ยุพพง-มักจะหัวเราะงอหาย หัวเราะแทบท้องคัดท้องแข็งทุกที หลังจากงานศพของน้องชายผมผ่านไปเกือบปี เมื่อผมยืนยันกับเธออย่างมั่นใจว่า...เราจะไม่มีวันพรากจากกันจนกว่าจะถึงวันตาย! ไม่รู้ว่าหล่อนขบขันอะไรนักหนา ทั้งๆ ที่เราครองคู่อยู่กินกันอย่างเปิดเผยมาเกือบสามเดือนแล้ว
"จริงๆ นะ ยุพ พี่จะรักยุพคนเดียวไปจนถึงวันตาย! ต่อให้ยุพตายไปแล้วพี่ก็จะจงรักภักดี มียุพอยู่ในหัวใจพี่ไปตลอดกาล"
คราวนี้ยุพยงหัวเราะแทบชักดิ้นชักงอ หัวเราะชนิดน้ำหูน้ำตาไหล หัวเราะคล้ายบ้าคลั่งจนบ้านไม้สองชั้นเก่าๆ ของผมเกือบจะสะท้านสะเทือนเพราะเสียงหัวเราะดังลั่น
"โอ๊ย! ตลกว่ะ ตลกชิบเป๋ง! ผัวชั้นนี่พูดจาตลกจนน่าจะไปหาแด...ทางตลกมากกว่ามานั่งหลังขดหลังแข็ง แต่งหนังสือบ้าๆ บอๆ ไปวันๆ แถมอ่านไม่รู้เรื่องอีกต่างหาก"
ผมไม่ถือสาหรอกครับ ใครจะถือสาคนที่เขามอบความรักใคร่อย่างดูดดื่มลึกซึ้งจงรักภักดีเหมือนหมาที่มีต่อเจ้าของได้ลงคอ...
น้องชายผมไปพบยุพยงระหว่างที่ไปติดต่อกับลูกค้า...ยุพยงกำลังสวมบทเศร้าโศกของหญิงม่ายแสนสวย ผู้เพิ่งสูญเสียสามีเพราะการจ่อปากกระบอกปืนเข้าที่ขมับตัวเองแล้วลั่นไก...ดูเหมือนจะหลังจากการเป็นปากเสียงรุนแรง เมื่อเขาจับได้ว่าหล่อนคบชู้สู่ชาย!
เซลส์แมนหนุ่มรูปหล่อเลยติดต่อยุพยงอยู่ระยะสั้นๆ ก่อนจะรับหล่อนมาร่วมชีวิตในห้องเช่าชานกรุง...แม่ม่ายหมาดๆ โยนบทโศกทิ้งไม่ไยดี แต่งตัววับๆ แวมๆ แต่งหน้าทาปากฉูดฉาด บ่งบอกนิสัยดั้งเดิมของหล่อนโดยไม่ปิดบังอำพราง
ดื่มเหล้า เที่ยวเตร่ ควงคู่กับผู้ชายแปลกหน้า หนักเข้าก็ใช้เวลาจมอยู่ในบ่อนชนิดไม่ลืมหูลืมตา เมื่อหมดเนื้อหมดตัว หล่อนก็พร้อมจะทอดกายให้ใครก็ได้เพื่อหาเงินมาเดิมพันต่อไป...จนกระทั่งน้องชายผมตกบันไดคอหักตาย โดยไม่อาจพิสูจน์ได้ว่าเป็นอุบัติเหตุหรือเปล่า?
เผาศพน้องชายแล้ว ผมก็รับยุพยงมาอยู่ด้วยในบ้านเปล่าเปลี่ยวที่มีป้าอิ่มเป็นแม่บ้านให้ผมมาสิบกว่าปีแล้ว
ใช่ว่าไม่รู้จักยุพยงตั้งแต่เบื้องนอกจนถึงจิตใจหรือสันดานเดิม แต่เพราะอะไรก็ตามทำให้ผมลุ่มหลงหล่อนจนโงหัวไม่ขึ้น ความประสงค์ทุกอย่างของหล่อนไม่ผิดกับบัญชาของมูลนายที่ผมจะต้องเคารพและรับคำสั่งโดยไม่คิดจะบิดพลิ้ว
"เราจะอยู่ด้วยกันจนวันตายนะยุพยง พี่รักเธอยิ่งกว่าชีวิตของตัวเองด้วยซ้ำไป"
หญิงสาวหัวเราะงอหาย...หัวเราะจนหน้าอกหน้าใจพุ่งโชนแทบจะพลัดออกมานอกเสื้อ...หน้าอกอวบอัด สะเอวกิ่วบางและสะโพกหนั่นหนางอนงาม ไม่ผิดอะไรกับแม่เหล็กแท่งใหญ่ที่ดึงดูดผมเข้าไปหาโดยไม่มีวันสลัดพ้น
หล่อนแต่งตัวโป๊ๆ ตามเคย...วานผมรูดซิปกระโปรงด้วยซ้ำ ก่อนจะเสยผมที่ท้ายทอย สะบัดหน้าเดินบิดสะโพกออกไปหาหนุ่มแปลกหน้าที่ขับรถมารอคอยหน้าบ้าน
ผมกล้ำกลืนความเจ็บปวดลงคออย่างยากเย็น...หันไปเห็นป้าอิ่มที่มองมาเศร้าๆ ก็ต้องหลบตาแก แล้วกลืนน้ำลาย!
"ไปเปิดตู้เย็นเอาน้ำมากินก่อน! อย่ามาถามนะว่าไปไหนมา รำคาญ!"
หล่อนตวาดเมื่อถึงบ้านตอนดึก เสื้อผ้ายู่ยี่กลิ่นเหล้าและบุหรี่อบอวล "อยากรู้นักก็ตามไปดูซี่...พี่มีเงินทองให้ฉันใช้พอหรือเปล่าล่ะ? ไม่ใช่ว่าฉันจะโง่ให้ไอ้พวกนั้นตักตวงความสุขข้างเดียวนะ พวกมันต้องจ่ายเงินให้ฉันด้วย! เข้าใจ๋...เอ้า! คราวนี้ช่วยนวดหลังกับก้นกบหน่อย...เมื่อยชิบเป๋ง! ไม่รู้ว่ามันเอาเรี่ยวแรงมาจากไหน?"
เบ้าตาแสบร้อนไปหมดขณะที่ก้มหน้าส่งแก้วน้ำเย็นให้หล่อน
"ขอบใจนะบ๋อย! เอ้า...รีบมานวดเร็วๆ เดี๋ยวจะให้ทิปที่พี่อยากได้มาหลายคืนแล้วไงล่ะ" ยุพยงแหงนหน้าขึ้นหัวเราะชอบใจเหมือนสุขสำราญ...ขบขันผัวหล่อนเต็มประดา!
แสงไฟยามดึกสว่างโพลงและเยือกเย็น...สรรพสิ่งเงียบเชียบชวนให้วังเวงใจ แว่วเสียงสะอื้นเบาๆ มาจากห้องชั้นล่าง...ระยะหลังๆ มานี่ป้าอิ่มนอนดึกเกือบทุกคืน ผมบอกตัวเองเหมือนบอกยุพยงมาตลอดเวลาที่เราร่วมชีวิตกัน
"พี่จะรักยุพคนเดียวไปจนวันตาย! ต่อให้ยุพตายไปแล้วพี่ก็จะรักยุพตลอดไป"
ผมยิ้มกับตัวเองขณะที่เดินไปเปิดตู้เย็นในห้องนอน...แสงไฟในนั้นส่องให้เห็นใบหน้าบิดเบี้ยวเหยเกของยุพยงที่หัวขาดแค่คอ รอยตัดราบเรียบด้วยปังตอจากฝีมือป้าอิ่ม นัยน์ตาเบิกถลนจ้องมองมา...ผมชะโงกหน้าเข้าไปจุมพิตหน้าผากขาวผ่องของหล่อนอย่างแสนเสน่หา
"บอกแล้วไงว่าพี่จะรักยุพยงคนเดียว...เราจะไม่มีวันพรากจากกันไปตลอดกาลนะจ๊ะ! ทูนหัว..."