
อรหันต์ปากเสือ

ปริศนาธรรมในภาพจิตรกรรมพระอุโบสถอรหันต์ปากเสือ หรือที่ชาวบ้านเรียกว่า เสือกัดพระ วัดเทวราชกุญชร กรุงเทพมหานคร จากเนื้อหาตอนหนึ่งของ คัมภีร์สุมงฺคลวิลาสินี ทุติยภาค เล่าว่า ครั้งหนึ่งมีภิกษุ ๓๐ รูปได้เรียนกัมมัฏฐานในสำนักพระผู้มีพระภาคเจ้า แล้วพากันไปจำพรรษาในป่า โดยตกลงกันไว้ว่าจะปฏิบัติธรรมตลอดราตรี ๓ ยาม และไม่ควรไปมาหาสู่ซึ่งกันและกัน
ครั้นตอนเช้ามืดก็ออกไปพักผ่อน แต่โชคร้าย เสือตัวหนึ่งได้จับภิกษุไปกินทีละรูป รวม ๑๕ รูป โดยไม่มีภิกษุรูปใดเอะอะโวยวาย ครั้นถึงวันอุโบสถ (พวกพระภิกษุมาประชุมกัน) จึงไต่ถามกันว่าพวกภิกษุบางรูปหายไปไหน ครั้นทราบเรื่องแล้วจึงตกลงกันว่า ต่อไปนี้หากภิกษุรูปใดถูกเสือจับ ควรตะโกนกล่าวแจ้งแก่กัน จนต่อมาเมื่อพระสงฆ์เหล่านี้กลับเข้าป่าอีกครั้งหนึ่ง ก็เกิดเหตุการณ์เช่นเดิม เสือได้เข้ากัดภิกษุรูปหนึ่ง ท่านจึงร้องออกไป ภิกษุทั้งหลายจึงติดตามไปช่วย เสือก็ลากภิกษุรูปนั้นขึ้นไปบนภูเขาที่ลาดชัน เป็นทางที่พวกภิกษุผู้ติดตามขึ้นไปไม่ได้ แล้วเสือก็เริ่มกัดกินภิกษุนั้นตั้งแต่นิ้วเท้าไปก่อน พวกภิกษุที่ติดตามไปจึงบอกภิกษุรูปนั้นว่า "บัดนี้เราไม่สามารถทำอะไรได้แล้ว ในฐานะเช่นนี้ ธรรมวิเศษจะปรากฏแก่ภิกษุทั้งหลาย" ภิกษุหนุ่มนั้น นอนอยู่ในปากเสือนั่นแล ข่มเวทนานั้นไว้แล้วเจริญวิปัสสนา พอเสือกัดกินถึงข้อเท้า ท่านก็บรรลุโสดาปัตติผลพอเสือกัดกินถึงเข่า ท่านก็บรรลุสกทาคามิผล พอเสือกัดกินถึงท้องท่านก็เป็นอนาคามี ขณะที่เสือยังไม่ทันกินหัวใจนั่นเองท่านก็บรรลุพระอรหันต์พร้อมด้วยปฏิสัมภิทา
"...สีลวา วตฺตสมฺปนฺโน ปญฺญวา สุสมาหิโต
มุหุตฺตํ ปมาทมนฺวาย พฺยคฺเฆ โน รุทฺธมานโส
ปญฺชรสฺมึ โส คเหตฺวา สิลาย อุปรี กโต
กามํ ขาทตุ มํ พฺยคฺโฆ อฎฺฐิยา จ นฺหารุสฺส จ
กิเลเส เขปยิสฺสามิ ผุสิสฺสามิ วิมุตฺติยํ..."
เรามีศีล ถึงพร้อมด้วยวัตร มีปัญญา มีใจมั่นคงดีแล้วอาศัยความประมาทครู่หนึ่ง ทั้งที่มีใจไม่คิดร้ายในเสือ มันก็จับไว้ในกรงเล็บ พาไปไว้บนก้อนหิน เสือจงกินเราถึงกระดูกและเอ็นก็ตามที เราจักทำกิเลสให้สิ้นไป จักสัมผัสวิมุตติ (อรรถกถา ทีฆนิกาย มหาวรรค มหาสติปัฏฐานสูตร)
ครั้นตอนเช้ามืดก็ออกไปพักผ่อน แต่โชคร้าย เสือตัวหนึ่งได้จับภิกษุไปกินทีละรูป รวม ๑๕ รูป โดยไม่มีภิกษุรูปใดเอะอะโวยวาย ครั้นถึงวันอุโบสถ (พวกพระภิกษุมาประชุมกัน) จึงไต่ถามกันว่าพวกภิกษุบางรูปหายไปไหน ครั้นทราบเรื่องแล้วจึงตกลงกันว่า ต่อไปนี้หากภิกษุรูปใดถูกเสือจับ ควรตะโกนกล่าวแจ้งแก่กัน จนต่อมาเมื่อพระสงฆ์เหล่านี้กลับเข้าป่าอีกครั้งหนึ่ง ก็เกิดเหตุการณ์เช่นเดิม เสือได้เข้ากัดภิกษุรูปหนึ่ง ท่านจึงร้องออกไป ภิกษุทั้งหลายจึงติดตามไปช่วย เสือก็ลากภิกษุรูปนั้นขึ้นไปบนภูเขาที่ลาดชัน เป็นทางที่พวกภิกษุผู้ติดตามขึ้นไปไม่ได้ แล้วเสือก็เริ่มกัดกินภิกษุนั้นตั้งแต่นิ้วเท้าไปก่อน พวกภิกษุที่ติดตามไปจึงบอกภิกษุรูปนั้นว่า "บัดนี้เราไม่สามารถทำอะไรได้แล้ว ในฐานะเช่นนี้ ธรรมวิเศษจะปรากฏแก่ภิกษุทั้งหลาย" ภิกษุหนุ่มนั้น นอนอยู่ในปากเสือนั่นแล ข่มเวทนานั้นไว้แล้วเจริญวิปัสสนา พอเสือกัดกินถึงข้อเท้า ท่านก็บรรลุโสดาปัตติผลพอเสือกัดกินถึงเข่า ท่านก็บรรลุสกทาคามิผล พอเสือกัดกินถึงท้องท่านก็เป็นอนาคามี ขณะที่เสือยังไม่ทันกินหัวใจนั่นเองท่านก็บรรลุพระอรหันต์พร้อมด้วยปฏิสัมภิทา
"...สีลวา วตฺตสมฺปนฺโน ปญฺญวา สุสมาหิโต
มุหุตฺตํ ปมาทมนฺวาย พฺยคฺเฆ โน รุทฺธมานโส
ปญฺชรสฺมึ โส คเหตฺวา สิลาย อุปรี กโต
กามํ ขาทตุ มํ พฺยคฺโฆ อฎฺฐิยา จ นฺหารุสฺส จ
กิเลเส เขปยิสฺสามิ ผุสิสฺสามิ วิมุตฺติยํ..."
เรามีศีล ถึงพร้อมด้วยวัตร มีปัญญา มีใจมั่นคงดีแล้วอาศัยความประมาทครู่หนึ่ง ทั้งที่มีใจไม่คิดร้ายในเสือ มันก็จับไว้ในกรงเล็บ พาไปไว้บนก้อนหิน เสือจงกินเราถึงกระดูกและเอ็นก็ตามที เราจักทำกิเลสให้สิ้นไป จักสัมผัสวิมุตติ (อรรถกถา ทีฆนิกาย มหาวรรค มหาสติปัฏฐานสูตร)
(อ้างอิง: ภาพและข้อมูลจากโพสต์ของ Kosin Nityakom ในกลุ่มลักษณะไทย/museum-press.com"
Cr::IG@khunchaiyod9t
Cr::IG@khunchaiyod9t
เครดิต :
ข่าวดารา ข่าวในกระแส บน Facebook อัพเดตไว เร็วทันใจ คลิกที่นี่!!