วิญญาณ "ยาย" หลอน..!

เหตุการณ์ เริ่มต้นขึ้น ตอนกลางดึกของวันหนึ่ง


คืนวันนั้นผมกับยายนั่งคุยกันริมระเบียงถึงเรื่องในอดีต วัยเพียง15ปีทำให้ผมนั่งฟังยายเล่าได้ไม่นาน




วิญญาณ \"ยาย\" หลอน..!

เหตุการณ์อันน่าตกใจก็เกิดขึ้น


สักพักผมก็ยุกยิกอยากจะไปเล่นกับเพื่อน ยายคว้ามือผมไว้มือเหี่ยวย่นน่ากลัวเหมือนหนังตายซาก สายตายายดุดันแต่เหม่อลอยมองหน้าผมเหมือนไม่ได้มอง

ผมนั่งข้างยายอย่างหวาดกลัวในกิริยาแล้วฟังเรื่องเล่าจากปาก

ยายเล่าว่าสมัยก่อนเมื่อผู้ใหญ่ในบ้านตาย ผู้ใหญ่ จะนำมะพร้าวฝรั่งมะม่วงในสวนมาบนเจ้าที่ ไม่ให้ผู้ตายมารับตัวเด็กๆ ในบ้านไปอยู่ด้วย



ยายถามผมว่า


ถ้ายายตายไปแล้วกลับมารับผมให้ไปอยู่ในโลกอีกโลกด้วยผมจะไปกับแกไหม?

ผมหัวเราะในความงมงายคนแก่ ก็อย่างนี้ พยักหน้าเสียหน่อยไม่ให้แกน้อยใจ แล้วผมก็รีบเดินไปเล่นกับเพื่อน

ยายหัวเราะอยู่คนเดียวเกือบครึ่งชั่วโมง...อีก7วันต่อมาแกก็เสียชีวิตแบบประหลาด
กลางดึกคืนสุดท้ายยายลุกพรวดพราดขึ้นมาจากเสื่อที่ปูนอน ปากตะโกนเสียงแหบว่า"ไม่เอาฉันไม่ไป ไม่เอาฉันไม่ไป ไม่เอาฉันไม่ไป" แล้วหวีดร้องเหมือนปีศาจ

ทำให้พ่อกับแม่ของผมตกใจต้องรีบจุดตะเกียงเป็นการใหญ่ บ้านริมน้ำของเราใช้ตะเกียงเป็นดวงไฟและใช้ยากันยุงแบบจุดม้วนเพื่อไล่ยุง

ห่มผ้าให้ยายแล้วผมก็นอนอยู่ข้างๆ ตัวแกสั่นกุกกัก ลองหันไปดูตาแกลืมโพลง น้ำหมากไหลย้อยออกมาจากปากตอนนอนตัวเย็นชืด ทดสอบหยิกไปที่หลังมือยายก็ไม่ตอบสนอง



ทุกคนรีบมาดูอาการแล้วลงความเห็นว่ายายจากพวกเราไปแล้ว


หลังคืนสวดศพ3วันผมนอนบนเสื่อกับพื้นกระดาน ลมแม่น้ำพัดตีเข้าบ้านเย็นสบาย กลุ่มดาวส่องประกายระยิบระยับ "แว่วเสียงไม้กระดานลั่นเหมือนมีคนเดิน"

น้ำหนักมือกดลงบนหน้าอกผมขณะนอนหงาย เสียงแหบแห้งของยายถามผมช้าๆ

"ไปอยู่กับยายนะลูกเอ๊ย..."

ร่างเกร็งแข็งพยายามยกมือมาพนมกลางอก

"ไปอยู่กับยายนะลูกเอ๊ย..." เสียงแหบโหยดังแผ่วซ้ำมาอีกครั้ง

ผมน้ำตาไหลอาบแก้มริมฝีปากหมุบหมิบสวดคาถานะโมสามจบ กระท่อนกระแท่นเต็มที เพราะความหวาดกลัวแล่นขึ้นสมอง

น้ำหนักทับบนหน้าอกหนักขึ้นทุกทีที่สวดมนต์จบคาบ น้ำหนักยายคงไม่เกิน45กิโล แต่ที่ทาบทับบนหน้าอกตอนนี้ ก็น่าจะปาเข้าไป60กิโลแล้วกระดูกกับปอดตรงทรวงอกถูกบดทับจนรวดร้าว



ผมขอร้องยายว่าอย่าเอาผมไปเลยให้เวลาอีกนิด


รอให้ผมสนุกกับเพื่อนฝูงจนเต็มคราบก่อนค่อยกลับมารับ เสียงยายหัวเราะข้างหูผมขนลุกซู่ทั่วตัว กลิ่นน้ำหมากคละคลุ้งจนเสียวสันหลัง

แล้วน้ำหนักที่อัดแน่นลงบนทรวงอกก็ค่อยถ่ายออกทีละน้อย ยายหัวเราะหมายถึงว่าตกลง..เวลาผ่านไปสองปีการเล่นกับเพื่อนคงลดน้อยลง หันไปอ่านหนังสือมากขึ้นเพื่อพัฒนาผลการเรียน

ผมลืมเรื่องยายไปเสียสนิท มาเมื่อคืนวานผมปิดไฟนอน หลับตาสวดมนต์สามคาบ แล้วแผ่ส่วนกุศลให้ผู้ล่วงลับ พอลืมตามองเพดาน ในห้องมืดหางตาผมก็มองเห็นยายนั่งอยู่ข้างๆ

"ไปอยู่กับยายนะลูกเอ๊ย..."เสียงแหบโหยดังแผ่วซ้ำกับเมื่อครั้งอดีต

ผมแทบเป็นบ้าร่างยายเต็มไปด้วยน้ำเลือดน้ำหนอง ดวงตาหลุดหายไปหนึ่งข้าง น้ำหมากกับเศษฟันหักร่วงหยดแหมะๆ เปรอะที่นอนเต็มไปหมด กลิ่นเหม็นของผีตายซากอบอวลเต็มห้อง

คราวนี้ยายเอาจริงแน่ "ผมไม่ไปกับยายหรอก"ผมส่ายหัว มือประกบพนมไหว้สิ่งศักดิ์สิทธิ์ ยายนั่งนิ่ง ตาข้างที่ยังเหลืออยู่มองผมอย่างรวดร้าวเจ็บช้ำ

ไม่มีเสียงหัวเราะจากปากแก เพียงเสี้ยววินาทีแกปราดขึ้นมานั่งทับอกผมบนเตียงมือเหี่ยวงุ้มบีบคอและพยายามล้วงเข้าไปในปากผม เรี่ยวแรงเหมือนผีสิง ผมแทบสู้แกไม่ไหว

"ยายเอาคนอื่นไปแทนได้ไหม? เอาเพื่อนผมไปแทนได้ไหม?"

ผมเอ่ยถามทางดวงจิต "....................."แกนิ่งเงียบ " ยายเอาตัวเพื่อนผมที่เข้ามาอ่านข้อความนี้ไปนะ ตอนกลางคืนเค้านอนหลับยายเข้าไปล้วงปากกินเครื่องในกินวิญญาณเค้าเลยนะยาย..."



ประสบการณ์ผี ผี โดย :ประสบการณ์ผี ผี โดย :

เครดิต :

ข่าวดารา ข่าวในกระแส บน Facebook อัพเดตไว เร็วทันใจ คลิกที่นี่!!
กระทู้เด็ดน่าแชร์