ป้ายนี้ .. ผีดุ



ป้ายนี้ .. ผีดุ

"ไม่ได้ตาฝาดไปเองแน่"


ผมได้พบกับเรื่องแปลกประหลาดที่สุดในชีวิต ไม่เข้าใจว่าเกิดอะไรขึ้น? ที่แน่ๆ คือไม่ได้ดื่มเหล้า ไม่ได้ตาฝาดไปเอง หรือผมอาจจะพลัดหลงเข้าไปในมิติที่ 4 ชั่วขณะหนึ่งก็ได้ แต่นึกแล้วขนหัวลุกครับ

เหตุการณ์นี้เกิดขึ้นเมื่อต้นเดือนพฤษภาคมนี่เอง จำได้แม่นว่ายังไม่ถึงวันเปิดเทอม

ค่ำนั้น ผมออกจากบ้านในซอยบุญชูศรี ใกล้ๆ กับสามเหลี่ยมดินแดงมาที่ป้ายรถเมล์ปากซอย เพราะนัดเพื่อนจากประตูน้ำไว้ว่าจะไปเที่ยวผับแห่งหนึ่งแถวสุทธิสาร มีเพื่อนๆ เจ้าถิ่นกลุ่มหนึ่งรออยู่ กะว่าจะพบกันราวสองทุ่ม

วันนั้นเป็นวันเสาร์ ฝนครึ้มมาแต่เย็น ที่ป้ายรถเมล์คนน้อยทำให้ผมได้ที่นั่ง มีคนรอรถเมล์อยู่ราวสิบคน นั่งกันราว 4-5 คน นอกนั้นยืนมองรถโดยสารที่ตัวรอคอย มีทั้งคนลงคนขึ้น ไม่ถึงกับคับคั่งเหมือนวันจันทร์ถึงวันศุกร์ แถมโรงเรียนก็ยังปิดดเทอมดังกล่าว



"ไม่มีใครอยากเปียกฝน"


ไม่ช้าก็มีฝนพรำลงมา คนที่ยืนก็รีบหลบเข้ามานั่งจนเต็ม ที่เหลือก็ไปอาศัยหลบฝนใต้ร่มกระดังงาใกล้ๆ ที่มีกิ่งก้านเลื้อยขึ้นมาบนหลังคา

แสงไฟหน้ารถส่องเห็นสายฝนโปรยปราย พอรถมาจอดก็รีบลงแล้วจ้ำอ้าว คนที่รออยู่ก็รีบผลุนผลันแทบจะแย่งกันขึ้น เพราะใครๆ ก็ไม่อยากเปียกฝนทั้งนั้น แม้ว่าจะตกไม่หนักก็ตาม

เพื่อนผมยังไม่มา ผมอาจจะออกมาเร็วไปหน่อย หรือไม่เขาอาจจะติดฝนก็ได้...ฝนตก-รถติดก็รู้ๆ กันอยู่แล้ว

คนที่รอรถเมล์ทยอยกันออกไป มีคนใหม่เข้ามานั่งแทน บางคนก็คุยกันว่าโชคดีที่ฝนตกไม่หนัก ไม่งั้นมีหวังโดนฝนสาดเข้ามาแน่ๆ ไหนจะตอนวิ่งไปขึ้นรถเมล์อีกล่ะ แต่เพื่อนเขาค้านว่าฝนตกพรำๆ แบบนี้แหละทำให้เป็นหวัดเป็นไข้ได้ง่าย ถึงบ้านต้องรีบอาบน้ำสระผม หรือกินยาแก้ไขป้องกันไว้ก่อน เพราะฝนนำมลพิษในอากาศมาให้เรา



"เธอหันมาทางผม"


ขณะนั้นเอง ผมก็เหลือบเห็นสาวสวยผู้นั้นพอดี!

อายุราว 20 เศษ ผิวขาว มัดผมแบบหางลาง่ายๆ นุ่งยีนสวมเสื้อยืดแดงนั่งเก้าอี้ริมสุดด้านซ้ายใกล้กับต้นกระดังงา ท่าทางสบายๆ ไม่ได้วิตกกังวลกับสายฝนโปรยปราย ชักจะหนาเม็ดขึ้นนิดหน่อย

เธอหันมาทางผม...คงจะมองดูรถเมล์ที่เธอรอ แต่ผมรีบเมินไปทางอื่นเพื่อรักษามรรยาท สักพักผมก็ค่อยๆ หันหน้าไปทางเธอ ทำเป็นว่ามองดูรถราที่แล่นผ่านไปมาแต่ชายตามองก็เห็นมีชายหนุ่มคนหนึ่ง แต่งตัวสุภาพ กำลังนั่งอยู่ข้างๆ เธอและหันไปพูดคุยอะไรที่ผมไม่ได้ยิน

สาวเสื้อแดงยิ้มนิดๆ พยักหน้าเป็นบางครั้ง แต่ก็ไม่เห็นเธอพูดจาโต้ตอบอะไรด้วย ผมแน่ใจว่าเมื่อครู่ก่อนเธอยังนั่งคนเดียวแท้ๆ แต่ชายหนุ่มผู้นั้นคงจะฉวยโอกาสเข้ามานั่งข้างๆ เธอตอนที่ผมเมินไปทางอื่นนั่นเอง



"อาจนัดกันเหมือนผม"


ผู้หญิงคนนี้มีอะไรบางอย่างน่าสนใจ และดึงดูดสายตาผมอย่างไม่รู้เหตุผล

พูดจริงๆ ก็ไม่ถึงกับสะสวย นอกจากหน้าตาดี หรืออาจจะเป็นท่าทาที่ดูสบายๆ เหมือนนั่งเล่นอยู่ในบ้านก็เป็นได้ เธอมองนั่นมองนี่พลางยิ้มนิดๆ โดยไม่สนใจชายหนุ่มที่กำลังพูดคุยอยู่คนเดียว

หรือว่าเขาจะเป็นคู่รักกัน และนัดกันไว้ที่ป้ายรถเมล์แบบเดียวกับที่ผมนัดเพื่อนก็เป็นได้...แต่เพื่อนผมก็ยังไม่มาซักที

คนที่นั่งรอรถเมล์ทยอยกันขึ้นรถไปจนหมด ขณะนั้นยังไม่มีใครวิ่งฝ่าสายฝนมาที่ป้ายนั้นอีก...เท่ากับมีคนนั่งรถอยู่ที่นั่นเพียงสามคนเท่านั้นเอง



"หันมามองผมยิ้มๆ"


จนกระทั่งหญิงสาวลุกขึ้นยืน ร่างระหงค่อนข้างสูงคล้ายนางแบบ รถเมล์แล่นเข้ามาจอด คนลงมาสามคน รีบวิ่งเข้าหลบฝนใต้หลังคา สาวเสื้อเหลืองก้าวขึ้นไปเป็นคนแรก ชายหนุ่มที่นั่งประกบเธอก้าวตามหลังขึ้นไป ประตูปิดสนิทขณะที่รถเคลื่อนออก

ผมมองตามไปจนเห็นว่าตรงไปทางดินแดง...รู้สึกใจหายอย่างบอกไม่ถูก

ผู้โดยสารชายสามคนที่ลงมาก็นั่งรถต่อรถ คงจะไปทางถนนวิภาวดีแบบเดียวกับผมแน่ๆ ตอนนี้มานั่งทางขวาผมสองคน อีกคนนั่งด้านซ้าย...ผมหันไปมองโดยไม่ได้ตั้งใจ ก็เห็นเขานั่งคู่กับผู้หญิงเสื้อแดงคนเดิม ที่หันมามองผมยิ้มๆ พอดี



"เธอขึ้นรถเมล์ไปแล้วนี่"


เมินหน้าไปทางอื่นตามความเคยชิน...ก่อนจะแข็งทื่อ ขนลุกซ่าเมื่อนึกขึ้นได้ว่าเธอขึ้นรถเมล์ไปแล้วอย่างแน่นอน!

หันขวับไปมองเหมือนถูกจับกระชาก ก็เห็นชายวัยกลางคนนั่งอยู่ผู้เดียว...ไม่มีผู้หญิงเสื้อแดง มัดผมหางลาคนนั้นอีกต่อไป

ลุกพรวดพราดขึ้นยืนแข้งขาสั่น เย็นหลังวาบๆ รอยยิ้มนิดๆ ดูโดดเด่นอยู่ในวงหน้าสีขาวยังปรากฏอยู่ในความทรงจำ...ผมเข่าอ่อนจนต้องนั่งแปะลงตามเดิม บอกตัวเองว่าภาพเมื่อสักครู่คงเป็นเพราะผมตาฝาดไปเองกระมัง

แต่ถ้าไม่ได้ตาฝาด และนึกได้ตอนที่มองเห็นว่าเธอขึ้นรถเมล์ไปแล้ว ผมอาจจะช็อกตายคาที่ไปเลยก็ได้นะครับ



แหล่งข้อมูล : บอร์ดรวมเรื่องสยองขวัญ


เครดิต :

ข่าวดารา ข่าวในกระแส บน Facebook อัพเดตไว เร็วทันใจ คลิกที่นี่!!
กระทู้เด็ดน่าแชร์