สะพานสยอง

ที่โรงเรียนเก่าของเรามีสวนญี่ปุ่นขนาดใหญ่อยู่ในโรงเรียน


ในสวนมีสระยาวคดเคี้ยวไว้เลี้ยงปลาคาร์ฟ ช่วงนึงเขามีการซ่อมแซมสะพานข้ามสระที่มันเริ่มผุเพราะใช้กันมานาน สวนแห่งนั้นเลยถูกปิดไปชั่วคราวเป็นเวลาสามอาทิตย์ ช่วงที่สวนปิดนักเรียนอย่างเราก็ได้แต่เตร่อยู่รอบๆสวน





สะพานสยอง

จนวันนึงก่อนเปิดใช้งานตามเดิม


เราก็เห็นคนงานกับพวกครูวิ่งเข้าวิ่งออกกันในสวนนั้นอย่างโกลาหล ด้วยความเจือก เลยไปเลียบๆเคียงๆถามครูที่สนิท เขาบอกว่ามีลูกของคนงานตกลงไปในสระ เราก็ อ้อ...คงแค่ตกน้ำเฉยๆ เลยขอเข้าไปดู ครูเราก็ไม่ให้ ด้วยความอยากรู้อยากเห็นอย่างรุนแรง ก็แอบหาช่องดูจนได้

เราเห็นเขาอุ้มบางอย่างขึ้นมาจากสระ แบบเห็นแล้วจาอ้วกเลย มันเป็นร่างของเด็กตัวเล็กๆแต่ขึ้นอืดไปนานแล้ว ตัวม่วงๆ คงเพราะเด็กผิกคล้ำ ตลอดทางที่เขาอุ้มขึ้นจากน้ำไปยังริงสระ เศษเนื้อก็ร่วงแผละ...แผละลงทีละชิ้น ทีละชิ้น




ร่างของเด็กมีส่วนแขนขาดหายไป


ตรงปลายบาดแผลเป็นเนื้อเปื่อยๆเละเหมือนโดนอะไรกระชากออกไป ยิ่งเขาอุ้มมาใกล้เราขึ้นมาเรื่อยๆกลิ่นของศพเด็กก็แรงขึ้นตามลำดับ สุดท้ายเขาวางเด็กลงที่ริมสระๆใกล้ๆจุดที่เราแอบซุ่มกันอยู่ เพื่อนเราหนีไปอ้วกเพราะตอนที่เห็นสภาพศพใกล้ๆแล้วจะสังเกตุได้ว่าทั้งตัวของศพเด็กอ่ะ




มีร่องรอยโดนปลาตอด โดยเฉพาะปลายแขนที่มีเละเป็นพิเศษ


สักพักเขาก็เขาแขนอีกส่วนมาวางคู่กัน ได้ยินเขาคุยกันว่า เด็กคงตกน้ำตอนมาวิ่งเล่นในสวน และโดนเครื่องบำบัดน้ำที่เป็นเหมือนเครื่องปั่นขนาดใหญ่ตรงมุมสระปั่นแขนเอา แล้วก็ด้วยความที่เขาซ่อมสะพานกันนาน เศษไม้ เศษสนิม แล้วก้ดินมันทำให้น้ำขุ่นจนไม่เห็นร่องรอยของเลือดเด็ก พี่คนงานคนนึงบอกว่าที่ไม่เจอศพตั้งแต่วันแรกๆ




เพราะเด็กคงไปติดอยู่ใต้เก๋งจีนกลางน้ำ


พ่อแม่เด็กมาเจอลูกก็ร้องไห้กันนิดหน่อย ดูเหมือนเขาไม่ค่อยแคร์เด็กเท่าไหรอ่ะ แล้วเขาก็เรียนรถมาเก็บศพไป พวกเราที่ซุ่มๆกันอยู่ก็ถอยทัพกลับมาที่ห้องเรียนแล้วปิดปากกันสนิท เพราะกลัวว่าเพื่อนๆมันจะกลัวแล้วไม่กล้าไปทำงานที่สวนกัน เพราะเราเป็นกลุ่มที่ต้องทำค่ายให้โรงเรียนแล้วก็จำเนต้องใช้สวนตรงนั้นจัดค่ายด้วย




อาทิตย์ต่อมา ตอนที่เรากำลังขนของข้ามสะพานใหม่เอี่ยมของเราไปยังเก๋งจีน เพื่อนเราคนนึงก็ได้กลิ่นเหม็นโชยมาตามลม


มันถามเราว่ากลิ่นอะไร เราก็แบบแอบคิดนิดนึงว่ากลิ่นน้องเขาแต่ก็โกหกเพื่อนไปว่าคงเป็นกลิ่นน้ำ มันก็ไม่ได้ว่าอะไรแล้วก็ทำงานกันต่อจนเกือบเสร็จ เพื่อนๆก็เลยพากันไปนั่งดื่มกันกลางสระพานใหญ่เพราะวิวตรงนั้นสวยเป็นพิเศษ ไอ้เราก็ช่วนมันกลับเพราะกลัวว่าจะเจอน้องเขา แต่ไมใครกลับ จะเล่าเรื่องน้องก็ไม่กล้าเพราะต้องอยู่ที่ค่ายกันอีหหลายวันเลยจำใจ นั่งเป็นเพื่อนมัน นั่งดื่มกันไปสักพักเบียร์หมด




เพื่อนเราคนนึงก็ลากเราไปยกลังสายไฟมาทำงานกันต่อ


ตอนขากลับเพื่อนก็ยกลังแล้วก็ก้มหน้าดูทางไปตลอดเพราะลังมันหนัก อยู่ๆมันก็แหกปากร้องแล้วก็ทิ้งลังลงมา เราก็เลยปล่อยมือด้วย แล้วก็ก้มลงมองที่เท้าตัวเองว่าเป็นแผลรึเปล่าเพราะมันทิ้งใส่เท้าเราพอดี ตอนที่ก้มลงไปนั้น เราก็รู้เลยว่าเพื่อนมันแหกปากร้องเพราะอะไร




เรามองเห็น ตา... ตาสีขาว


ลอยอยู่ตรงช่องใต้สะพานพอดี ตาคู่นั้นจ้องขึ้นมาสบตากับเรา เพื่อนเรานั่งร้องไห้อยู่ตรงข้ามกะเรา เลยเงยหน้าขึ้นกะจะพากันวิ่งแล้วก็ได้กลิ่นเหม็นของน้องเขาลอยขึ้นมา แบบเหม็นจนขมคอเลยอ่ะ เราลากเพื่อนวิ่งไปที่กลุ่ม คนอื่นก็ถามกันว่าเป็นอะไร เราก็เล่าให้มันฟัง พวกผู้ชายที่อยุ่ด้วยกันมันไม่เชื่อ บอกว่า "ผีบ้าผีบออะไร พวกมึงเมาอ่ะดิเลยตาฟาดไปเอง" แล้วมันก็เดินย้อนกลับไปเอาลังสายไฟที่เราทิ้งกันไว้ เราก็เตือนมันว่าอย่ามองที่พื้นนะ




มันก็ทำเหมือนท้าเรา บอกว่า


"เออ กรูจะเดินก้มหน้าไปตลอดทางเลย ดูดิ้ว่าจะมีอะไร"

มันก็ก้มหน้าเดินกันไปแค่ไม่กี่ก้าว แล้วก็หยุด... มันเงยหน้าขึ้นมองกัน เรากับเพื่อนที่ยังประสาทเสียอยู่ก็มองไปที่พวกมัน มันก็หัวเราะบอกว่าไม่มีอะไรหรอกพวกมึง แต่ก็เดินต่อไปโดยไม่ได้มองที่พื้นอีก สักพักมันก็วิ่งกันกลับมาโดยไม่มีลังในมือ




มันบอกตรงหัวมุมอ่ะ มันเห็นเด็กคลานขึ้นจากน้ำ


คลานเหมือนผีเดอะริงเลย แล้วเด็กคนนั้นก็ยืนร้องไห้อยู่ตรงริมสระไม่ขยับไปไหน มันไม่กล้าเดินต่อเพราะลังที่จะไปเอามันอยู่ใกล้ๆกัยที่ๆเด็กยืนอยู่มากๆ เพื่อนเราที่มันเก็นตอกแรกก็ประสาทเสียร้องไห้เป็นการใหญ่ คนอื่นที่เหลือก็กลัวกันจนไม่กล้ากลับออกไปเพราะกลัวน้องเขาจะยืนรออยู่ สุดท้ายคุณพ่อที่พักอยู่ที่บ้านพักภารดาใกล้ๆกัยสวนนั้นก็มาดูเพราะพวกเราส่งเสียงดังจนท่านตื่น




เรารีบเล่าเรื่องน้องเขาให้คุณพ่อฟัง


พ่อก็เลยให้เราเขาไปพักที่ห้องทานกันแล้วก็สวดมนต์ให้พวกเราทุกคนโดยเฉพาะเราที่เจอน้องเขาจังๆ แล้วพ่อก็จะส่งเรากลับบ้าน แต่เพื่อนเราคนที่มันปากดีอ่ะทำไงก็ไม่ยอมกลับ มันบอกว่ามันยังเห็นน้องเขายืนอยู่

เราที่เหลือก็เลยไม่ยอมกลับตาม นอนที่ห้องพ่อกันจนเช้าพอหายกลัวกันแล้วก็ถามว่าพ่อไม่สวดส่งวิญญาณน้องเขาเหรอ




น้องเขาถึงยังอยู่ พ่อบอกว่าสวดไปแล้วรอบนึง


ไม่รู้ทำไมน้องเขาไม่ไป เราเองก็หาคำตอบไม่ได้ ตอนนี้สวนนั้นก็ยังใช้งานเหมือนเก่าแต่เรากะกับเพื่อนไม่เหยีบเข้าไปใกล้สระตอนกลางคืนอีกเลย จนจบกันมาได้สองปี วันงานคืนสู่เย้าอ่ะ มีรุ่นน้องมาเล่าให้ฟังว่ามีคนเจอดีที่สระนั้นเหมือนพวกเราเลย แบบ

สองปีผ่านไปวิญญาณน้องเขาก็ยังอยู่ที่เดิม เพื่อนเราบอกว่าน้องเขาไม่ไปเพราะน้องเขาคงไม่ครบชิ้นอ่ะ แบบปลาตอดไปเยอะ วิญญาณเขาบางส่วนคงสิงอยู่ในปลาคาร์ฟที่ว่างกันอยู่ในสระนั้นจนถึงทุกวันนี้




แหล่งที่มา: บอร์ดรวมเรื่องผี




เครดิต :

ข่าวดารา ข่าวในกระแส บน Facebook อัพเดตไว เร็วทันใจ คลิกที่นี่!!
กระทู้เด็ดน่าแชร์