รักเธอไม่คลาย | เรื่องเล่าเขย่าขวัญ
พี่แพร เป็นผู้หญิงที่น่าสงสารมาก เธอไม่ได้เป็นพี่สาวของฉันหรอกค่ะ แต่เป็นแฟนของ พี่วุฒิ พี่ชายสุดเฮี้ยวของฉันต่างหาก
พี่วุฒิรูปหล่อ สูงโปร่ง หน้าตาคมคายออกแนวแบดบอย เขาเล่นดนตรีเก่งมาก ทั้งกีตาร์ กลองและร้องเพลง อายุยี่สิบห้า เพิ่งเรียนจบแต่ยังไม่เป็นโล้เป็นพายอะไรสักอย่าง ดีแต่ว่าพ่อแม่มีเงินเลยตามใจ พี่วุฒิมีรถขับ หาเงินเองได้บ้างจาก การเล่นดนตรีตามผับ แต่ก็ไม่เป็นหลักแหล่ง ส่วนมากจึงต้องขอตังค์แม่ใช้
พี่แพรกับพี่วุฒิรู้จักกันเพราะเธอเป็นเพื่อนของเพื่อนพี่วุฒิ เธอเพิ่งเรียนจบเหมือนกัน อายุน้อยกว่าพี่วุฒิสองปี ทั้งคู่เกิดวันเดียวกันแต่คนละปีเท่านั้น
ดูๆ เธอไม่น่าเป็นแฟนพี่วุฒิได้เลย เพราะเรียบร้อย เอาการเอางาน ขยันมาก ชอบดนตรี ร้องเพลงไพเราะน่าฟัง เมื่อเรียนจบก็ทำงานบริษัทใกล้บ้าน แต่ไกลจากบ้านเรามาก เราอยู่ลาดพร้าว ส่วนเธออยู่บางแคโน่น แต่เมื่อรักกับพี่วุฒิ พี่วุฒิก็อุตส่าห์รับส่งเธอถึงบ้าน เขาว่าเป็นห่วงไม่อยากให้เธอซ้อนมอเตอร์ไซค์บึ่งไปตามถนนใหญ่และเข้าซอยเปลี่ยวไปอีกตั้งไกล
ฉันกับพ่อแม่เกือบจะแน่ใจอยู่แล้วว่าจะได้พี่แพรมาเป็นพี่สะใภ้ที่น่ารัก แต่แล้ววันหนึ่งเขาก็โกรธกันค่ะ พี่วุฒิไม่ได้บอกว่าเรื่องอะไร บ่นแต่ว่ารำคาญเพราะพี่แพรขี้หึงและชอบทำตัวเหมือนแม่! คือคอยห้ามเขาสูบบุหรี่ ดื่มเหล้ า และบ่นว่าตลอดถ้าพี่วุฒิคบเพื่อนที่เธอเห็นว่าไม่ดี
ฟังแล้วฉันจี๊ดเลยค่ะ พี่แพรเตือนน่ะถูกต้องแล้ว เธอพยายามให้พี่วุฒิออกห่างๆ จากสิ่งเลวๆ ทั้งหลาย แต่ดูสิ พี่ชายฉันมันไม่รักดีซะงั้น
เวลาผ่านไปหลายเดือน พี่วุฒิไม่มีท่าทีจะกลับไปคืนดีกับพี่แพรเลย มิหนำซ้ำยังคบกับผู้หญิงใหม่อีกหลายคน ดูท่าพี่ชายฉันจะเละเทะกว่าเก่า ฉันคิดถึงพี่แพรจัง พี่แพรโทรหาฉันบ่อยๆ บอกว่าคิดถึงฉันมาก สำหรับพี่วุฒินั้นถึงจะคุยกันได้ก็ไม่เหมือนเดิมแล้ว
วันหนึ่งฉันทำความสะอาดบ้าน และพบจดหมายรูปตุ๊กตาหวานแหววถูกทิ้งขว้างอยู่ใต้โซฟา มันเป็นจดหมายที่พี่แพรเขียนมาง้อพี่วุฒิอย่างน่าสงสาร เธอรำพันว่าขีดที่ปฏิทินทุกวันว่าวันนี้พี่วุฒิโกรธเธอ วันนี้พี่วุฒิคุยโทรศัพท์กับเธอแต่ยังไม่หายโกรธ อีกวันก็จดว่าพี่วุฒิคงให้อภัยแล้วแต่ไม่เหมือนเดิมเธอขอร้องให้พี่วุฒิกลับมาหาเธอ รักกันอย่างเช่นวันที่ผ่านมา..
พี่ชายหัวดื้อของฉันใจร้ายมากๆ ฉันถามเขาว่ารู้มั้ยว่าพี่แพรเจ็บปวดแค่ไหน เขาก็หัวเราะว่าฉันยังเด็กไม่รู้เรื่องหรอก เขาสิไม่รู้อะไรเลย หักอกคนอื่นแต่ตัวเองไม่เคยอกหัก
แล้ววันหนึ่งเราก็ได้รับข่าวร้าย พี่แพรเสียชีวิตแล้ว! ด้วยอุบัติเหตุรถบรรทุกชนมอเตอร์ไซค์ที่เธอซ้อนท้ายกลับจากที่ทำงาน
ฉันร้องไห้ สงสารเธอใจแทบขาด ถ้ายังเป็นแฟนพี่วุฒิเธอคงไม่ตายอย่างนี้ ฉันขอให้พี่วุฒิพาฉันกับแม่ไปงานศพเธอ มันรวดเร็วเกินไปจริงๆ เมื่อมาคิดว่าต่อจากนี้ ฉันจะไม่ได้เจอหน้าหรือพูดคุยกับพี่สาวที่แสนดีคนนี้อีกแล้ว
งานศพพี่แพรบรรยากาศเต็มไปด้วยความเศร้าโศก เธอจากไปอย่างกะทันหัน อีกทั้งพ่อแม่เธอมีลูกสาวคนเดียว เป็นลูกสาวที่ดี หวังไว้ว่าจะให้เป็นที่พึ่งของพ่อแม่ยามแก่เฒ่า แต่ก็ไม่มีวันนั้นอีกแล้ว
รูปหน้าศพของพี่แพรสวยหวาน แต่นัยน์ตาเธอกลับดูเศร้าเหลือเกิน พี่วุฒิดูซึมๆ ไป เขานั่งอยู่ในกลุ่มเพื่อนๆ และมีทีท่าว่าเสียเพื่อนคนหนึ่งไป ไม่ใช่สูญเสียคนรัก พี่วุฒิไม่เหลือใจให้พี่แพรแล้วจริงๆ
น่าแปลกอยู่อย่างหนึ่ง ตลอดทางที่กลับบ้านไม่ว่าจะหมุนวิทยุไปคลื่นไหน ก็จะเจอแต่เพลงผู้หญิงที่บอกเล่าถึงความเศร้าโศกเสียใจ ตามง้อคนที่เธอรัก หรือไม่ก็ตัดพ้ออย่างน้อยใจ ฉันกับแม่มองหน้ากัน ขนาดพี่วุฒิปิดวิทยุเปิดเทปก็ยังมีแต่เพลงพวกนี้
อีกสามถึงสี่วันต่อมา เขาบอกว่าพี่แพรมาหา ทั้งเข้าฝัน ทั้งมานั่งริมเตียง แต่เขาไม่กลัว บอกให้เธอไปสู่สุคติ
ฉันรู้ว่าวิญญาณเธอยังไม่สงบ เธอยังคงเศร้าโศกเสียใจ ร้องไห้ถึงความรักที่เธอสูญเสียไป ฉันสงสารจับใจ ไม่รู้จะทำยังไงให้เธอหมดห่วง และเชื่อเหลือเกินว่าเธอยังวนเวียนอยู่ใกล้ๆ พี่วุฒิ ไม่ยอมไปไหน ในที่สุดฉันก็สวดมนต์และนั่งสมาธิ อธิษฐานจิตถึงเธอ บอกเธอว่า ฉันจะเก็บทุกสิ่งทุกอย่างที่เธอให้พี่วุฒิตอนที่รักกัน ทั้งการ์ด ทั้งจดหมาย ผ้าพันคอที่เธอถักนิตติ้ง เสื้อที่เธอซื้อ ฉันจะเก็บใส่กล่องอย่างดี แล้ววันหนึ่งเมื่อพี่วุฒิมีวุฒิภาวะกว่านี้ เขาจะได้เห็นสิ่งของพวกนี้ทุกอย่าง และรูปถ่ายทุกใบ เขาจะได้หวนนึกถึงพี่แพร และรู้ว่าใครกันแน่ที่เป็นฝ่ายสูญเสีย
ฉันขอให้พี่แพรไปสู่สุคติ สักวันหนึ่งฉันจะดึงเอาความรักที่พี่วุฒิทิ้งไปนั้นกลับมาให้พี่แพรให้จงได้ ฉันสัญญา..
เครดิตแหล่งข้อมูล :klangsayong