สมัยหนุ่ม ผมยอมรับว่าตัวเองเป็นชายเสเพลอย่างเต็มปากเต็มคำ ทั้งสุรา นารี เที่ยวเตร่ หาความสนุกสนานตามที่ตัวเองต้องการเต็มที่ โดยไม่ได้คิดถึงอนาคตว่าจะเป็นยังไง? แบบไหน? แต่ดีอย่างที่ไม่ชอบการพนันทุกชนิด
สิ่งโปรดปรานสุดๆ ก็คือนารี ที่สมัยนี้นิยมเรียกสั้นๆ แบบโจ๋ว่า "หญิง" นั่นล่ะครับ
พูดก็พูดเถอะ อย่าหาว่าโม้หรือฝอยเลยน่า แต่ว่าดวงผมมันฉมังทางนี้จริงๆ ไม่ว่าจะเป็นที่ไหน เมื่อไหร่ จะเป็นยามเงินหนาหรือกระเป๋าเบาโหวง แต่เรื่องสาวแก่แม่ม่ายไม่เคยขัดสนเลย
เรื่องมีแฟนพร้อมกันทีละ 2-3 คนถือว่าปกติมาก มีปัญหาสับหลีกไม่ทันจนรถไฟชนกันหนสองหน...งานนี้ไม่แฮปปี้เท่าไหร่ แต่ก็ผ่านไปเรียบร้อย
ผมเคยอ่านพบในหิโตปเทศในทำนองว่า
"วลาหกมักตกต้องในป่าเขา หรือในมหาสมุทร (ทำให้) ไร้ค่า พระแม่อุมาประทานยศศักดิ์ให้ชายต่ำต้อย พระแม่สรัสวดีก็พลอยโปรดปรานชายต่ำศักดิ์ นารีมักชอบสมานสมัครด้วยชายตลบแตลง แคล่วคล่องในการเจรจา"
จนกระทั่งถึงรายล่าสุดที่เกิดเรื่องไม่คาดฝันขึ้นมาดื้อๆ
ตอนนั้นผมยังโสดแต่ไม่สดอยู่กับพ่อแม่ที่คลองตัน รู้จักกับ "อุ๋ม" สาวสวยหุ่นเซ็กซี่ แววตาขี้เล่นที่ทำงานอยู่ใกล้ๆ กันแถวถนนอโศก ตอนแรกก็ไปกินไปเที่ยวกับเพื่อนๆ เหล่กันไปเหล่กันมาไม่กี่ครั้งเราก็นัดพบกันสองต่อสอง...ไม่ช้าไม่นานก็ไปลงเอยกันในม่านรูดเงียบเชียบจนได้
ระยะแรกๆ ไม่ว่าอะไรก็สวยสดงดงามไปหมด อย่างที่เขาเรียกว่า "ข้าวใหม่ปลามัน" นั่นแหละครับ แต่ไม่ช้าความเคยชินก็ทำให้รู้สึกซ้ำซากจำเจ ไม่มีความตื่นเต้นและตื่นตาตื่นใจเหมือนเมื่อตอนถึงเลือดถึงเนื้อกันใหม่ๆ
สาวสวยหน้าใหม่หมุนเวียนเข้ามาในชีวิต...เรียกว่าตามดวงก็แล้วกันครับ
ส่วนมากพวกเธอไม่ค่อยแยแสอดีต หรือประวัติอื้อฉาวคาวโลกีย์ ที่บางคนเห็นว่าน่ารังเกียจของผู้ชายแบบผม ตรงกันข้าม พวกเธออาจจะคิดว่าเป็นสิ่งน่าท้าทาย ลองดีว่าตัวเองจะ "เอาอยู่" จนทำให้ชายเสเพลสิ้นฤทธิ์หรือเปล่า?
ผมเริ่มห่างจากอุ๋มไปเรื่อยๆ มัวแต่เสาะหาความเกษมสำราญกับสาวๆ หน้าใหม่ ไม่ว่าอะไรๆ ก็ใหม่เอี่ยมอ่องสำหรับความรู้สึกไปทั้งหมด...แต่แล้วจู่ๆ อุ๋มก็มาดักพบที่หน้าบริษัทตอนเย็น ตรงกับวันที่ผมมีนัดกับสาวคนล่าสุดที่เพิ่งแลกเลือดแลกเนื้อกันมาแค่ 2 ครั้งเท่านั้นเอง
อุ๋มบอกว่าเธอตั้งครรภ์ได้ 3 เดือนกว่า ผมถามว่าท้องกับแฟนใหม่หรือ? บอกเขารึยัง? อุ๋มหน้าขาวซีดก่อนจะแดงก่ำ น้ำตาเอ่อคลอ ยืนยันเสียงสะอื้นว่าท้องกับผม...ขอให้รับผิดชอบด้วย!
ผมตกใจนิดหน่อย แต่พูดเสียงแข็งว่าไม่เชื่อ...เป็นไปไม่ได้ เพราะไม่ได้ยุ่งเกี่ยวกับเธอหลายเดือนแล้ว! อารามร้อนใจที่จะไปพบแฟนใหม่ ทำให้ผมโพล่งออกไปว่า
"อย่ามาโยนบาปให้พี่ดีกว่า อุ๋มท้องกับใครก็ไปบอกให้เขารับซี่...ถ้าเขาไม่รับก็เอาเด็กออกซะ ตอนนี้ยังไม่สาย แต่ต้องรีบหน่อยนะ!"
แล้วผมก็รีบชิ่งทันใด...จนราว 2-3 วันต่อมาถึงได้เห็นข่าวในหนังสือพิมพ์กับทีวีว่าอุ๋มไปทำแท้งกับหมอเถื่อน... ตกเลือดตายคาเตียงในคลินิกแถวห้วยขวางนี่เอง!
ยอมรับว่าใจหายวูบ อดคิดไม่ได้ว่าเด็กในท้องเธอจะเป็นลูกของผมหรือเปล่า? แต่บอกตัวเองว่าคิดมากไปก็เท่านั้น ทุกสิ่งสายไปแล้ว อุ๋มจบสิ้นบทบาทในโลกมนุษย์แล้ว แต่คนที่ยังอยู่ต้องดำเนินชีวิตต่อไปจนกว่าจะถึงวันนั้น...
เมื่อเวลาผ่านไปราวหนึ่งเดือนก็มีสิ่งแปลกประหลาด เกิดขึ้น
เพื่อนบ้านทักว่า เวลาผมไปไหนมาไหนมักจะเห็นผู้หญิงสวยๆ อุ้มลูกเดินตามมาด้วยแทบทุกครั้ง สงสัยจะแอบมีเมียมีลูกแล้ว ไม่เห็นบอกกล่าวกันมั่งเลย! ผมก็หัวเราะ ไม่คิดอะไรมาก
ที่ทำงานก็เช่นกัน...เพื่อนฝูงแซวว่าเดี๋ยวนี้แฟนอุ้มลูกมารอรับถึงหน้าบริษัทเชียวนะ...แฟนน่ะดูคุ้นๆ หน้า แต่นึกไม่ออกว่าเคยเห็นที่ไหนมาก่อน
บางคืน...ผมฝันเห็นอุ๋มอุ้มทารกตัวแดงมายืนร้องไห้อยู่ข้างๆ เตียง เล่นเอาตกใจจนสะดุ้งตื่นเหงื่อแตกพลั่ก แต่ในห้องอันเยือกเย็นก็มีแต่ความว่างเปล่า แว่วเสียงใครถอนใจยาวอยู่ใกล้หู กลิ่นน้ำหอมที่คุ้นเคยอวลซ่านน่าขนลุกขนพองสิ้นดี
บางคืนก็เห็นหลังผู้หญิงไวๆ กำลังเดินลับออกไปจากห้องนอน แต่บางคืนก็ได้ยินเสียงทารกหัวเราะคิกคัก เคล้าระคนมากับเสียงผู้หญิงสะอึกสะอื้นเบาบาง...คนใจร้าย ฆ่าลูกเมียได้ลงคอ!
ระยะหลังๆ ผมแทบกินไม่ได้นอนไม่หลับ ประสาทอ่อน ขวัญผวา จนต้องไปทำบุญที่โรงพยาบาลสงฆ์ บริจาคเงินให้โรงพยาบาลเด็กอุทิศส่วนกุศลให้อุ๋มกับลูก...ภาพและเสียงสยองขวัญจึงค่อยๆ ห่างหายไป...ทุกวันนี้นึกถึงแล้วยังขนหัวลุกอยู่เลยครับ