ปู่โสมเฝ้าพระเครื่องในไห

เหตุการณ์ประหลาดนี้เกิดขึ้นเมื่อยี่สิบปีมาแล้ว ครอบครัวข้าพเจ้าเป็นชาวอีสานจังหวัดขอนแก่น แต่ในปีนั้นบิดาข้าพเจ้าได้เข้ามาหางานทำในกรุงเทพ ฯ


ขณะขี่มอเตอร์ไซด์ส่งของก็ประสบอุบัติเหตุล้มคว่ำถึงกับขาหัก เข้ารักษาตัวอยู่ในโรงพยาบาลหลายวัน จนกระทั่งหมอบอกว่ากระดูกต่อไม่ติด จำเป็นต้องตัดขาทิ้ง แต่บิดาของข้าพเจ้าไม่ยอม ขอออกจากโรงพยาบาล กลับมารักษาตัวเองด้วยสมุนไพรที่บ้านอีสาน

พ่อใหญ่อานกับแม่ใหญ่ค่าย เป็นคนในหมู่บ้านเดียวกับข้าพเจ้ามีลูกสาวคนหนึ่งชื่อ หมาน

ทั้งสามคนเลี้ยงชีพอยู่ด้วยการทำนาทำไร เช่นเดียวกับคนอีสานทั่วไป กระท่งวันหนึ่งได้มีพ่อค้านำวัวความมาขายที่หมู่บ้าน พ่อค้าคนหนึ่งชื่อสุขเกิดชอบพอกับหมาน จึงมาสู่ขอและแต่งงานอยู่กินด้วยกันที่หมู่บ้านของเรา อยู่ด้วยกันปีกว่า ๆ ก็มีลูกคนหนึ่ง





ปู่โสมเฝ้าพระเครื่องในไห

ต่อมาคืนหนึ่ง สุขได้นอนหลับและเคลิ้มฝัน เขาแลเห็นร่างของคนในชุดแต่งกายโบราณ วิญญาณนั้นบอกกับสุขว่า


ได้รอคอยสุขมาเป็นเวลานาน เพิ่งจะได้โอกาสมาเข้าฝันสุขในวันนี้ เพราะถึงเวลาแล้วที่สุขจะต้องไปเอาสมบัติของตนเองซึ่งฝังไว้ตั้งแต่ชาติก่อน ที่ฝังนั้นก็อยู่ในบริเวณบ้านพ่อตาของสุขนั่นเอง เมื่อสุขได้สมบัติของตนแล้วเขาก็จะได้ไปผุดไปเกิดเสียที

ว่าแล้ววิญญาณก็หายวับไป เมื่อสุขตื่นขึ้น ก็จำความฝันนั้นได้ แต่เขาไม่ค่อยจะเชื่อนัก อย่างไรก็ดีสุขได้เล่าให้เพื่อนพ้องที่สนิทสนมฟังข่าวจึงแพร่กระจายไปแบบปากต่อปาก จนรู้กันทั่วทั้งหมู่บ้านและแล้วชาวบ้านกลุ่มหนึ่งซึ่งขอเสียงโชคก็ชวนกันเอาจอบเสียมมาขอขุดสมบัติในบริเวณที่นาของสุข

คนอื่น ๆ เมื่อเห็นเช่นนั้นก็สนใจและแห่กันมาขุดบ้าง

จนกระทั่งคนเกือบทั้งหมู่บ้านล้วนมาหาสมบัติในที่ของสุข สุขเองไม่รู้จะห้ามปรามชาวบ้านได้อย่างไร และก็เกิดเสียดายถ้าหากว่าสมบัตินั้นมีจริง เกรงว่าคนอื่นจะได้ไป จึงจ้างรถแทรกเตอร์คันหนึ่งมาขุด รถแทรกเตอร์ขุดยู่ครึ่งวันก็ไม่อะไร แต่แล้วในตอนบ่ายขณะที่เริ่มงานได้ไม่นาน ก็ได้ยินเสียงดัง โพละ

สุขสั่งให้รถหยุดแล้วเข้าไปดู เขาโกยดินออกก็เห็นไหดินเผาใบหนึ่งขนาดย่อม ๆ

แตกเป็นชิ้นเล็กชิ้นน้อย ภายในไหบรรจุพระเครื่องเนื้อชินหลายร้อยองค์ สุขเห็นว่าเป็นพระเครื่ององค์เล็ก คงไม่มีค่าอะไรจึงไม่สนใจ สั่งให้แทรกเตอร์ขุดต่อไปอีกพระเครื่องเหล่านั้นจึงโดนรถขุดคุ้ยจนกระจายเกลื่อนไปทั้งนั้น




จากนั่นอีกพักใหญ่ รถแทรกเตอร์ก็ขุดไปเจอกองอิฐกองหนึ่ง


อิฐที่ถูกคุ้ยขึ้นมาเก่ากว่าอิฐทั่วไปมาก สุขจึงสั่งให้รถหยุดแล้วเข้าไปดู เมื่อคุ้ยเอาดินที่กลบออก ก็เห็นว่าอิฐนั้นก่อล้อมเป็นโพรงอยู่ เมื่อโกยดินลึกลงไปราวสี่ศอก ก็พบว่ามีพระบูชาขึ้นมาหมดแล้ว

ก็ได้พบกับสมบัติอื่น ๆ ที่ซุกซ่อนอยู่ทั้งเบื้องล่างและบริเวณโดยรอบ มีทั้งแหวน กำไล สายสร้อย และเครื่องประดับอื่น ๆ มากมาย




นอกจากนี้ยังมีข้าวของเครื่องใช้ถูกฝังรวมไว้ด้วย


ไม่ว่าจะเป็นถ้วย ชามจอก ไห ล้วนแต่เป็นของโบราณ สุขและเมียกับญาติพ่อตาแม่ยาย ช่วยกันทยอยขนเอาสมบัติดังกล่าวเข้าไปเก็บไว้ในบ้าน

กระทั่งพระอาทิตย์ตกดิตจึงเลิกการขุดคุ้ย

วันรุ่งขึ้นสุขได้สั่งให้แทรกเตอร์ขุดหาโดยรอบบริเวณที่พบสมบัติต่อไปอีก แต่เมื่อเห็นว่าไม่มีวี่แววว่าจะพบของอื่น ๆ อีก จึงได้สั่งให้หยุด




อย่างไรก็ดี ชาวบ้านที่แห่กันมาทั้งหมู่บ้าน ก็ยังคงก้มหน้าก้มตาขุดคุ้ยหากันต่อไป


หลายคนได้พบสมบัติที่กระจัดกระจายอยู่แต่ไม่สู้เป็นชิ้นเป็นอันนัก ส่วนบิดาของข้าพเจ้าซึ่งอาการดีขึ้นมา และนอนพักผ่อนกับกับเปลใต้ถุนบ้าน ได้แต่ฟังข่าวจากการบอกเล่าโดยมิได้ไปดูด้วยตนเอง

แต่ก็พลอยตื่นเต้นไปด้วย

เมื่อเห็นชาวบ้านบางคนถือสมบัติเดินกลับบ้าน บิดาได้เห็นเด็กคนหนึ่งเดินมาโดยหอบของไว้เต็มเสื้อจึงตะโกนถามไปว่า เอ็งขนอะไรมาวะไอ้หนู เด็กน้อยเดินเข้ามาหา แล้วบอกว่าพระ พร้อมกับเทของจากเสื้อลงบนพื้นดิน




ปรากฏ ว่าเป็นพระเครื่องนับสิบองค์


เด็กเล่าว่าพระเครื่องเหล่านี้ตกกระจายเกลื่อนกลาดทั่วท้องนาของสุข เขาและเพื่อนพ้องจึงเก็บเอามาคนละเยอะ ๆ เอามาเล่นทอยเส้นบ้าง ทอยกองบ้าง บิดาข้าพเจ้าหยิบเอามาดูก็เห็นเป็นพระเครื่องเนื้อเงิน

เมื่อเอาผ้าเช็คถูขัดขี้ดินออก ก็เห็นว่ามีลักษณะสวยงามและสมบูรณ์ไม่สึกกร่อน บิดาจึงได้ขอเด็กไว้หนึ่งองค์ ซึ่งเด็กก็ให้โดยมิได้หวงแต่อย่างใด





ข่าวการพบกรุสมบัติแพร่สะพัดไปยังหมู่บ้านใกล้เคียง จึงมีชาวบ้านอื่นเดินทางกันมาดู หลายรายของขุดคุ้ยหาสมบัติเยื่อหลงเหลือ


ซึ่งสุขก็มิได้หวงห้าม แต่น้อยรายที่จะพบสมบัติอีก ขาวบ้านที่มาจึงขอซื้อพระเครื่องจากผู้ที่ได้ไว้ในวันแรก ๆ ซึ่งต่างก็ขายให้ในราคาถูก ๆ เพราะเป็นของได้เปล่า บางคนที่ถูกชะตากันก็ให้ไปฟรี ๆ เหมือนเป็นสิ่งของไร้ค่า จนกระทั่งข่าวไปถึงในตัวเมือง คราวนี้เหล่าพ่อค้าของเก่า

รวมทั้งพ่อค้าพระเครื่องต่างก็รีบเดินทางข้ามาและกว้านซื้อทั้งสมบัติมีค่า

และพระเครื่องพระบูชาองค์เล็กองค์น้อยไปจนหมด จากราคาไม่กี่บาทก็กลายเป็นหลายร้อยหลายพันจนถึงหมื่นบาทก็มี แต่บิดาข้าพเจ้ายังคงเก็พระเครื่ององค์นั้นไว้ซึ่งก็สืบทอดเป็นมรดกของข้าพเจ้าจนบัด
นี้

ส่วนสุขนั้นก็มีฐานะดีกว่าเดิมอย่างผิดตาเขาเองก็ไม่รู้ว่าชาติก่อนเขาคือใคร

และดวงวิญญาณนั้นมีความเกี่ยวข้องกับเขาอย่างไร จึงได้เฝ้าทรัพย์ไว้ให้

สุขจึงได้แต่ทำบุญอุทิศส่วนกุศลให้เขาได้ไปเกิดใหม่ ตามที่ปรารถนามาช้านาน







แหล่งที่มา:


เครดิต :

ข่าวดารา ข่าวในกระแส บน Facebook อัพเดตไว เร็วทันใจ คลิกที่นี่!!
กระทู้เด็ดน่าแชร์