พิษรักแรงหึง
"พลายพล" เล่าประสบการณ์ขนหัวลุกจากพิษรักแรงหึง
ทุกวันนี้คำว่า "แรงงานต่าวด้าว" กำลังฮิต ทั้งคนกรุงเทพฯ กับต่างจังหวัดที่จำเป็นต้องมีคนงาน หรือลูกจ้างลูกออนมักจะนิยมหาคนต่างด้าวมาทำงาน เหตุผลสำคัญก็คือค่าจ้างถูกกว่าแรงงานไทย
อย่าไปพูดถึงเรื่องลักขโมย
หรือลูกจ้างกลายเป็นฆาตกร ขนาดตราหน้าว่า "พม่าโหด" หรือประณามว่า "เขมรเหี้ยม" ฆ่านายจ้างชิงทรัพย์สุดสยอง ผมว่าไม่ยุติธรรมนะครับ ขนาดลูกจ้างคนไทยด้วยกันก็เคยก่อคดีมาตั้งแต่สมัยก่อนถึงสมัยนี้เป็นประจำละน่า
คนมันจะชั่วจะดีน่ะอยู่ที่สันดานมากกว่า ไม่ใช่เพราะเชื่อชาติแน่ๆ
ผมเคยมีประสบการณ์เรื่องลูกจ้างมาสิบกว่าปีแล้ว
ตั้งแต่ยังเรียกว่าสาวใช้จนมาถึง "ผู้ช่วยแม่บ้าน" หรือนิยมเรียกสั้นๆ ว่า "แจ๋ว" ใครไม่มีพ่อแม่ชื่อนี้ก็แล้วไป
ส่วนจะได้ลูกจ้างดีมากดีน้อย หรือแทบจะหาดีไม่ได้ อย่าไปคิดอะไรมากเลยครับ โทษดวงก็แล้วกัน เพราะที่ดีก็ดีใจหาย ที่ร้ายก็สุดแสบชนิด "แสบไม่เสร็จ" ก็แล้วกัน ไม่ต้องยกตัวอย่างให้เสียเวลาก็ได้ ใครๆ ก็รู้หรือเดาได้อยู่แล้ว
ที่แปลกประหลาดสุดๆ ก็คือ
ขอลาออกไปแล้วยังย้อนกลับมาก่อเรื่องให้ขนหัวลุกอีกต่างหาก!
ไม่นับพวกที่ออกไปมีครอบครัวบ้าง ไปทำงานบ้านอื่นหรืออย่างอื่นที่มีรายได้สูงกว่าบ้าง พวกนี้มักจะผูกพันกับบ้านผมแทบทุกคน เช่น โทร.มาหาก็มี หอบของฝากจากต่างจังหวัดมาเยี่ยมก็มี รายหนึ่งไปทำงานร้านขนมแถวเกาะเกร็ด มากรุงเทพฯ ทีไรเป็นหอบทองหยิบฝอยทองมาฝากทุกครั้งไป
สาวใช้ที่ออกไปแล้วแต่กลับมาทำให้ขนหัวลุกชื่อตองอ่อนครับ!
ตองมาอยู่บ้านผมที่เทเวศรตั้งแต่อายุ 20 ต้นๆ ร่างเล็ก ผิวคล้ำ หน้าตาสะสวยคมคาย นิสัยใจคอน่ารัก พูดจาสุภาพเรียบร้อย ไม่เคยปรากฏว่าไปสุงสิงกับผู้ชายที่ไหน อยู่ได้ปีกว่าก็มีเพื่อนชวนไปเรียนทำผมที่วัดสระเกศ ต่อมาราว 5-6 เดือนก็ขอลาออกไปทำงานร้านเสริมสวยแถวประตูน้ำ เช่าห้องพักอยู่กับเพื่อนใกล้ๆ ร้าน
แม้จะออกไปแล้วตองก็โทร.มาคุยกับภรรยาผมบ้าง
มาเยี่ยมที่บ้านบ้าง หน้าซื่อ ตาใส พูดจาท่าทางเรียบร้อยตามเดิม แต่งเนื้อแต่งตัวดีขึ้น มีทองหยองติดตัว
คืนหนึ่งฝนตกหนักตั้งแต่หัวค่ำ ราวสามทุ่มเศษก็ซาเม็ดไปแต่ยังไม่หายขาด เรากำลังดูทีวีกันอยู่ จู่ๆ ก็มีเสียงกริ่งประตูดังขึ้น ผมออกไปดูก็ปรากฏว่าเป็นตองนั่นเอง ผมเผ้ากับกระโปรงชุดสีฟ้าเปียกชุ่ม เห็นชัดเจนจากแสงไฟฟ้าริมทาง
"เข้ามาก่อนสิ" ผมเป็นประตูรับ "มีธุระอะไรมืดค่ำป่านนี้?"
"หนูมาหาคุณแจงค่ะ" เธอกระหืดกระหอบ "คุณแจงอยู่ไหมคะ? ช่วยหนูด้วย...ออกไปด่ามันทีเถอะค่ะ"
ภรรยาผมออกมาพอดี เรียกให้ตองเข้ามาคุยกันก่อน
แต่เธอกลับส่ายหน้าท่าทางร้อนรน พูดเร็วปรื๋อแทบจะไม่หายใจหายคอ
"แฟนหนูมันทรยศค่ะ มีแฟนใหม่ให้หนูเห็นตำตา! คุณแจงช่วยออกไปด่ามันหน่อยเถอะค่ะ...เจ้าอ๋องที่เช่าห้องอยู่ปากซอยไงคะ! หนูเพิ่งออกมาจากห้องมันหยกๆ"
ตองเร่งเร้า หน้าตาท่าทางเคียดแค้นอย่างที่เราไม่เคยเห็นมาก่อน
เรียกให้เข้ามาคุยกันก็ไม่ยอม เร่งเร้าจะให้ภรรยาผมออกไปจัดการกับแฟนของเธอท่าเดียว...ผมเพิ่งเห็นรองเท้าผู้ชายข้างหนึ่งในมือตอง ส่วนเท้าของเธอเปลือยเปล่าทั้งสองข้าง
เมื่อถามว่ารองเท้าหายไปไหน ตองก็บอกว่าแฟนไล่ตบตีจนต้องวิ่งหนีออกจากห้องมา ใส่รองเท้าไม่ทัน
"หนูคว้ารองเท้ามันมาได้ข้างหนึ่งนี่แหละค่ะ"
"อ้าว? ไปเอารองเท้าเขามาทำไมล่ะ?"
"ต้องเอาสิคะ ก็หนูเป็นคนซื้อให้มันนี่"
ตองน้ำตาไหลพราก เธอยกหลังมือปาดทิ้งลวกๆ "มันนอกใจหนูๆ ก็ต้องเอาคืน! ไอ้คนระยำ...คุณแจงช่วยไปด่ามันให้หนูด้วยนะคะ หนูไหว้ล่ะค่ะ! ฮือ..."
ภรรยาผมถอนใจเฮือกใหญ่ ฝนเกือบจะหายขาดแล้ว แต่เมื่อสายลมพัดวูบเข้ามาเย็นยะเยือก น้ำฝนที่ค้างอยู่ตามยอดไม้ริมรั้วก็ร่วงพรูลงมา...เธอบอกอดีตลูกจ้างไปว่า
"ไม่ได้หรอก ฉันจะไปพูดกับนายอ๋องเขาได้ไง? ในเมื่อฉันไม่ได้เกี่ยวข้องอะไรด้วยนี่นา"
"โธ่! หนูไม่ได้ให้คุณแจงไปพูดนะคะ
แต่ให้ไปด่ามันต่างหากล่ะ! ไอ้ผู้ชายเลวๆ ทรยศ! นอกใจ! เลี้ยงไม่เชื่อง...ไม่รู้จักบุญคุณคน"
ตองด่าชนิดใส่คะแนนไม่ทัน เราตะลึงทั้งคู่เพราะไม่เคยเห็นเธอในสภาพนี้มาก่อนเลย...พอดีตองเหวี่ยงรองเท้าที่หิ้วมาทิ้งโครมตรงหน้าประตู ยกมือไหว้เราอย่างวิงวอน
"นะคะ คุณแจงขา...หนูไหว้ล่ะค่ะ ช่วยไปด่ามันให้หนูทีเถอะ! ฮือ..."
แล้วเธอยกสองมือปิดหน้า
ร้องไห้สะอึกสะอื้นคร่ำครวญจนชวนให้เยือกเย็นไปถึงหัวใจ หมูหมาเห่าหอนเสียงขรม...เมื่อเห็นว่าเราไม่ยอมไปยุ่งเกี่ยวกับเรื่องของเธอแน่แล้ว ตองก็หันกลับ เดินระทดระทวยไปตามทางเฉอะแฉะ สะท้อนแสงไฟเป็นเงาวับ...เลี้ยวลับหายไปจากสายตา
เรามองหน้ากันแล้วถอนใจ ปิดประตูรั้วใส่กุญแจก่อนจะกลับเข้าบ้านตามเดิม...อดพูดกันไม่ได้ว่าเด็กดีแท้ๆ ทำไมถึงได้เปลี่ยนไปเป็นคนละคนได้ถึงปานนั้น?
เช้าวันรุ่งขึ้นก็ได้ข่าวว่าตองถูกแฟนเก่าฆ่า
สาเหตุเพราะไปพบภาพบาดตาจนเกิดด่าทอกันรุนแรง นายอ๋องบันดาลโทสะก็คว้ามีดจ้วงแทงที่หน้าอก ตองคว้ารองเท้าข้างหนึ่งวิ่งเตลิดหนีไปสิ้นใจอยู่บนพื้นถนนเฉอะแฉะใกล้ๆ ห้องเช่านั่นเอง!
ตำรวจกับชาวบ้านหารองเท้าข้างนั้นไม่พบ...ผมจำภาพที่ตองเหวี่ยงรองเท้าผู้ชายไปหน้าประตูรั้วได้ติดตา...ถึงจะมองหาไม่เห็นแต่ก็เล่นเอาขนหัวลุกไปหลายวันล่ะครับ
แหล่งที่มา: บอร์ดรวมเรื่องผี
เครดิต :
ข่าวดารา ข่าวในกระแส บน Facebook อัพเดตไว เร็วทันใจ คลิกที่นี่!!