ลองของต้องเจอดี !!


ลองของต้องเจอดี !!

เรื่องสยองขวัญที่ผมกับเพื่อนๆ อีก 3 คนได้เจอะเจอเข้าเต็มเปา เกิดขึ้นเมื่อเร็วๆนี้นี่เอง


ขณะนั้นเป็นวันขึ้นปีใหม่ มีวันหยุดยาว ผมนัดกับเพื่อนที่สนิทๆ กัน มีทวีป โย่ง และเป้ เดินทางไปเที่ยวพักผ่อน เพื่อฉลองวันส่งท้ายปีเก่าและขึ้นปีใหม่ที่สวนสนปฏิพัทธ์ จังหวัดประจวบคีรีขันธ์

ที่นั่นเป็นสถานที่พักผ่อนตากอากาศของทหารดูแลอยู่ แต่ก็เปิดโอกาสให้ประชาชนเข้าไปพักผ่อนได้ โดยต้องจองล่วงหน้าเป็นเดือนๆ ก่อนนะครับ



สถานที่ดังกล่าวมีบรรยากาศยอดเยี่ยมจริงๆ


หาดทรายขาวน่าเดินทอดน่องรับลมชมวิว น้ำทะเลก็ใสสะอาดเหมาะแก่การโผลงไปเล่นน้ำ หรือดำผุดดำว่ายให้สำเริงสำราญยิ่งนัก เมื่อเอ่ยชื่อใครๆ ก็รู้จักกันดี เนื่องจากอยู่ไม่ไกลจากค่ายธนะรัชต์ ซึ่งเป็นค่ายทหารใหญ่โตแห่งหนึ่งของเมืองไทย

ผมกับเพื่อนๆ ได้จองบ้านพักไว้ล่วงหน้าเรียบร้อยแล้วจึงไม่มีปัญหาใดๆ

...เรือนไม้สองชั้นอยู่ลึกเข้าไปจากชายหาดพอสมควร บรรยากาศค่อนข้างเงียบสงบ แทบจะเป็นวังเวงบอกไม่ถูก ยิ่งเป็นตอนกลางคืนจะดูน่ากลัวคล้ายๆ กับบ้านสยองขวัญที่เราเห็นในหนังไม่มีผิด



สำหรับพวกผมที่เป็นหนุ่มฉกรรจ์ล้วนๆ ไม่มีปัญหาหรอกครับ


เราเช่าไว้เพื่อซุกหัวนอนเท่านั้นแหละ ตอนกลางวันน่ะจะเล่นน้ำทะเลกันครืนๆ หรือไม่ก็ตั้งวงเหล้ากันที่ชายหาด ลมพัดโกรกตึง เหมาะแก่การดื่มดวลนักแล

ซดเหล้าริมทะเลนี่เมายากครับ!

หลังจากพักผ่อนหลับนอนกันคืนหนึ่งแล้ว เราก็ออกไปสนุกกันที่ชายหาดตามเคย เอากล้องไปถ่ายรูปไว้เป็นที่ระลึก...ตกเย็นค่ำก็กลับไปอาบน้ำอาบท่า หาอาหารกินแล้วจับกลุ่มคุยกันด้วยเรื่องจิปาถะ



จู่ๆ ก็เกิดความคิดแปลกประหลาดพิสดารขึ้นมาตรงกัน ราวกับมีสิ่งลึกลับดลบันดาล


นั่นคือ พวกเราอยากจะเดินไปดูบ้านพักหลังที่อยู่ติดๆ กันขึ้นมาบัดดล!

ไม่มีเหตุผลต้นปลายอะไรเลย แค่อยากจะทำอะไรที่มันท้าทาย สนองความอยากรู้อยากเห็นเท่านั้นแหละครับ...ใครนะพักอยู่ที่นั่น? ตอนนี้พวกเขาจะทำอะไรกันหนอ?



ด้วยเหตุนี้เอง พวกเราก็ออกเดินไปยังบ้านหลังนั้นทันที


บ้านมืดสลัวอยู่ในแสงดาว แมลงกลางคืนระงมเซ็งแซ่ เคล้ากับเสียงคลื่นและสายลมวู่หวิว...เห็นประตูเหล็กล็อกด้วยกุญแจแน่นหนา อาจจะเป็นเพราะพิษเหล้าก็ได้ที่ทำให้พวกเราขาดความยั้งคิด ตัดสินใจปีนรั้วเข้าไปโดยมีเจ้าเป้นำหน้าขึ้นไปก่อน คนอื่นๆ ก็แหงนมองตามเพื่อน...

ทันใดนั้นเอง พวกเราก็ชะงักงันไปตามๆ กัน!



นอกจากความมืดก็คือความเงียบเชียบ...

สายลมพัดเอากลิ่นเหม็นสาบสางล่องลอยมาแตะจมูก เล่นหันมองกันเลิ่กลั่กโดยไม่มีใครปริปาก ก่อนจะหันไปจ้องมองบ้านหลังนั้นเป็นตาเดียวกัน...เห็นแต่ความมืดมิดเหมือนเข้าถ้ำ มืดจนน่าสยองขวัญจริงๆ

เงียบจนแทบจะได้ยินเสียงหัวใจตัวเองเต้นโครมๆ แต่ในหูกลับมีเสียง วิ้งๆๆ อยู่ไม่ขาดระยะ

อ้าว? เจ้าเป้ยังปีนค้างอยู่บนรั้วนั่นเอง คนอื่นๆ ไม่กล้าขยับหรือแม้แต่จะพูดจา นอกจากจะจ้องมองเข้าไปในบ้านเหมือนถูกสะกดจิต ครู่หนึ่งก็ได้ยินเสียงเหมือนใครลากของหนักๆ อยู่ในบ้านดังครืด...ครืด...สะท้อนสะท้านอยู่ในความเงียบเชียบน่าขนหัวลุก



เจ้าเป้ชะโงกหน้าเข้าไปมองแล้วหันมาบอกว่า


ไม่เห็นมีอะไรนี่หว่า...แต่เราก็ได้ยินเสียงนั้นอยู่ดี เจ้าโย่งก็เลยชะเง้อเข้าไปมองดูบ้าง

แทบจะทันทีทันใด เจ้าโย่งก็หันหลังกลับ เดินจ้ำอ้าวหนีไปดื้อๆ ขณะที่ทวีปก็ร้องขึ้นว่า "ผมขอโทษ"

ให้ตกนรกเถอะ! นี่มันเกิดอะไรขึ้นแน่?




แต่เมื่อได้ยินเสียงทวีปหลุดปากขอโทษ


พวกเราก็หันกลับทันที เจ้าเป้ตะกายลงจากรั้วตามหลัง ร้องลั่นๆ ว่า...รอด้วย! รอด้วยโว้ย...ท่ามกลางอากาศที่หนาวจับใจ เสียงคลื่นเสียงลมก็ยิ่งโหมกระหน่ำจนแทบจะสติแตกไปตามๆ กัน

ครั้นถึงบ้านพัก ผมถามเจ้าโย่งว่าเห็นอะไรถึงจ้ำอ้าวหนีเพื่อน คำตอบก็คือ

"ตอนที่อั๊วชะโงกหน้าเข้าไปมอง เห็นมีคนยืนจ้องมาจากข้างในแต่เห็นหน้าไม่ถนัด...โธ่! อั๊วไม่เผ่นได้ไงล่ะ?"



จากนั้น คนอื่นๆ ก็ถามทวีปว่าขอโทษใคร? ขอโทษทำไม?


"ตอนที่จะวิ่งตามกันมาน่ะ อั๊วหันไปมองอีกทีก็เห็นผู้ชายตัวสูงใหญ่ยืนชี้หน้าอยู่ โอ้โฮ! ตาลุกวาว หน้าบูดบึ้งแสดงว่าโกรธจัด...อั๊วว่าเราโดนผีหลอกแหงๆ เลยว่ะ"

พวกเราหน้าขาวซีด กระเดือกน้ำลายไปตามๆ กัน เจ้าเป้ดูอาการหนักกว่าเพื่อนเพราะมันปีนรั้ว พูดเสียงสั่นๆ ว่าเราน่ะจะจุดธูปขอขมาที่ได้ล่วงล้ำเข้าไป...ปัญหาคือจะไปเอาธูปที่ไหนในบ้านพักล่ะ เราไม่ได้รู้ล่วงหน้าจนถึงกับพกธูปติดตัวมาตากอากาศด้วยนี่นา

ตกลงกันว่าสวดมนต์และแผ่เมตตาดีกว่า รุ่งขึ้นจะทำบุญกรวดน้ำไปให้



คืนนั้นต้องมานอนรวมกันเลยครับ


ดึกๆ ได้ยินเสียงเจ้าเป้ละเมอน่ากลัวว่า...เข็ดแล้ว กลัวแล้ว ต่อไปจะไม่บุกรุกเข้าไปอีกแล้ว! โอย...

รุ่งขึ้น พวกเราตื่นขึ้นเพราะแสงอาทิตย์ส่องเข้ามาแยงตา ทวีปเล่าว่าเขาฝันเห็นคนที่อยู่ในบ้านหลังนั้น...ไม่ใช่เจ้าของบ้านหรอกครับ แต่เป็นเจ้าที่เจ้าทางคอยปกปักรักษาบ้าน ต้องการมาเตือนพวกเราไม่ให้คึกคะนองเกินเหตุเท่านั้น

อ้อ! รูปทั้งหมดที่อุตส่าห์ถ่ายมาเป็นที่ระลึก ปรากฏว่าเสียหมดทุกรูป ทางร้านบอกคงเป็นเพราะถ่ายภาพที่มีแสงสว่างจ้าอยู่แล้ว แต่ยังไปใช้แฟลชอีกทำให้ฟิล์มสว่างเกินไป...แต่ผมรู้ว่าสาเหตุมาจากอะไรแน่ ขนหัวลุกซีครับ!



แหล่งที่มา: บอร์ดรวมเรื่องผี


เครดิต :

ข่าวดารา ข่าวในกระแส บน Facebook อัพเดตไว เร็วทันใจ คลิกที่นี่!!
กระทู้เด็ดน่าแชร์