ไปงมกุ้ง

"เด็กดอง" เล่าประสบการณ์ขนหัวลุกจากปากคลองสาทร

สมัยนั้นผมเป็นเด็กบางรัก เพื่อนฝูงเยอะแยะ มีรุ่นพี่ที่รุ่นน้องชื่นชมมากคือพี่เทพ ลูกชายครูทิพย์นั่นเอง

พี่เทพดังตั้งแต่เป็นวัยรุ่นจนถึงเบญจเพส หน้าตาหล่อเหลา รูปร่างสูงโปร่งแต่ล่ำสันสมชาย นิสัยนักสู้ตัวจริง หัวใจเกินร้อย สาวๆ ห้อมล้อมเกรียวกราวน่าอิจฉา สมัยนี้บอกว่ากรี๊ด...สลบ!

นักเลงสมัยก่อนคุ้มครองถิ่นตนได้ นอกจากจะไม่ก่อความเดือดร้อนให้ทางบ้าน ไม่รังแกรุ่นน้อง แล้วยังช่วยปกป้องอีกต่างหาก

ปากคลองสาทรคือสวนสนุกของพวกเราครับ ใกล้ๆ กันมีศาลเจ้ากับโรงข้าวชื่อดัง แพซุงก็เพียบ พวกเราไปกระโดดน้ำเล่นตูมๆ ตามอย่างรุ่นพี่เขา ว่ายไปเกาะเรือโยงทวนน้ำเป็นโขยง ขากลับก็ลอยคอตามน้ำมาสบายๆ ไม่เหนื่อยแรง

ที่แพซุงเคยมีคนพลั้งพลาดหล่นผลุบลงไป...กลายเป็นศพน่าอนาถที่สุด!

สาเหตุเพราะแกโผล่ขึ้นมาตามช่องว่าง ระหว่างท่อนซุงขนาดสองคนโอบ ถ้ารีบสูดอากาศเข้าปอดแล้วดำน้ำหาทางออกอาจจะรอดตาย แต่คลื่นกระแทกจนโดนซุงสองท่อนบี้กะโหลกแตก...นึกถึงภาพทุบมะพร้าวดังโพละแล้วขนหัวลุกครับ

ศพที่ลอยขึ้นวันต่อมาคือหลักฐานที่บอกให้รู้ ว่าคนชะตาขาดประสบกับมรณะน่าสยดสยองปานใด...ใครรักสนุกอยากกระโดดน้ำให้มันส์ๆ ก็ต้องเสี่ยง ระวังตัวเอาเอง

ในคลองสาทรก็เป็นแหล่งสำราญของพวกเรา มีเรือข้าวเข้ามาเขาก็ปิดประตูระบายน้ำออก พวกเราก็โดดน้ำงมกุ้งกันเพลิดเพลิน มีเสาตอม่อที่กุ้งนางกับกุ้งก้ามกรามเกาะกันเต็ม ลูบปราดเข้าไปเป็นได้กุ้งตัวโตๆ ติดมือขึ้นมาแน่นอน

ที่ชุกชุมเหลือเชื่อคือหอยขมครับ แต่สมัยนั้นชาวบ้านยังไม่นิยมกินกัน ไหนจะปลาสังกะวาด (เราเรียกปลาแขยง) ก็ชุมน่าดู ใครโดนมันยักถึงกับร้องจ้า วิ่งขึ้นมาหากะลาทุบแผล เหมือนคนโดนหมากัดใช้รองเท้าตบรอยเขี้ยวน่ะแหละ เชื่อว่าช่วยบรรเทาพิษปวดชะงัดนัก

พวกผู้ใหญ่เขาก็ออกเรือตกกุ้งบ้าง ทอดแหบ้าง ตกปลากระทิงบ้าง...ตอนเด็กๆ เห็นหนังลายน่าเกลียดจนไม่อยากกิน ที่ไหนได้ล่ะ พอลิ้มรสเข้าไปหน่อยก็ติดอกติดใจในเนื้อเหนียวหนับเข้าจนได้

แม่น้ำเจ้าพระยายุคนั้นไม่ถึงกับใสแจ๋ว แต่ก็ยังไม่ขุ่นคลั่กอย่างทุกวันนี้ดอกครับ

เวลาดำน้ำงมกุ้งน่าสนุกที่สุด เพราะได้ทั้งเล่นกับได้กุ้งเนื้อหวานๆ มากินด้วย...ยิ่งดำบ่อยๆ เข้าก็ยิ่งชำนาญ ช่ำชองกับโลกใต้น้ำเงียบเชียบ มองดูกุ้ง หอย ปู ปลาเพลิดเพลิน...วิเวกวังเวงดีจัง

พี่เทพ-วีรบุรุษประจำใจของผมน่ะซีครับ กลายเป็นสาเหตุพวกเราหมดกะจิตกะใจเล่นน้ำ-ดำน้ำงมกุ้งไปหลายวัน!

หน้าหนาวปีนั้น พี่เทพกับเพื่อนๆ แข่งกันว่ายข้ามแม่น้ำ พวกรุ่นน้องก็ตั้งกองเชียร์อยู่บนแพซุง พวกตกกุ้งตกปลารุ่นน้ารุ่นลุงก็พลอยชะเง้อคอมองแบบช่วยลุ้นด้วยเช่นกัน

เสียงเฮๆ กับเสียงเรือหางยาว เสียงคลื่นกระทบแพซุง ผสมผสานกันแทบไม่ขาดระยะ จนพวกแข่งว่ายน้ำกำลังจ้ำพรวดๆ กลับมาค่อนทาง...แต่พี่เทพหายไปซะแล้ว

จมน้ำตายครับ!!

สาเหตุเพราะโดนตะคริวกิน มารู้ทีหลังว่าแกเคยเป็นตะคริวมาก่อน แต่อยู่ใกล้ฝั่งกับมีคนเห็นเลยรอดตายหวุดหวิด เขาว่าคนที่เคยเป็นตะคริวแล้วมักจะเป็นบ่อยๆ พี่เทพจะลืมตัวไปหรือเพราะใจเกินร้อยก็ไม่ทราบ แต่ทำให้เอาชีวิตในวัยหนุ่มแน่นไปสังเวยแม่น้ำเจ้าพระยาอย่างน่าสลดใจ

กาลเวลาช่วยรักษาบาดแผลทุกอย่างได้ดีที่สุด ไม่ช้าพวกเราก็ลงเล่นน้ำกันอีก...ทั้งโดดแพซุงด้วยท่าพิสดาร ทั้งว่ายน้ำเกาะเรือโยง ทั้งดำน้ำงมกุ้งไปให้แม่ทำกับข้าวบ้าง ทำกับแกล้มให้พ่อบ้าง...พล่ากุ้งอร่อยแค่ไหนคงไม่ต้องบอกนะครับ

เย็นวันเกิดเหตุ! ผมดำน้ำลงไป 2-3 ครั้งแต่ไม่เจอกุ้งเลย ทั้งๆ ที่หน้าหนาวกุ้งชุมชะมัด พวกเพื่อนๆ ที่โผล่ขึ้นมาก็ส่ายหน้ากันทุกคน...น้ำเย็นเฉียบจนขนลุก ผมกลั้นใจดำวูบลงไปอีกครั้ง... ภาพนั้นก็ปรากฏขึ้นในม่านตา และยัง ชัดเจนตราตรึงมาถึงทุกวันนี้

พี่เทพรูปหล่อหน้าขาวซีด ผมยาวสยายอยู่ในน้ำคล้ายสาหร่าย นัยน์ตาดำโตฉายแววเศร้าจ้องมอง ปากอ้าเผยอ โบกมือช้าๆ เหมือนจะกล่าวคำอำลา

ผมทะลึ่งพรวดขึ้นมาได้ กระเส่าอากาศเข้าปอด ตะลีตะลานขึ้นฝั่งแทบไม่ทัน ซบหน้ากับฝ่ามือน้ำตาไหลพราก...ไม่รู้ว่าโศกเศร้าถึงพี่เทพ หรือหวาดกลัวแทบจะขาดใจตายกันแน่ครับ?!

ไปงมกุ้ง

เครดิต :
 

ข่าวดารา ข่าวในกระแส บน Facebook อัพเดตไว เร็วทันใจ คลิกที่นี่!!
กระทู้เด็ดน่าแชร์