ผมมีเพื่อนฝูงหลายคนที่ไม่เชื่อเรื่องชาตินี้-ชาติหน้า บอกว่ามนุษย์เราก็เหมือนกับสัตว์โลกทั่วๆ ไปที่เกิดจากการสมสู่ของพ่อแม่ แม้ว่าจะมีลักษณะพิเศษกว่าสัตว์ชนิดอื่นๆ ก็ตาม
ไม่ว่าจะมีมันสมองมากกว่า กระบวนการทางความคิดซับซ้อนกว่า เติบโตทางส่วนสูง หัวเราะได้ กินอาหารโดยไม่ต้องหิว และสืบพันธุ์ได้ไม่เลือกฤดูกาล แต่การเกิด แก่ เจ็บ ตาย ก็ไม่แตกต่างกับสัตว์โลกทั้งหลาย
คือตายแล้วก็สาบสูญไปโดยสิ้นเชิง!
คนที่เห็นตรงข้ามก็ยืนยันว่ามนุษย์ตายแล้วเกิด เวียนว่ายอยู่ในวัฏสงสารไม่รู้จบสิ้น
ผมเองยอมรับว่าอยู่กลางๆ เชื่อครึ่งไม่เชื่อครึ่ง ถ้ามีใครมาถามว่ากลัวผีไหม? ก็จะตอบว่ากลัว ทั้งๆ ที่ไม่เคยโดนผีหลอกแม้แต่ครั้งเดียว นอกจากจะได้ยินคนอื่นเล่าให้ฟัง
จนกระทั่งโดนดีเข้ากับตัวเองอย่างจังๆ
เพื่อนผม 2-3 คนที่ไม่เชื่อเรื่องผี โดยมีเหตุผลว่าตายแล้วตายเลยบ้าง ตัวเองยังโดนเผา โดนฝัง แล้วจะไปมีฤทธิ์มีเดชกับใครได้ล่ะ? น่าแปลกที่คนกลุ่มนี้ไม่เคยมีใครโดนผีหลอกซักคน
"ไตร" คือเพื่อนสนิทในกลุ่มนี้เองครับ!
เป็นนายทหารยศพันโท นิสัยเอะอะโผงผาง ถือว่าเป็นคนไม่เชื่อเรื่องผีระดับสุดยอด เคยประกาศตอนเมาดีเข้าไปว่า
"ถ้าผีมาหลอกอั๊วจะไล่เตะมันให้กระเจิง แต่ถ้าเป็นผีผู้หญิงสวยๆ จะปล้ำเอามาทำเมีย"
เพื่อนๆ ที่ไม่เชื่อเรื่องผีหัวเราะชอบใจ ส่วนพวกที่เชื่อก็มองสบตากันอย่างอึดอัด
"อย่าพูดเรื่องนี้เลยน่า" บันเทิงท้วง-เขาอยู่ในกลุ่มที่เชื่อว่าผีมีจริง "ไม่เคยได้ยินที่เขาว่า "ไม่เชื่ออย่าลบหลู่" หรือไงวะ?"
"ได้ยิน!" ไตรตอบเสียงหนักๆ "แต่อั๊วทั้งไม่เชื่อด้วย ทั้งลบหลู่ด้วย-แต่จะพูดไปอีกทีอั๊วก็ไม่เชื่อว่าผีมีจริงอยู่แล้ว ยังงี้จะลบหลู่ได้ยังไง? หรือถ้าผีมีจริงๆ ก็ขอให้มาหลอกอั๊วซึ่งๆ หน้าทีเถอะน่า ถ้ามันทำให้อั๊วกลัวได้อั๊วถึงจะยอมซูฮก ยกนิ้ว...ขอนับถือไปจนตายเลยว่ะ"
จนแล้วจนรอดไตรก็ไม่เคยถูกผีหลอกซักที ทั้งๆ ที่เพื่อนหลายคนแช่งให้โดนก็เถอะครับ
จู่ๆ พ.ท.ไตรก็เกิดอุบัติเหตุขับรถชนเสาไฟฟ้าตายคาที่!!
ถึงจะเป็นคนเอะอะโผงผาง พูดจาตรงไปตรงมา แต่ใจคอโอบอ้อมอารี ไม่เคยทำให้ใครเดือดร้อนทั้งคำพูดและการกระทำ งานศพจึงมีญาติสนิทมิตรสหายมาร่วมงานกันอย่างคับคั่ง ทั้งเจ้านายและลูกน้องสวมเครื่องแบบสะพรั่งไปทั้งวัดตรีฯ
ผมไปทั้งรดน้ำและสวดอภิธรรม มองดูภาพถ่ายยิ้มระรื่นของเพื่อนผู้มีวัยเพียง 45 ปี แล้วใจหายอย่างบอกไม่ถูก...ดูเหมือนไตรจะยิ้มให้ผมพร้อมกับหลิ่วตานิดๆ อย่างล้อเลียน
...คนไม่เชื่อเรื่องผีกลายเป็นผีไปแล้วก่อนถึงวัยอันสมควร!
เสียงสะอึกสะอื้นของพ่อแม่และลูกเมียของไตร ท่ามกลางกลิ่นธูปควันเทียนและบรรยากาศอันเศร้าสลด พลอยทำให้ผมรู้สึกหดหู่และเยือกเย็นวังเวงใจอย่างบอกไม่ถูก
คืนแรกนั่นเอง ไตรก็มาเยี่ยมเยียนถึงบ้าน...
คืนนั้น ผมกับเพื่อนๆ ออกจากวัดไปหาอะไรดื่มกินกัน ทุกคนยังงุนงง หรือช็อกกับการตายกะทันหันของเพื่อนสนิท จนทำให้ไม่ได้พูดคุยถึงเรื่องผีๆ สางๆ กันเลย
จนกระทั่งกลับบ้าน อาบน้ำเข้านอนประมาณสองยาม ไม่ช้าก็เคลิ้มหลับไป...
ผมฝันเห็นไตรกำลังนั่งล้อมวงอยู่ในกลุ่มเพื่อนฝูง พูดคุยกันสนุกถึงเรื่องนั้นเรื่องนี้ ก่อนจะมาลงเอยเรื่องผีๆ สางๆ ไตรยืนยันเสียงแข็งตามเคยว่าเขาไม่เชื่อเรื่องผี-เรื่องเหลวไหล...คนตายแล้วก็เน่าเปื่อยไป ถูกเผาถูกฝังทั้งนั้น จะลุกขึ้นมาหลอกหลอนใครก็ยังไง? พูดบ้าๆ
ในฝันนั้น ผมรู้ดีว่าไตรตายไปแล้ว แต่ไม่ได้นึกหวาดกลัวอะไร จนกระทั่งเขาบอกว่า จะไล่เตะผีผู้ชาย ปล้ำผีผู้หญิงทำเมีย...แล้วหัวเราะเสียงดังลั่นตามเคย!
ผมสะดุ้งตื่นในความมืด ใจเต้นแรงด้วยความหวาดระแวงชอบกล...
เสียงหัวเราะของไตรยังดังอ้อยอิ่งอยู่ในห้อง ตอนแรกคิดว่าเป็นอุปาทาน แต่แว่วเสียงเรียกชื่อผมดังมาจากหน้าต่างข้างเตียง ครันหันขวับไปมองก็แทบจะช็อกคาที่เมื่อเห็นไตรปรากฏอยู่ที่นั่น ใบหน้ามีเลือดไหลโชกน่าขนหัวลุก
"โลกนี้ไม่มีผีสางหรอกว่ะ..." เสียงไตรดังแว่วมา กระทบหู "คนตายไปแล้วก็หมดฤทธิ์ ทำอะไรใครไม่ได้หรอก ระวังแต่คนเป็นๆ เถอะเพื่อนเอ๋ย...ระวังไอ้คนที่มันไม่เคยคิดว่าวันหนึ่งมันจะต้องตาย"
ผมสวดมนต์จนภาพและเสียงน่ากลัวหายไป ทั้งขนหัวลุก ทั้งเลื่อมใสไตรที่ไม่ยอมเชื่อเรื่องผี ทั้งๆ ที่ตัวเองเป็นผีมาหลอกผมอยู่ตำตา!!