โดนวิญญาณติดตามหลอกหลอนจนอกสั่นขวัญแขวน หวาดกลัวสุดขีดจนต้องเขียนเล่าถึงกรรมชั่วของตนก่อนจะฆ่าตัวตายในลักษณะเดียวกับเหยื่อสังหารที่ตนเคยก่อกรรมเอาไว้นั่นเอง!

เรื่องราวน่าขนหัวลุกทั้งหมดมีดังนี้

...ผมชื่อ จอร์จ กัฟนี่ เป็นหัวขโมยในตำบลเล็กๆ แห่งหนึ่งของกรุงลอนดอน เมื่อเดือนมีนาคมผมได้ซื้อเชือกของชาวฮินดูซึ่งมีความยาว 3 ฟุต เพราะความติดเนื้อต้องใจที่เชือกเส้นนั้นทำด้วยไหมแท้ทั้งเส้น คนขายเล่าประวัติให้ฟังว่าพวกฆาตกรจะใช้เชือกไหมเส้นนี้ในการลอบสังหารเหยื่อของตน!

แม้ผมจะเป็นเพียงขโมยที่มิใช่อาชญากร แต่ไม่รู้ว่ามีอะไรดลใจให้อยากได้เชือกไหมเส้นนี้จนตัดสินใจซื้อมัน

ในช่วงเวลานั้นผมมีคู่รักคู่ใคร่ฐานะยากจนคนหนึ่งชื่อ เบสซี่ เกรฟ เธอร่ำร้องให้ผมแต่งงานด้วยโดยอ้างว่าเธอกำลังตั้งครรภ์กับผม แต่เสียใจ...ผมไม่โง่ขนาดนั้นหรอก! เพราะมีแม่ม่ายทรงเครื่องกำลังสนใจผมอยู่เหมือนกัน ฐานะของ สเตลล่า ฟอร์ตนี่ อยู่ในขั้นมั่งมีกว่าเบสซี่มากมายนัก...เธอรู้จักผมในชื่อ อาเธอร์ เอมส์

ทั้งๆ ที่เพิ่งซื้อเชือกไหมเส้นนั้นมาได้เพียง 2 อาทิตย์ แต่ผมก็ได้ใช้งานมันรัดคอมารชีวิต เบสซี่ เกรฟ จนนัยน์ตาถลนออกมานอกเบ้าก่อนจะสิ้นลมหายใจ!

นักสืบของสกอตแลนด์ยาร์ดรู้แต่ว่าฆาตกรเป็นชายแข็งแรง แต่ไม่รู้ว่าเป็นใครแน่ ส่วนผมก็ยังตามจีบแม่ม่ายทรงเครื่องใหญ่ หวังจะเป็นหนูตกถังข้าวสาร...แต่แล้วเบสซี่ก็ขึ้นจากหลุมศพมาหาผมอย่างไม่คาดฝัน

คืนนั้น ผมนั่งรถม้าโดยสารไปหาสเตลล่า จู่ๆ ผู้หญิงที่นั่งอยู่ข้างๆ ก็กลายเป็น เบสซี่ กำลังจ้องมองมาเขม็ง เล่นเอาผมแทบช็อกคาที่...ร้องเอะอะโวยวายอย่างลืมตัวจนเธอหายไป

ขอสารภาพว่าผมเมายับเยินอยู่หลายวัน จนกระทั่งปลอบใจตัวเองได้ว่าคงตาฝาดไปแน่ๆ เลยอาบน้ำแต่งตัวไปหาแม่ม่ายทรงเครื่องพร้อมกับแหวนเพชรที่ผมขโมยมา...เราดื่มแชมเปญกันอย่างมีความสุขจนหมดขวด สเตลล่าให้ผมไปหยิบขวดใหม่ในห้องเก็บของใต้ดิน ผมก็ถือตะเกียงลงไป...แต่เกิดนรกจกเปรตอะไรขึ้นมาเล่า?

เบสซี่ เกรฟ เดินออกจากความมืดโดยมีเชือกไหมเส้นนั้นห้อยคอเธออยู่ด้วย นัยน์ตาวาวจ้าจ้องมองผมอย่างอาฆาตแค้น อารามตกใจแทบช็อกคาที่ผมจึงขว้างตะเกียงใส่หน้าเธอ แล้วหมุนตัวกลับเพื่อตะเกียกตะกายขึ้นบันได แต่กลับพลัดตกลงไปกองแอ้งแม้ง...โชคดีที่ผีร้ายหายตัวไปแล้ว

ไม่เอาแล้วแม่ม่ายทรงเครื่อง! ต่อให้มีเงินกองท่วมหัวแต่ถ้าเราตายเสียก่อนมันจะมีประโยชน์อะไรล่ะครับ?

ผมตัดสินใจหนีปีศาจเบสซี่ออกนอกประเทศไปชั่วชีวิต โดยจองตั๋วเรือมอนโทรสไปควีเบกทันที...นรกเถอะ! ปีศาจเบสซี่ติดตามผมไปจนได้ เธอถอดเชือกจากลำคอตัวเองมารัดลำคอผมแทน...ผมทั้งดิ้นรนและแหกปากร้องสุดเสียง แต่ผีพยาบาทหายไปแล้ว ทิ้งเชือกไหมมรณะเอาไว้ในอุ้งมือผมนั่นเอง!

เหมือนตกนรกทั้งเป็น! ผมไม่อาจจะทนทานต่อแรงอาฆาตของเธอได้แล้ว...ขอสารภาพผิดทุกอย่าง ลาก่อน...

เมื่อนักสืบสกอตแลนด์ยาร์ดมาถึงที่เกิดเหตุ ก็พบว่าจอห์จ กัฟนี่ ใช้เชือกไหมผูกคอตัวเองสิ้นลมปราณไปแล้ว เพราะวิญญาณพยาบาทของเบสซี่ เกรฟ...ตำรวจปิดคดีนี้ได้สำเร็จก็เพราะฆาตกรเขียนคำสารภาพไว้เองแท้ๆ

มีปริศนาหลังจากปิดคดีก็คือ หลักฐานชิ้นสำคัญชิ้นหนึ่งได้หายไปจากกองเก็บหลักฐาน...นั่นคือเชือกรัดคอไหมที่จอห์จ กัฟนี่ ใช้แขวนคอตายนั่นเอง!





ขอบคุณเรื่องเล่าจากข่าวสด


เครดิต :

ข่าวดารา ข่าวในกระแส บน Facebook อัพเดตไว เร็วทันใจ คลิกที่นี่!!
กระทู้เด็ดน่าแชร์