ผมเป็นคนนนทบุรี ดินแดนทุเรียนชื่อดังระเบิดในอดีต ขนาดมีสวนทุเรียนราวสี่ซ้าห้าหมื่นไร่ก็แล้วกัน เดี๋ยวนี้กลายเป็นบ้านจัดสรร คอนโดฯ กับตึกรามโอ่อ่าจนแทบจะไม่เหลือซากอีกต่อไป...ไม่อยากเอ่ยถึงให้ช้ำใจเปล่าๆ ครับ
พวกเพื่อนฝูงผมฉวยโอกาสตอนพ่อแม่ขายสวนทุเรียน ถอยรถเก๋งมั่ง มอเตอร์ไซค์มั่ง โชคดีก็ได้บวช ได้แต่งงาน มีครอบครัวเป็นหลักเป็นฐาน แต่มีหลายคนที่รถเก๋งพามันเตลิดเข้ารกเข้าพง ไอ้ที่ขี่มอเตอร์ไซค์ซิ่งเกิดอุบัติเหตุ หัวแตก แข้งขาหัก...ล้มตายไปถึงสามคน
อย่างว่าล่ะครับ คนเรา! ที่ตายก็ตายไป ที่อยู่ก็เอากันไป...เผาหรือฝังตามสะดวก ผมซื้อปิกอัพมาใช้งานได้หลายปี เซ้งที่ขายของในตลาดเอาไว้เป็นแหล่งทำมาหากินต่อไป
ผมเจอเรื่องขนหัวลุกจังๆ เมื่อสงกรานต์ที่ผ่านมานี่เองครับ!
เจ้าป๋องเพื่อนผมมาจากปทุมฯ พาน้องชื่อแป๋วมาเที่ยวสงกรานต์เมืองนนท์ตั้งแต่วันแรก เพื่อนอีกคนชื่อเจ้าเจียงกับน้องสาวชื่อเจี๊ยบ บ้านอยู่ใกล้ๆ ร้านข้าวต้ม 'อ้วน-ผอม' เชิงสะพานก็มาร่วมสนุกในเทศกาลนี้ด้วย ตามประสาหนุ่มสาววัยต้นสามสิบ สนุกกันสุดๆ
ใครจะว่ายังไงก็ตาม แต่พวกผมคิดว่าเล่นสงกรานต์ทั้งที แป้งกับน้ำเป็นของคู่กันมาแต่ไหนแต่ไรแล้ว อย่ามาห้ามเล่นแป้งกันซะให้ยาก...เราเล่นกันมาสิบกว่าปีแล้วนะครับ
แต่ถ้าถึงกับเอาน้ำแข็งใส่ถังน้ำ แล้วขึ้นรถกระบะไล่สาดจนผู้คนสะดุ้งโหยง หรือใช้น้ำแข็งเป็นก้อนๆ ตักสาดใส่คนอื่นมันก็เลยเถิดเกินไป
กลางวันแสกๆ สาดน้ำกันสนุกอยู่ดีๆ ก็ต้องหนาวสั่นจนขนลุกกันไปหมด!
เราปักหลักอยู่แถวสี่แยก คนเยอะ รถราขวักไขว่ เล่นสาดน้ำ ฉีดน้ำ ประแป้งกันพอหอมปากหอมคอ พวกบนรถสาดโครมลงมา เราก็จ้องสาดกระจายขึ้นไป...ยัยแป๋วกับเจี๊ยบหน้าขาววอก แต่สองสาวนี่ใจถึง บอกว่านานทีปีหนไม่เป็นไร! แถมมีปืนฉีดน้ำกระบอกโตสีสวยๆ คอยฉีดใส่คนผ่านไปมาสนุกสนาน
ถ้าเป็นมอเตอร์ไซค์พวกเราไม่สาดน้ำใส่หรอกครับ เดี๋ยวเกิดอุบัติเหตุเปล่าๆ ถนนเปียกโชกยิ่งลื่นมากด้วย แต่สองสาวใช้ปืนฉีดน้ำให้เขาก้มหลบก็เหลือแหล่จะพอ!
ตรงกันข้าม ถ้าเป็นรถกระบะต้องระวังให้ดี เพื่อนจ้องสาดโครมคราม ยิ่งเห็นสาวๆ เสื้อผ้าเปียกโชกรัดรูปแนบเนื้อ ถึงจะไม่โป๊แป๊อะไรเพื่อนก็อยากสาด...เรื่องแบบนี้พอจะเข้าใจกันได้ เราก็ต้องสาดไว้ก่อน สองสาวคอยเอี้ยวตัวหลบ หลังจากใช้อาวุธยาวฉีดน้ำใส่เอากำไรไว้ล่วงหน้าแล้ว
ถนนโชกชุ่มนองน้ำ เสียงหัวเราะเฮฮาดังก้อง ระคนกับเสียงสาวๆ แส้ๆ ร้องวี้ดว้าย...ได้บรรยากาศของเทศกาลแห่งความสนุกสนานดีนักแล!
ทันใดนั้นเอง รถกระบะคันหนึ่งก็โฉบเข้ามา มีทั้งหนุ่มสาวและเด็กๆ เกือบสิบคนเรียกว่าอัดกันเกือบเต็มรถเลย ผมกับเจ้าป๋องและเจ้าเจียงถือขันน้ำรอคอยอยู่แล้ว ยัยแป๋วกับยัยเจี๊ยบก็สูบน้ำใส่ปืนกระบอกเป้งเต็มอัตราศึก...
เดี๋ยวเหอะ รายการมันส์หยดต้องอุบัติขึ้นแน่ๆ
จริงดังคาด รถคันนั้นชะลอลง ก่อนที่น้ำเย็นเฉียบจะสาดโครมครามเข้าใส่ แต่เรารู้ทันครับ แม้คนจะน้อยกว่าก็เถอะ ไหนจะพรรคพวกที่อยู่ใกล้ๆ กันอีกล่ะ ไม่มีใครยอมแพ้ง่ายๆ หรอกน่า งานนี้น่ะ!
จู่ๆ ก็มีไอ้หนุ่มชุดดำ ผมดำหนาเปียกโชกติดหนังหัว โดนผางลงมาพร้อมกับขันน้ำสีเหลืองอ๋อย...ปรากฏว่ามันคือแป้งที่ละลายไว้เรียบร้อยแล้ว ปรี่เข้ามาละเลงหน้าทาแก้มสองสาวของเรายังตั้งเนื้อตั้งตัวไม่ทัน
แสงแดดเลือนรางจางหายเพราะมีก้อนเมฆลอยมาบดบังแสงอาทิตย์ แต่ผมก็ยังมองเห็นสิ่งต่างๆ ได้ถนัดชัดเจน!
นั่นคือ ยัยแป๋วกับยัยเจี๊ยบทั้งหัวเราะทั้งเอียงหน้าหลบวุ่นวาย แต่ไอ้หนุ่มนั่นแสดงอาการหื่นบ้าด้วยมือไม้ที่ลามปามละเลงแป้งมาถึงเนินอก ทำท่าว่าจะคลึงคลำขยำขยี้ด้วยอารมณ์ห่ามหื่น บ้าคลั่งจนไม่ยอมระงับยับยั้งใดๆ ทั้งสิ้น
พวกเราฉุนขาด เหวี่ยงขันทิ้ง เจ้าป๋องกับเจ้าเจียงร้องด่า ปราดเข้าจะเล่นงานมันให้สาสมแต่ไอ้บ้านั่นวิ่งถอยหลังไปหารถที่แล่นห่างไปแล้ว...เอ๊ะ! ยังไง?
ทุกคนหยุดชะงัก จ้องมองภาพนั้นด้วยความงุนงงสุดขีด!
อ๋อ...ร่งมันค่อยๆ เลือนหายไปต่อหน้าต่อตาเรา เล่นเอาสองสาวร้องวี้ดสุดเสียงเป็นลมล้มพับไปทันที...
สงกรานต์ปีนี้สนุกถึงใจเหลือหลาย ขนาดมีผีโผล่มาเล่นสาดน้ำละเลงแป้งกับพวกเราอีกด้วย จะเอายังไงล่ะ...ขนหัวลุกไปตามๆ กันน่ะซีครับ! บรื๋ออออ...