วิญญาณบาป


วิญญาณบาป

"กุณฑลี" เล่าประสบการณ์ขนหัวลุกจากหน้าบ้านยามดึก

ดิฉันเป็นเด็กห้วยขวางมาตั้งแต่เกิด รู้จักมักคุ้นกับเพื่อนบ้านแทบทั้งหมด ส่วนมากก็รักใคร่ปรองดองกันดีค่ะ ยกเว้นแต่พวกที่เพิ่งย้ายมาอยู่ใหม่ๆ กับพวกเกะ กะระรานแต่ก็ไม่ได้มายุ่งเกี่ยวกับพวกเรา

เรื่องน่ากลัวเกิดขึ้นจากเพื่อนบ้านใกล้ๆ กันนี่เอง!

น้านพกับน้าฝน มีลูกชายวัยรุ่นอยู่คนเดียวชื่อน้องว่าน (นามสมมตินะคะ) น้านพเป็นพนักงานรัฐวิสาห กิจในระดับสูง อายุราว 50 ปี ส่วนน้าฝนเคยทำงานบริษัทประกันชีวิตมาก่อน ระยะหลังสุขภาพไม่ดีจึงลาออกมาเป็นแม่บ้านอย่างเดียว

ครอบครัวนี้น่ารักน่าคบทุกคน น้านพขาวท้วม นิสัยร่าเริงและใจดี น้องว่านก็ผิวคล้ำ หน้าเข้มคล้ายแม่ กำลังเรียนม.ปลาย ดูแล้วก็น่าจะเป็นชีวิตที่ลงตัวดีนะคะ

แต่แล้วมหันตภัยเอดส์ก็มาเยือนค่ะ!

เพื่อนบ้านแทบช็อกไปตามๆ กัน เมื่อรู้ข่าวว่าคนที่เรารู้จักมักคุ้นมานาน ดูจะมีความสุขอย่างน่าอิจฉา จะตกเป็นเหยื่อของโรคร้ายที่สังคมรังเกียจอย่างไม่นึกไม่ฝัน

ที่น่าขนหัวลุกยิ่งกว่านั้นก็คือ...คนที่เป็นเอดส์คือน้านพค่ะ ไม่ใช่น้องว่าน!

น้าฝนสนิทกับที่บ้านเคยมาปรับทุกข์กับแม่ดิฉัน เธอเล่าทั้งน้ำตาว่าน้านพมีเพื่อนฝูงมากมาย ไหนจะลูกน้องอีกล่ะ ล้วนแต่ชักชวนกันเที่ยวเตร่ ดื่มเหล้าแล้วอดเสเพลไม่ได้ ความเมามายทำให้คึกคะนองจนลืมป้อง กันไว้ จนน้านพติดเชื้อร้ายโดยไม่รู้ตัว

เราเพิ่งนึกได้ว่าน้านพที่เคยขาวท้วมกลับผอมซูบในระยะหลังๆ มีแต่คนทักว่าหุ่นดี...ดูเป็นหนุ่มเหมือนอายุ 40 ต้นๆ ไม่นึกว่าจะติดเอดส์หรอกค่ะ

ผ่ายผอมและดำคล้ำ หน้าตาซูบซีดผิดกว่าเดิมเป็นคนละคน!

ถือว่าโชคดีอยู่อย่างที่น้าฝนไม่ได้ติดเอดส์จากสามี แต่เธอกับลูกชายก็เดือดร้อนกันสุดชีวิตแล้วนะคะ

น้านพเวียนเข้าเวียนออกโรงพยาบาลนับครั้งไม่ถ้วน พ่อแม่ดิฉันเคยไปเยี่ยม 2-3 ครั้ง กลับมาก็หดหู่จนแทบพูดอะไรไม่ออก ข้างน้าฝนก็ใจถึง ไม่เคยต่อว่าต่อขานสามีเลยแม้แต่คำเดียว ใครถามก็ตอบสั้นๆ ว่า...เรื่องมันเกิดขึ้นแล้ว พูดไปก็ไม่มีประโยชน์อะไรหรอก

เธอทำงานบ้าน ปรนนิบัติสามี ดูแลลูกเต้าตัวเป็นเกลียว จนกระทั่งน้านพไปสิ้นใจที่โรงพยาบาล หลังจากทุกข์ทรมานมาเกือบ 3 ปี

น้าฝนคงจะทำใจได้แล้วละค่ะ หลังจากบำเพ็ญกุศลเผาศพ นำอังคารไปลอยที่ทะเล สองแม่ลูกก็ใช้ชีวิตกันต่อไป แม้ว่าบ้านช่องจะเงียบเหงาเพราะขาดพ่อบ้านก็ตาม

ราวหนึ่งเดือนเศษผ่านไปก็เกิดเรื่องน่าขนหัวลุกขึ้นมา!

รถยนต์ที่น้านพเคยใช้เป็นประจำ ตอนหลังน้าฝนเป็นคนใช้ตั้งแต่สามีป่วยหนักจนเข้าโรงพยาบาลระยะแรกๆ มาแล้ว....จู่ๆ มันก็ดังกระหึ่มขึ้นกลางดึก เพื่อนบ้านได้ยินก็ไม่สนใจ คิดว่าน้าฝนเพิ่งกลับจากธุระ แต่น้าฝนมาเล่าเองว่าเธอกับลูกชายสะดุ้งตื่นลุกขึ้นมาดูอย่างตกตะลึงจนเครื่องยนต์ดับเงียบไปเอง

แม่ดิฉันบอกว่าน้านพคงกลับมาเยี่ยมลูกเมีย ส่วนพ่อแนะนำให้น้าฝนทำบุญอุทิศส่วนกุศลไปให้ หลังจากนั้นเสียงสยองขวัญก็ไม่ปรากฏขึ้นอีกเลย

แต่แล้วก็เกิดเรื่องน่ากลัวขึ้นอีก คราวนี้หนักกว่าเก่า...คนในซอยลือกันว่าผ่านมาตอนดึกๆ เห็นผู้ชายผ่ายผอม ดำเกรียมราวซากศพเดินวนเวียนไปมาอยู่หน้าบ้านน้าฝน ส่วนคนที่สนิทกับครอบครัวนี้ยืนยันว่าเป็นน้านพแน่ๆ เพราะเคยเห็นก่อนจะเสียชีวิต

คืนหนึ่งดิฉันก็พบเรื่องขนหัวลุกกับตัวเองค่ะ!

คืนนั้นดิฉันกลับบ้านราวสี่ทุ่มเศษ ยังมีรถราและผู้คนผ่านไปมา พอลงจากแท็กซี่ก็หันไปมองทางบ้านน้าฝนเหมือนมีอะไรดลใจ

เชื่อไหมคะ มีคนเดินผ่าน 2-3 คนด้วยซ้ำ แต่ดิฉันเห็นร่างใครไม่ทราบนั่งกอดเข่าอยู่หน้าประตู ใต่ร่มแสงจันทร์ริมรั้ว ใจนึกวูบถึงน้านพเล่นเอาขาสั่น มือเท้าเย็นเฉียบ ปากคอแห้งผากไปหมด...

ก่อนจะหันเข้าบ้าน ใครคนนั้นก็เงยหน้าขึ้นช้าๆ มองมา...น้านพจริงๆ ค่ะ!

รุ่งเช้า ดิฉันรีบใส่บาตร กรวดน้ำอุทิศส่วนกุศลให้ทันที บางคนบอกว่าเป็นวิญญาณบาปมาขอลุแก่โทษ แต่ดิฉันคิดว่าเป็นวิญญาณที่น่าเวทนามากกว่า...ขนหัวลุกค่ะ!



ขอบคุณเรื่องเล่าจากข่าวสด


เครดิต :

ข่าวดารา ข่าวในกระแส บน Facebook อัพเดตไว เร็วทันใจ คลิกที่นี่!!
กระทู้เด็ดน่าแชร์